bc

นางบำเรอซาตาน

book_age18+
1.8K
ติดตาม
21.9K
อ่าน
จบสุข
ใช้กำลัง
ผู้สืบทอด
คนใช้แรงงาน
ดราม่า
like
intro-logo
คำนิยม

“หนึ่งปีในฐานะนางบำเรอ แลกสิบล้าน..."

เธอขายศักดิ์ศรีเพื่อรักษาชีวิตของยายที่กำลังจะตาย

เขาซื้อเธอด้วยเงินสิบล้าน...โดยไม่สนว่าเธอจะรู้สึกอะไร

สำหรับเขา เธอคือของเล่นราคาแพงที่ต้องมาเมื่อเรียก ห้ามรัก ห้ามหวัง

แต่สำหรับเธอ...หัวใจมันไม่เคยฟังเหตุผล

ณัฐณิาชาเคยคิดว่าเธอเข้มแข็งพอจะทนไหว

แต่ในทุกค่ำคืนที่ต้องหลั่งน้ำตาในความเงียบ เธอเริ่มตั้งคำถามว่า...

ความเจ็บปวดที่ต้องแลกมา มันคุ้มค่ากับเงินก้อนนั้นจริงๆ หรือเปล่า?

และเมื่อเวลาผ่านไป...คนที่เคยไร้หัวใจก็เริ่มหวั่นไหว

แต่ตอนนั้น...เธออาจเดินจากเขาไปแล้ว พร้อมหัวใจที่แตกสลาย

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
ตอนที่1
ในแวดวงธุรกิจ ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของ กวิน วิรุฬห์ธนกิจ นักธุรกิจหนุ่มผู้ทรงอิทธิพล เจ้าของอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ระดับหมื่นล้านที่ขยายเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ เขาคือบุรุษผู้เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ทั้งใบหน้าหล่อเหลาคมคาย เรือนร่างสมบูรณ์แบบราวกับสรรสร้างโดยประติมากรเอก และที่เหนือกว่านั้นคือภาพลักษณ์แห่งชนชั้นสูงที่ยากจะเอื้อมถึง กวินคือชายในอุดมคติที่สตรีน้อยใหญ่ทั่วฟ้าเมืองไทยต่างเฝ้าฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่สตรีสูงวัยหรือแม่บ้านผู้เพียบพร้อม ต่างล้วนปรารถนาจะได้แนบกายเคียงข้างเขาทั้งนั้น ทว่า... หัวใจของบุรุษผู้เพียบพร้อมคนนี้ กลับยังไม่เคยมีใครสามารถครอบครองได้เลยแม้เพียงผู้เดียว เขาไม่เคยควงใครซ้ำเป็นครั้งที่สอง พฤติกรรมของเขาช่างเย็นชาเสียจนผู้คนเปรียบเปรยว่า... หญิงสาวที่เขาเชยชม เป็นเพียงกระดาษทิชชูแผ่นหนึ่ง ใช้แล้วก็ทิ้ง พอถึงเวลาก็หยิบแผ่นใหม่ขึ้นมาแทนที่ เขาเรียบง่าย ไร้อารมณ์ และเย็นชา กระนั้น... ผู้หญิงมากมายก็ยังคงยินดีสมัครใจเข้ามาในชีวิตเขา แม้จะรู้ดีว่า สิ่งที่ได้รับอาจมีแค่ความสัมพันธ์ “ข้ามคืน” เท่านั้น ไม่มีใครล่วงรู้ว่าเหตุใด ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติ จึงยังครองความโสดมานานกว่าสามสิบปี ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มกระตุกยิ้มเพียงน้อย แต่ในแววตากลับฉายชัดถึงความกรุ่นเกรี้ยว เขามองร่างเล็กตรงหน้า เด็กสาวผิวขาวนวลราวหยาดน้ำนม ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความฝืนกล้ำกลืนต่อข้อเสนอที่กลุ่มเพื่อนของเขาหยิบยื่นให้ กวินยกแก้วเครื่องดื่มสีอำพันขึ้นแนบริมฝีปาก ดื่มรวดเดียวจนหมด หากเป็นคนทั่วไป คงรู้สึกขมฝาดจนสะท้าน แต่ไม่ใช่กับเขา... ชายหนุ่มเติมเหล้าในแก้วอย่างใจเย็น พลางยังจับจ้องร่างเล็กตรงหน้าราวกับเหยื่อที่ไม่มีทางหนี เขาเกลียดใบหน้าใสซื่อ เกลียดท่าทีไร้เดียงสาที่อีกฝ่ายแสดงออกมา ในสายตาเขา เหมือนกำลังดูละครฉากหนึ่ง.. ใช้ความบริสุทธิ์เป็นฉากบังหน้าเพื่อจับเหยื่อกระเป๋าหนัก และคงตั้งใจจะขายร่างกายเพื่อแลกกับเงินตราไม่ต่างจากสินค้าในคราบคน เหมือนที่ผ่านๆมา “ว่าไง น้องคนสวย ถ้าดื่มแก้วนี้ พี่ให้ห้าพัน” เสียงหยอกล้อแฝงความท้าทายดังขึ้นจากรอบโต๊ะ หญิงสาวแสดงสีหน้าอึดอัด แต่ดวงตากลับเบิกกว้างขึ้นทันทีเมื่อได้ยิน ‘ผลตอบแทน’ กวินยิ้มเยาะในลำคออย่างเยือกเย็น เพราะไม่ว่าใคร... ก็ยากจะต้านทานเงินทองได้ แสงสีในผับมิได้ลดทอนความงดงามของ ณัฐณิชา ไปแม้แต่น้อย ใบหน้าหวานละมุน รูปไข่สมส่วน ดวงตากลมโตสดใส จมูกเชิดเล็ก ๆ ชูให้ริมฝีปากสีชมพูอวบอิ่มดูน่าหลงใหล ผิวเนียนขาวใสของเธอสะท้อนแสงไฟระยิบระยับ ยิ่งเพิ่มเสน่ห์จนยากจะละสายตา ชุดพนักงานเสิร์ฟธรรมดา ๆ ไม่อาจพรากความเย้ายวนของรูปร่างงดงามโดยเฉพาะทรวงอกคู่โตที่ชูชันราวกับท้าทายให้ใครต่อใครต้องเหลียวมอง เมื่อถูกยื่นข้อเสนอ หญิงสาวทำสีหน้าเลิกลัก มองแก้วเหล้าเล็ก ๆ ใสสะอาด ราวกับน้ำเชื่อมที่ไร้กลิ่นรุนแรง แต่กลับลอยอบอวลด้วยกลิ่นหอมละมุนแตะจมูกอย่างนุ่ม ณัฐณิชาเม้มริมฝีปากแน่น ใจอยากถอยห่างจากโต๊ะลูกค้าวีไอพีซึ่งถือเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจในร้าน แต่เธอกลับถูกล้อมรอบด้วยพวกเขาอย่างแน่นหนา มือเล็ก ๆ ของเธอสองข้างประสานกันแน่น เพื่อรวบรวมความกล้าและลดความหวาดหวั่นที่พานพบในการทำงานเพียงวันแรกนี้ ทว่า... เธอกลับต้องเผชิญกับ “การรับน้อง” จากลูกค้าพวกนี้เสียแล้ว “ขอโทษค่ะคุณลูกค้า ดิฉันต้องไปเสิร์ฟเครื่องดื่มที่โต๊ะอื่นต่อ ช่วยเปิดทางให้หน่อยได้ไหมคะ?” เสียงหวานเอ่ยอย่างสุภาพ พร้อมใบหน้าก้มต่ำ แฝงความอ้อนวอนขอความเห็นใจจากผู้ฟัง “น้องคนสวย ยังไม่บอกชื่อพี่เลยนะ” ชัชวาลเอ่ยเสียงหยอกล้อ มือหนาถือวิสาสะเบา ๆ แตะแขนขาวของณัฐณิชาอย่างแผ่วเบา หญิงสาวสะดุ้ง หลบถอยออกไปด้วยความตกใจ เธอรู้ดีว่าแท้จริงแล้วตนไม่เหมาะสมกับงานนี้เลย ความหวาดหวั่นเริ่มกัดกร่อนใจให้สั่นคลอน สายตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว น่าสงสารอย่างยิ่ง แต่หนุ่ม ๆ รอบข้างกลับหัวเราะอย่างพอใจในท่าทีเหล่านั้น ‘เล่นละครเก่ง’ นั่นคือคำที่ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลา ทรงอำนาจ กล่าวอย่างเงียบ ๆอยู่ในใจ “ไอ้ชัช ไอ้ที อย่าไปแกล้งเขาเลย ดูสิ... เธอกลัวจนตัวสั่นแล้วนะ” กวินวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะด้วยท่าทีจริงจัง พลางหันไปต่อว่าเพื่อนด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ณัฐณิชายกหน้าขึ้นมองด้วยความโล่งใจ ราวกับได้ยินเสียงสวรรค์ช่วยปลอบประโลม ดวงตากลมโตจ้องสบกับสายตาคมดุดันของเขาอย่างช้า ๆ “ขอโทษครับ เพื่อนผมเล่นแรงไปหน่อย” น้ำเสียงอ่อนโยนดุจเทพบุตรผู้ประทานมา ทว่าเบื้องหลังนั้นซ่อนเร้นด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ณัฐณิชายิ้มรับคำขอบคุณด้วยความจริงใจ ร่างบางเตรียมจะหันหนีไป แต่ยังไม่ทันได้เคลื่อนไหวก็ถูกหนุ่มแว่นตัวสูงกักกันไว้เสียก่อน “ไอ้ที ปล่อยน้องเขาไปเถอะ” กวินกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เมื่อนทีสบตากับเพื่อนสนิท ก็รับรู้ได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่คำสั่งจริงจัง “แต่น้องเขายังไม่ทันได้ดื่มเลยนะโว้ย!” เขาแกล้งโวยวาย จ้องมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างจาบจ้วง ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด “ให้ตายสิแกนี่มัน... เอาเถอะ งั้นเธอช่วยดื่มแก้วนี้ได้ไหม แล้วก็บอกชื่อมาด้วยนะ ฉันให้สองหมื่นเลย” กวินไม่รอช้า หยิบกระเป๋าตังค์ออกมา ควักแบงก์พันทั้งหมดในกระเป๋าวางลงบนโต๊ะข้างแก้วเหล้าสีใสอย่างไม่ลังเล เสียงโห่ร้องแซวจากชัชวาลและนทีดังขึ้นราวกับเป็นเรื่องสนุกสนาน ทุกคนรู้ดีว่าเพื่อนของตนถูกใจเด็กสาวคนนี้เข้าเต็มเปา สองหมื่นบาทนั้น คงเป็นค่าตัวของเธอสำหรับคืนนี้อย่างไม่ต้องสงสัย “รีบดื่มเถอะ จะได้รีบไปทำงาน” เสียงเทพบุตรคะยั้นคะยอเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่แฝงไว้ด้วยแรงกดดัน ณัฐณิชาจ้องแก้วเหล้าอย่างลังเล ก่อนจะรวบรวมใจคว้ามาดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว ความแสบและความฝาดปลายลำคอทำให้ร่างเล็กไอเบา ๆ น้ำใสไหลผ่านลำคอพร้อมกับความแสบร้อน เธอไม่ลืมคว้ากองเงินปึกเล็ก ๆ ที่วางอยู่มาด้วยทันที แต่เมื่อเธอหันหลังจะกลับ ร่างเล็กกลับเกิดอาการเข่าอ่อน ทรุดตัวลงอย่างช่วยไม่ได้ มือเรียวรีบจับขอบโซฟาไว้ทัน ประคองตัวไม่ให้ล้ม “ไหวไหมนั่น?” เสียงหนึ่งในสามหนุ่มดังขึ้นมา ท่ามกลางความมึนงง ณัฐณิชาแยกไม่ออกว่าเป็นเสียงของใคร หูราวกับฟาดฟื้นในความวุ่นวาย เสียงต่าง ๆ แทรกซ้อนกันจนพร่าไปหมด สายตาเริ่มพร่ามัวคล้ายหมอกหนาทึบ เธอกลั้นใจรวบรวมแรงก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ร่างระหงส์ค่อย ๆ พยุงตัวเดินไปยังห้องน้ำ มือเล็กรีบเปิดน้ำเย็น แล้วกวักสายน้ำชโลมใบหน้าลวกๆ มืออีกข้างจับขอบอ่างอย่างมั่นคง สายตาพร่ามัวจับจ้องใบหน้าตัวเองในกระจก ใบหน้าขาวใสกลับแดงเรื่ออย่างน่าแปลกใจ จมูกโด่งเชิดยิ่งเด่นชัดขึ้นด้วยสีแดงนั้น ดวงตาเลื่อนลอยราวกับคนเมา และนั่นแหละ... คนในกระจกคือหญิงสาวที่เพิ่งลิ้มลองรสเหล้าแก้วแรกในชีวิต “ไหวหรือเปล่า...” เสียงทุ้มต่ำ ดังขึ้นจากด้านหลัง ณัฐณิชาตาเบิกกว้าง หัวใจสะท้านวาบเมื่อเห็นเงาสะท้อนในกระจก เขา...ชายหนุ่มที่ช่วยเธอหันขวับกลับไปโดยไม่ทันยั้งคิด แรงเหวี่ยงจากการเคลื่อนไหวเร็วเกินไป ทำให้ความมึนงงที่เพิ่งบรรเทาลงพุ่งขึ้นเป็นระลอกใหญ่ โลกหมุนคว้างในพริบตาพาเธอหลุดพ้นจากวงล้อมแห่งความอึดอัด เธอรู้ทันทีว่าร่างกายกำลังจะทรุด ตากลมสวยค่อย ๆ ปิดลงช้า ๆ ยอมจำนนต่อสัญชาตญาณ รอเพียงแค่...แรงกระแทกจากการล้มที่กำลังจะเกิดขึ้นในวินาทีถัดไป “อ๊ะ...” เสียงหลุดออกจากริมฝีปากอย่างแผ่วเบา เมื่อตากลมโตค่อย ๆ ลืมขึ้น ภาพแรกที่ปรากฏคือแผงอกกำยำของชายหนุ่ม มือหนารวบเอวเธอไว้แน่น กระชับราวกับจะไม่ยอมให้หลุดไปไหน “ขะ...ขอบคุณค่ะ” ณัฐณิชาได้สติในชั่ววูบ เธอพยายามผลักอกแกร่งนั้นออกเบา ๆ ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก ดวงตาคมเต็มไปด้วยแววเย้ยหยันที่ปิดไม่มิด “หึ...” เสียงหัวเราะในลำคอดังเบาแต่กรีดลึก เขาเริ่มเบื่อหน่ายกับละครบทนี้เต็มที สายตาหวาดหวั่น กับท่าทีเงอะงะที่เพิ่งแกล้งเซล้มตรงหน้าเขา ทุกอย่างช่างถูกจัดวางอย่างบรรจง การอ่อยเชิญชวนที่แนบเนียนถึงเพียงนี้...มันน่าขันเสียจนแทบหลุดหัวเราะออกมา “คะ... คุณช่วยถอยออกไปได้ไหมคะ?” มือเล็ก ๆ กับแรงอันน้อยนิดพยายามผลักร่างของเขาออกห่าง หากแต่ชายหนุ่มไม่สนใจแรงมดของตัวเล็กนั้น เสียงหวานกับริมฝีปากอวบอิ่มที่ขยับเอื้อนเอ่ยราวกับยั่วยวน ยิ่งทำให้เขาหยุดไม่ได้ คนตัวสูงก้มลงประกบปากเล็ก ๆ นั้น ริมฝีปากหนาบดขยี้ลงบนกลีบปากบาง เขาเลียชิมไปทั่ว ก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของคนที่อ่อนระทวย กลิ่นวอดก้าชั้นดียังติดตรึงอยู่ทั่วปาก... ไม่มีการตอบสนองกลับมา ชายหนุ่มจึงถอนปากออก มองร่างเล็กที่คอพับไปแล้ว “หึ...” แทนที่จะตกใจ เขากลับกระตุกยิ้ม ในเมือเธออยากเล่นบทสาวน้อยไร้ประสบการณ์ เขาก็จะจัดให้ตามนั้นก็แล้วกัน

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
7.4K
bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
10.5K
bc

วิญญาณตามรัก

read
1K
bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
2.1K
bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
16.8K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K
bc

หยุดหัวใจไม่รักดี

read
4.3K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook