11 นัดดูตัว

1584 คำ
หลายวันมานี้เธอพยายามหลบหน้าเขาตลอด พอวันสุดท้ายของภาคเรียน เธอรีบกลับห้องแล้วเก็บของออกจากห้องไป เรียกรถมุ่งหน้าสู่สนามบิน จ.เชียงใหม่ ไร่ชาธารธารา “สวัสดีค่ะคุณยายคุณตา คิดถึงจังเลย” พอนั่งรถมาถึงสนามบินเชียงใหม่ ตากับยายก็มารอรับแบบนี้ทุกครั้ง ตั้งแต่สมัยเรียนม.ปลายแล้ว “ตัวแสบของตามาให้ตากอดหน่อย” ตายายหลานกอดกันด้วยความคิดถึง “กลับบ้านกันเถอะ วันนี้ยายสั่งคนทำกับข้าวรอหนูเยอะแยะเลย ” ต่อให้เธอจะไร้ค่าสำหรับใคร แต่สำหรับที่บ้านเธอก็คือคนสำคัญเสมอ “ไปกันค่ะ แล้วคุณพ่อกับคุณแม่ละคะ” ปกติพ่อกับแม่ก็จะมารับด้วย แต่วันนี้มีแค่ตากับยาย “พ่อกับแม่เขาเข้าบริษัทหนะลูก ไปกันเถอะ” นั่งรถจากสนามบินเข้าไร่ก็นานพอสมควร กว่าจะมาถึงก็บ่าย ที่ไร่เปิดเป็นไร่ธารธาราให้คนเข้าพัก ชมสวนชมบรรยากาศที่สวยงามมีอาหารการกิน ที่พักที่สะอาดอากาศบริสุทธิ์ และจะมีบ้านหลังใหญ่ที่เป็นบ้านของคุณตาคุณยาย พอเธอกลับมาช่วงปิดเทอมก็จะมาพักที่นี่ประจำ “สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้า พี่แจน” พอเข้ามาในบ้านก็เห็นญาติผู้พี่ที่เป็นพี่เธอหนึ่งปี และก็พ่อกับแม่เขานั่งกันพร้อมหน้าพร้อมตา “อ้าวมาแล้วเหรอหลาน ” “ยัยจูนมาให้กอดหน่อยคิดถึงจัง” จูนก็สนิทกับแจนพอสมควร เพราะเมื่อตอนเป็นเด็กก็เล่นด้วยกันตลอด และช่วงปิดเทอมจูนก็จะกลับมาทุกปี ส่วนคุณป้ากับคุณลุงก็อยู่กับคุณตาคุณยายนี่แหละ ช่วยกันดูแลรีสอร์ทและทำธุระกิจอีกหลายอย่าง แต่พ่อกับแม่เธอเปิดบริษัทอยู่อีกที่ ก็จะกลับมาที่ไร่ชาเป็นบางครั้ง เมื่อก่อนก็บินไปกลับเชียงใหม่กรุงเทพตลอด พอเธอขึ้นปี1พ่อกับแม่ก็ไม่ค่อยไป เพราะเธอโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว “คิดถึงเหมือนกันค่ะพี่แจน” เรียวแขนเล็กวาดกอดกันและกันอย่างคิดถึง “ยายว่าเดี๋ยวค่อยคุยกันดีกว่า หิวมั้ยลูกทานข้าวก่อนดีกว่า” ถ้ายายไม่พูดก็คงไม่หิวหรอก พอยายพูดท้องก็ร้องจ้อกขึ้นมาทันที “หิวค่ะ งั้นเราไปทานข้าวกันค่ะพี่แจน” “โอเคจ๊ะ” อาหารหลายอย่างถูกจัดวางบนโต๊ะไม้สักขนาดใหญ่ ท่ามกลางเสียงหัวเราะพูดคุยกันไปเรื่อย “ทานกันเยอะๆนะหลานๆ” ยายยังคอยบอกแม่บ้านให้เติมกับข้าวอยู่ตลอด “คุณยายก็ทานเยอะๆนะคะ” จูนตักอาหารให้ยายกับตากลับบ้าง หลังกินข้าวเสร็จ สองสาวก็ชวนกันเดินเล่นตามประสา คนที่ไม่ได้เจอกันนาน “หืม อะไรกันคะพี่แจนนัดดูตัวเหรอคะ ” เดินคุยกันไปได้ซักพัก จูนถึงกับตาโตเมื่อพี่สาวบอกว่าพรุ่งนี้พ่อกับแม่นัดคู่ดูตัวให้ “ใช่พี่ให้เพื่อนสืบๆมาแล้ว หล่อรวยโสดแต่เดี๋ยวรอดูอีกทีพรุ่งนี้” แจนพูดไปยิ้มเขินอายไป “งุ้ย!!พี่แจนถ้าเป็นแบบที่พี่ว่าจริง มันคือที่สุดแล้วค่ะ ทุกวันนี้ทั้งรวยทั้งโสดมันหาไหนไม่ได้แล้วนะคะ” จูนเองก็พลอยตื่นเต้นไปกับพี่สาวด้วย “แต่เขาจะชอบพี่รึเปล่านี่สิ พี่ไม่มั่นใจในตัวเองเลย” “พี่สาวจูนสวยขนาดนี้ ถ้าไม่ชอบก็สายตามีปัญหาแล้วค่ะ” เธอแกล้งแซวพี่สาวเล่นๆ แต่ก็ทำเอาแจนเขินอายจนหน้าแดง “เอางี้ไปช่วยพี่เลือกชุดที่จะใส่พรุ่งนี้ที” แจนพูดอย่างตื่นเต้น ชวนจูนไปไปเลือกดูเสื้อผ้า “ได้ค่ะพรุ่งนี้พี่แจนต้องสวย เดี๋ยวจูนช่วยเลือกชุดเองค่ะ ” สองพี่น้องกลับเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ เลือกชุดที่จะให้แจนใส่ดูตัวในวันพรุ่งนี้ “ชุดนี้สวยป่ะ” แจนหยิบชุดนั้นชุดนี้ขึ้นมาทาบ แล้วถามจูนคนที่คอยช่วยเลือก “ชุดนี้สวยมากค่ะพี่แจน จูนว่าเอาชุดนี้แหละ” ชุดเดรทเนื้อผ้าอย่างดีถูกแยกออกไว้ “เลือกอีก2ชุดนะ ครอบครัวเขาจะมาพักที่ไร่ด้วย” จูนช่วยแจนเลือกชุดอยู่นาน กว่าจะได้ชุดถูกใจเล่นเอาจนฟ้ามืด และพ่อแม่ของจูนก็กลับมาพอดี “พ่อขาแม่ขาสวัสดีค่ะ ” ร่างบางรีบสวมกอดพ่อกับแม่อย่างคิดถึง ฟ้อด ฟ้อด “คิดถึงจังเลยลูก /พ่อก็คิดถึงลูกนะ” พ่อกับแม่กอดตอบ แล้วหอมที่ผมนุ่มลูกสาวเบาๆอย่างคิดถึง “พ่อกับแม่รู้เรื่องพี่แจนจะนัดดูตัวรึเปล่าคะ” จูนตามพ่อกับแม่เข้ามาในห้องนอนด้วย เพราะอยากเม้าท์มอยกับพ่อแม่ให้หายคิดถึง “รู้สิลูกเห็นว่าฝั่งนู้นรวยมาก ลุงเขาอยากเปิดธุระกิจย่านนั้น เลยต้องให้พี่แจนแต่งงานกับฝั่งนั้น เพื่อจะได้เปิดเส้นทางการทำธุรกิจอะไรนี่แหละ แต่อย่าพูดไปละเดี๋ยวพี่สาวเราจะเสียหาย เพราะเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่คุยกัน” จูนนิ่งฟังอย่างตั้งใจ เรื่องมันก็เป็นแบบนี้นี่เอง “แบบนี้เองเหรอคะ ” จูนนั่งคุยกับพ่อแม่จนดึก แล้วค่อยกลับไปนอนห้องตัวเอง @ลีโอ “ผมไม่ไปครับ ใครอยากไปดูก็ไปผมไม่ไปทั้งนั้น” เขาปฏิเสธเสียงแข็ง พึ่งกลับมาถึงบ้านตอนค่ำๆ ปู่เขาก็บอกข่าวร้ายในชีวิต นั่นคือการไปดูตัว กับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ “ผู้ใหญ่คุยกันไว้แล้ว ยังไงก็ต้องไป” พ่อของเขาพูดขึ้น “เรื่องของผู้ใหญ่สิครับ ถามผมซักคำมั้ยว่าผมอยากดูรึเปล่า ถ้าผมจะต้องแต่งงานแค่แม่ของลูกผมหาเองได้” เขาไม่ใช่คนที่จะมาจับคลุมถุงชนได้ง่ายๆหรอก “นี่แกจะขัดคำสั่งปู่เหรอ แกมันหลานแบบไหนกัน” ปู่เขาพูดขึ้นด้วยความโมโห “ผมไม่ไป แล้วปู่ก็ไม่ต้องมาบังคับผม ถ้าขืนยังบังคับผมอยู่แบบนี้ ต่อไปผมคงไม่กลับมาที่นี่อีก” ลีโอเตรียมหันกลับไปที่ประตูทางเข้า ไม่คิดว่าการกลับมาพักช่วงปิดเทอมครั้งนี้จะเป็นฝันร้าย “ถ้าแกกล้าไป แกไม่ต้องมาเรียกฉันว่าปู่ อนันต์ถ้าลีโอมันกล้าขัดคำสั่ง ฉันจะลบชื่อมันออกจากพินัยกรรม มันจะไม่ได้อะไรจากฉันแม้สตางค์แดงเดียว” ปู่อินธรยื่นคำขาด “คุณพ่อ/คุณปู่” ทั้งลีโอและก็อนันต์พ่อของเขา โพล่งขึ้นเสียงดัง ไม่คิดว่าปู่จะถึงขั้นตัดเขาออกจากกองมรดกขนาดนี้ ทั้งที่เขาเป็นหลานรักมาตลอด “แกอย่าคิดว่าฉันจะไม่กล้าทำนะ ฉันตามใจแกมามากแล้ว ทำอะไรตามอำเภอใจมาตลอดฉันไม่เคยขัด ครั้งนี้ถึงเวลาที่แกต้องทำเพื่อครอบครัวบ้างแล้ว” ลีโอยืนนิ่งก้าวขาไม่ออก ไม่ใช่ว่าอึ้งกลัวไม่ได้สมบัติ แต่อึ้งว่าปู่จะกล้าตัดหลานอย่างเขาออกจากกองมรดกจริงเหรอ “งั้นก็ตัดเถอะครับผมไม่เอา” ลีโอขบกรามแน่น ไม่ให้ก็ไม่เอาคนอย่างเขายอมหักไม่ยอมงออยู่แล้ว “หยุดนะลีโอ แกอย่าคิดอะไรบ้าๆนะ” อนันต์รีบห้ามเขาเอาไว้ “ลีโอใจเย็นก่อนนะลูก แม่ว่ามีอะไรเราค่อยๆคุยกันดีมั้ย” วิชุดารีบเดินไปจับแขนลูกชายเบาๆ เพื่อรั้งเอาไว้ไม่ให้ลูกชายทำอะไรบ้าๆ “ใช่ค่ะพี่ใจเย็นก่อนนะ เดี๋ยวพวกเรามาหาทางออกร่วมกัน” ลีอาห์น้องสาวของเขาก็ช่วยพูดให้พี่ชายใจเย็นด้วย “เฮ้อ!!” ลีโอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ยอมนั่งลงที่โซฟา แต่ก็ยังทำหน้าเหมือนคนเบื่อโลกอยู่ดี “ใจเย็นๆก่อนนะลีโอ ลูกแค่ไปดูตัวก่อนก็ได้ ส่วนเรื่องแต่งคงยังไม่ใช่เร็วๆนี้หรอก เชื่อแม่นะ” วิชุดารีบปลอบใจลูกชาย ทั้งที่เธอเองก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการที่ต้องทำแบบนี้ แต่ด้วยพ่อของสามีที่ยังไม่ยอมวางมือซักที ยังหลงไหลในอำนาจและเงินทองอยู่ จึงเป็นเหตุให้ลูกชายของเธอต้องมารับกรรม “ว่ามาครับ ทำไมเราต้องเกี่ยวดองกับฝั่งนั้น” คราวนี้เขานั่งลงอย่างใจเย็นพร้อมถามหาเหตุผล ถึงในใจมันจะร้อนเหมือนมีไฟกองใหญ่กำลังแผดเผาก็เถอะ “ก็เรื่องธุระกิจนั่นแหละ ฝั่งนั้นก็รู้จักคนใหญ่คนโตเยอะ เราจะได้ไม่มีปัญหาในการทำธุรกิจ ส่วนฝั่งนั้นก็กำลังจะมาเปิดทำธุรกิจแถวนี้ เรียกว่าเป็นการพึ่งพากันจะถูกกว่า” เป็นอนันต์ที่อธิบายให้ลูกชายฟัง เขาไม่ได้ใจเย็นแต่เขามีวิธีพูดกับลูกชาย รู้ว่าลูกชายเป็นคนรั้น เขาจึงต้องใช้น้ำเย็นลูบ ยิ่งถ้าระเบิดอารมณ์ใส่กัน ลีโอจะยิ่งไม่ฟังใครเลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม