ความชอบที่เหมือนกัน

1529 คำ
เมื่อคืนกว่าณิรินทร์ญาจะกลับมาถึงบ้านก็เกือบจะตีสามแต่เช้านี้หญิงสาวก็ยังฝืนตัวเองตื่นนอนตั้งแต่หกโมงเช้าเพื่อเอาน้ำพริกไปส่งที่ตลาดให้ทันก่อนที่แม่ค้าจะเปิดร้านในเวลาเจ็ดโมง ลูกค้าของณิรินทร์ญาเป็นแม่ค้าที่ขายของในตลาดซึ่งจะรับน้ำพริกของหญิงสาวไปวางขายอยู่หลายเจ้า เธอส่งให้กับแม่ค้าที่ตลาดแรกไปแล้วสองเจ้า เจ้าละห้าสิบกระปุกและมาส่งที่ตลาดแห่งนี้อีกร้อยกระปุก “สวัสดีค่ะเจ๊สุนีย์” “สวัสดีจ้ะณิรินน้ำพริกเจ๊ได้ครบไหม” “ครบค่ะ น้ำพริกผัดหมูร้อยกระปุกเล็กนะคะอีกสองกระปุกใหญ่ณิรินให้เจ๊สุนีย์เอาไว้กินนะคะ” “ขอบใจมากจ้ะมีของแถมให้พี่ทุกรอบเลยนะณิริน” “ณิรินต้องขอบคุณเจ๊สุนีย์มากกว่าที่ยังรับน้ำพริกของณิรินมาขายตลอด” “ก็น้ำพริกสูตรของแม่นี้ณิรินอร่อยมาก ตอนแรกเจ๊ก็คิดอยู่เหมือนกันนะว่าแม่ณิรินไม่อยู่แล้วรสชาติของน้ำพริกจะเปลี่ยนไปไหม แต่ลูกค้าก็บอกนะว่ารสชาติไม่เปลี่ยน เจ๊ก็เลยต้องสั่งน้ำพริกณิรินเป็นเป็นประจำ อาทิตย์หน้าเจ๊ขอสั่งเป็นน้ำพริกแคบหมูเพิ่มนะ” “ได้ค่ะ เจ๊จะเอากี่กระปุกคะ ถ้าร้อยกระปุกก็ราคาเดิมค่ะแต่ถ้าห้าสิบก็อีกราคาหนึ่งค่ะ” “ถ้างั้นเอามาร้อยเลยก็ได้ ฝีมือหนูอร่อยเจ๊ว่ายังไงก็ต้องขายหมดอยู่แล้ว” “ขอบคุณค่ะเจ๊ที่เชื่อใจ” “ณิรินจะเอามาส่งเช้าวันเสาร์เหมือนเดิมใช่ไหม” “ใช่ค่ะ ขอบคุณมากค่ะเจ๊” “เดี๋ยวเจ๊โอนเงินให้นะ” เมื่อเจ๊เจ้าของร้านโอนเงินค่าน้ำพริกให้กับณิรินทร์ญาแล้วหญิงสาวก็รีบกลับมาทำงานบ้าน ซักผ้าจนเสร็จเรียบร้อยก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกไปทานอาหารเช้า วันนี้หญิงณิรินทร์ญาเลือกที่จะขี่จักรยานยนต์ที่เธอใช้เป็นประจำไปยังร้านอาหารใต้ซึ่งเธอมักจะไปทานร้านนี้ในช่วงวันหยุด หญิงสาวจอดรถหน้าร้านแล้วก็รีบเข้าไปในร้านเพื่อสั่งอาหารจานโปรด “ป้าต้อยคะแกงไตปลาถุงใหญ่หนึ่งถุงค่ะ” “ป้าครับขอแกงไตปลาหนึ่งชามครับ” ทั้งสองเสียงดังขึ้นพร้อมกันทำให้แม่ค้าที่ยืนอยู่มองหน้าลูกค้าทั้งสองเพราะตอนนี้แกงไตปลาแกงไตปลาในถาดเหลืออีกแค่ชามเดียวเท่านั้น “เอายังไงดีล่ะ สั่งมาพร้อมกันแบบนี้แต่แกงเหลือของป้าแค่ชามเดียว” ป้าต้อยหันมองหน้าณิรินทร์ญาลูกค้าประจำสลับกับผู้ชายคนหนึ่งที่เพิ่งมาทานที่นี่นานๆ ครั้ง เมื่อได้ยินเจ้าของร้านพูดแบบนั้นลูกค้าทั้งสองก็หันมองหน้ากัน “อ้าวนายหัว” “ณิริน” ถึงแม้ว่าวันนี้ณิรินทร์ญาจะไม่แต่งหน้าและไม่ได้แต่งตัวเซ็กซี่เหมือนเมื่อคืนแต่นายหัวปาริธก็จำหญิงสาวได้จากน้ำเสียงและรอยยิ้มของเธอ “นี่สองคนรู้จักกันเหรอ” “ก็ไม่เชิงรู้จักหรอกค่ะ เราเคยเจอกันแค่ครั้งเดียวค่ะป้าต้อย” “เอายังไงดีแกงไตปลานี่เหลือแค่ชามเดียวเท่านั้น ไหนๆ ก็รู้จักกันแล้วก็นั่งกินด้วยกันเลยสิ” “แต่ณิรินอยากซื้อถุงใหญ่กลับไปกินที่บ้าน” “คุณจะยอมให้ณิรินซื้อกลับไปที่บ้านไหม” ป้าต้อยหันมาถาม “ฉันก็อยากกินแกงไตปลาเหมือนกันนะณิรินทำไมเราไม่กินที่นี่ด้วยกันล่ะฉันเลี้ยงเธอเองก็ได้” “นายหัวไม่ต้องเลี้ยงณิรินหรอกค่ะ เราช่วยกันออกคนละครึ่งก็ได้” “ตกลงกินที่นี่นะ” “ค่ะป้าต้อย ณิรินเอาแกงไตปลากับขนมจีนนะคะ” “แล้วคุณล่ะเอาแกงไตปลาแล้วเอาอะไรเพิ่มไหม” “ผมเอาเขาสวยแล้วก็ผัดไก่ใบยี่หร่าแล้วก็คั่วกลิ้งครับ” “ได้จ้ะไปนั่งรอเลยนะเดี๋ยวป้ายกไปให้” รอไม่นานนักอาหารทุกอย่างก็วางตรงหน้า “เธอชอบกินแกงไตปลาเหรอ” นายหัวปาริธถามขณะที่หญิงสาวนั่งทานแกงไตปลากับขนมจีนด้วยความเอร็ดอร่อย “ชอบมากๆ เลยค่ะมันทั้งเผ็ดและร้อนสะใจดี” หญิงสาวพูดแล้วสูดปากซี้ดซ้าดเพราะความเผ็ดแต่นั่นมันกลับทำให้คนมองคิดไปแบบอื่นด้วยน้ำเสียงและท่าทางแบบนี้มันทำให้เขาต้องรีบก้มหน้าทานอาหารตรงหน้าเพราะท่าทางแบบนั้นมันทำให้เขาจินตนาการไปไกล “ดูท่าทางเธอจะเผ็ดมากนะ กินน้ำหน่อยไหม” “ใช่ค่ะแต่ยิ่งเผ็ดก็ยิ่งอร่อย รสชาติแกงไตปลาร้านป้าต้อยเหมือนทางใต้ไหมคะนายหัว” “รสชาติก็คล้ายๆ กันนั่นแหละ ร้านนี้ทำใกล้เคียงกับแถวบ้านฉันมากที่สุด ทุกครั้งที่ฉันมากรุงเทพก็เลยมักจะแวะมากินบ่อยๆ แล้วเธอล่ะ มากินบ่อยไหม” “ณิรินมากินช่วงวันเสาร์หรือไม่ก็วันอาทิตย์ค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะไม่นั่งกินที่นี่หรอกจะซื้อไปนั่งกินที่บ้านเพราะกินที่นี่แล้วมันจะน่าเกลียดแบบที่นายหัวเห็นนั่นแหละค่ะ” “น่าเกลียดยังไง” “ก็มันเผ็ดมากทั้งน้ำหูน้ำตาไหลหมดแบบนี้นั่งกินที่นี่คงต้องอายคนอื่นมากๆ” “แต่ตอนนี้เธอก็นั่งกินต่อหน้าฉันนะไม่อายเหรอ” “ณิรินเลือกได้ที่ไหนล่ะคะ ไม่ได้มากินร้านนี้ตั้งสองอาทิตย์พอวันนี้มีโอกาสมากินแล้วจะให้กลับบ้านไปทั่งที่ยังไม่ได้กินได้ยังไงล่ะ ของอร่อยอยู่ตรงหน้ายังไงก็ต้องเลือกกินเอาไว้ก่อน” “เธอกินแต่แกงไตปลาอย่างเดียวไม่กินคั่วกลิ้งกับผัดไก่ใบยี่หร่าบ้างเหรอ” “สองอย่างนั้นมันต้องกินกับข้าวสวยค่ะ กินกับขนมจีนมันต้องแกงไตปลาแบบนี้” “เอาเขาสวยไหมล่ะสั่งเพิ่มสิ” “แค่นี้ท้องก็จะแตกแล้วค่ะ” “แต่ฉันว่าท้องเธอจะแตกก็เพราะน้ำที่เธอกินตามเขาไปมากกว่านะ กินเผ็ดไม่ค่อยได้แล้วยังจะฝืนกิน” “ก็บอกแล้วไงคะนายหัวว่ามันอร่อยมากๆ” “ทำไมถึงชอบกินอาหารใต้ล่ะ” “พ่อของนี้ณิรินคนใต้ค่ะ ตอนที่พ่อยังอยู่พ่อก็ทำให้กินบ่อยๆ แต่ตอนนั้นณิรินเด็กมากเลยไม่ได้ฝึกทำกับพ่อ ก็เลยต้องมาพึ่งร้านป้าต้อยแบบนี้ล่ะค่ะ” “ถ้าชอบกินมากๆ ฉันจะส่งอาหารใต้มาให้กินเอาไหมล่ะ” “ไม่ต้องลำบากนายหัวแล้วหรอกค่ะ ร้านป้าต้อยก็มีขายทุกอย่างแต่” “ร้านป้าต้อยไม่มีแกงไตปลาแห้งนะฉันว่าเธอน่าจะชอบ” “แต่ก่อนร้านป้าต้อยก็มีนะคะแต่คนไม่ค่อยนิยมกินป้าแกก็เลยไม่ทำ” “แล้วอยากกินไหมล่ะ ป้าแดงแม่บ้านของฉันทำอร่อยมากๆ เดี๋ยวฉันส่งมาให้ก็ได้” “มันจะไม่เสียเหรอคะ” “ไม่น่าจะเสียนะเดี๋ยวนี้เขามีบริการรับฝากของผ่านรถห้องเย็นเธอส่งที่อยู่ให้ฉันในไลน์สิถ้าฉันกลับถึงสุราษฎร์แล้วฉันจะให้ป้าแดงทำและส่งมาให้เธอ” “ณิรินว่าอย่าลำบากเลยค่ะ ถ้าเกิดส่งมาแล้วมันเสียจะเสียดายของเอา” “ถ้างั้นฉันฝากเครื่องมาก็ได้เธอไปรับที่สนามบินได้ไหมล่ะ” “อย่าทำให้มันยุ่งยากเลยค่ะ ณิรินไม่ได้เห็นแก่กินขนาดนั้นหรอก” “ถ้าเธอไม่ให้ฉันส่งมาให้ ถ้างั้นวันไหนฉันขึ้นมากรุงเทพฉันจะเอาอาหารมาฝากก็แล้วกันนะ” “แบบนี้ค่อยโอเคหน่อยค่ะ ณิรินขอบคุณนายหัวล่วงหน้าก็แล้วกันนะคะ” หญิงสาวตอบตกลงเพราะไม่คิดว่าเขาจะเดินทางขึ้นมากรุงเทพบ่อยๆ เนื่องจากจากคุณชินเจ้าของผับบอกว่านานๆ ครั้งนายหัวคนนี้ถึงจะขึ้นมาที่กรุงเทพ “ฉันว่าถ้าเธอได้กินอาหารฝีมือป้าแดงเธอต้องติดใจมากแน่ๆ” นายหัวปาริธรู้สึกดีที่มีคนชอบทานอาหารใต้เหมือนกันเขา เพราะที่ผ่านมาผู้หญิงที่เขาคบด้วยไม่ค่อยชอบทานอาหารแบบนี้เท่าไหร่เพราะนอกจากรสชาติที่จะจัดจ้านแล้วกลิ่นก็ค่อนข้างจะแรงด้วย หลังจากทานอาหารแล้วทั้งสองก็แยกย้ายกันซึ่งอาหารมื้อนี้ทั้งสองแบ่งกันจ่ายคนละครึ่งเพราะณิรินไม่อยากจะเป็นหนี้บุญคุณเขาอีกอย่างเมื่อคืนเธอก็ได้เงินจากค่าเครื่องดื่มของเข้ามาค่อนข้างเยอะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม