บทที่ 6 ไนน์ตี้ไนน์คลับ

1354 คำ
หลายชั่วโมงต่อมา ช่วงหัวค่ำ ลลินมาถึงไนน์ตี้ไนน์คลับก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง ตอนนี้ไฟนีออนหน้าประตูเริ่มสว่างไสว ผู้คนบางส่วนทยอยเดินเข้ามา ทั้งลูกค้าประจำและนักท่องราตรีที่แต่งตัวหรูหรา คนที่มาก่อนเวลาเปิดพวกนี้คงจะมาจองโต๊ะเอาไว้ ก่อนที่จะเต็ม ‘สู้!’ เธอสูดลมหายใจลึกเพื่อเรียกความมั่นใจ ก่อนก้าวเข้าไปด้านใน ร่างเล็กโค้งตัวเล็กน้อยพร้อมเอ่ยทักทายเสียงสุภาพ “สวัสดีค่ะ” พนักงานหลายคนหันมามอง ก่อนพยักหน้าตอบรับด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ลลินยกมือไหว้ทุกคนอย่างนอบน้อม เพื่อสร้างความเป็นมิตรตั้งแต่แรกเจอ จากนั้น เธอเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ที่ผู้จัดการร้านนั่งอยู่ “สวัสดีค่ะ หนูชื่อลลินดา วัฒนกูล มารายงานตัวตามที่ได้นัดไว้ค่ะ” ผู้จัดการเงยหน้าขึ้นจากแฟ้มงาน ดวงตาคมกริบกวาดมองตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนพยักหน้าช้า ๆ “มาก่อนเวลา… ก็ดี แบบนี้แหละที่ฉันชอบ” น้ำเสียงเรียบหรูแต่แฝงอำนาจดังขึ้น “ไปเปลี่ยนชุดหลังร้านแล้วออกมารอ ฉันจะให้รุ่นพี่พาเดินดูรอบ ๆ คลับ แล้วค่อยเริ่มงานคืนนี้” ลลินยกมือไหว้อย่างนอบน้อม “ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” หัวใจเธอเต้นแรงไม่หยุด นี่คือก้าวแรกในโลกที่ไม่คุ้นเคย โลกที่ต่างจากชีวิตคุณหนูในอดีตโดยสิ้นเชิง… แต่เพื่อครอบครัว เธอพร้อมเผชิญมันทุกอย่าง ณ ห้องเปลี่ยนชุดพนักงาน ลลินก้าวเข้ามาในห้องเปลี่ยนชุดขนาดเล็ก กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ปะปนกับกลิ่นเครื่องสำอางของพนักงานคนอื่นลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ เธอก้มมองชุดพนักงานที่ถูกพับไว้บนโต๊ะ เดรสสั้นรัดรูปสีดำ ที่เปิดเผยมากกว่าที่เธอคุ้นเคย มือเรียวสั่นเล็กน้อยขณะหยิบมันขึ้นมา สั้นเกินไป… รัดรูปเกินไปด้วย แต่เมื่อมองเห็นผ้ากันเปื้อนหนังสีดำที่ต้องใส่ทับ เธอก็พอโล่งใจขึ้นมานิดหน่อย อย่างน้อย… มันช่วยกลบความอายได้บ้าง เธอยืนอยู่หน้ากระจก สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ใบหน้าขาวซีดเงยขึ้นสบตากับเงาของตัวเอง “เฮ้อ… สู้นะลลิน เธอไม่ใช่คุณหนูตระกูลผู้ดีอีกต่อไปแล้ว” เสียงกระซิบเบา ๆ เป็นกำลังใจให้ตัวเอง ก่อนที่เธอจะรวบรวมความกล้า สวมชุดใหม่แล้วก้าวออกไปสู่โลกที่ไม่คุ้นเคย โลกของไนน์ตี้ไนน์คลับ ที่จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จ ลลินสูดหายใจเรียกความมั่นใจก่อนก้าวออกมา เธอเดินตรงไปหาผู้จัดการด้วยท่าทีสุภาพ “ผู้จัดการคะ… ฉันเปลี่ยนชุดแล้วค่ะ” สิ้นคำพูดนั้น หญิงวัยกลางคนซึ่งยืนสั่งงานลูกน้องอยู่หันกลับมา ดวงตาคมกริบกวาดมองเธอเต็ม ๆ ก่อนยิ้มออกมา “ว้าว… สวยมาก หุ่นก็ดีด้วยลูกสาว แต่หน้าซีดไปหน่อยนะ มานี่ เดี๋ยวพี่เติมหน้าให้เอง” ลลินพยักหน้าเบา ๆ “ค่ะ ขอบคุณนะคะ” เธอเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตรงมุมห้อง ผู้จัดการที่ทุกคนเรียกกันติดปากว่า พี่ฟ้า หยิบเครื่องสำอางเล็กน้อยออกมา ปัดแปรงลงบนผิวเนียนของลลินอย่างคล่องแคล่ว “ที่นี่ เราอยู่กันแบบพี่น้องนะ มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน พี่ไม่ดุหรอก… แต่เรื่องงานต้องเป๊ะ เข้าใจไหม” เสียงทุ้มอบอุ่นแต่แฝงความเด็ดขาดทำให้ลลินรีบพยักหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “ค่ะพี่ฟ้า หนูจะตั้งใจทำให้ดีที่สุดค่ะ” ผู้จัดการยิ้มบาง ๆ พลางเก็บเครื่องสำอางลงกล่อง “ดีมาก แบบนี้แหละ… ไว้ใจได้” ห้านาทีผ่านไป ใบหน้าหวานของลลินถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบา เดิมทีก็สวยสะดุดตาอยู่แล้ว บัดนี้กลับยิ่งน่ามองจนใครเห็นก็ต้องเหลียวหลัง พี่ฟ้ายกยิ้มอย่างพอใจ “เอาล่ะ เสร็จแล้ว… นี่ถ้าลูกค้าเห็นนะ รับรองต้องถามหาทันทีแน่” ลลินหน้าแดงเล็กน้อย ก้มศีรษะ “ขอบคุณค่ะพี่ฟ้า” ผู้จัดการสาวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง กอดอกพลางพูดเสียงจริงจังขึ้น “เดี๋ยวพี่จะให้น้องวีน่ารุ่นพี่ที่นี่ พาเดินดูรอบ ๆ คลับและสอนงานไปพร้อมกัน รวมถึงนับโต๊ะให้แม่น ๆ ด้วยนะ เพราะคืนนี้… น้องต้องทำงานจริงเลย” ลลินเบิกตากว้าง “วันนี้เลยเหรอคะ!?” พี่ฟ้าหัวเราะเบา ๆ “ใช่สิ นี่มันไนน์ตี้ไนน์นะ ไม่ใช่โรงเรียนฝึกงาน จะได้งานหรืออยู่รอด ต้องเรียนรู้เร็ว เข้าใจเร็ว และทำงานให้เป๊ะตั้งแต่คืนแรก” คำพูดนั้นทำให้หัวใจลลินเต้นแรง เธอกำมือแน่น สูดหายใจเข้าลึก ๆ “ค่ะ! ลลินจะตั้งใจทำให้ดีที่สุด” พี่ฟ้าเอียงคอ ยิ้มบางแต่สายตาคม “ดี… จำไว้นะ ไม่เข้าใจให้ถาม ห้ามเงียบ ห้ามเดาเอง เพราะที่นี่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นระดับวีไอพี แม้แต่แก้วน้ำผิดก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้” เธอหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนเน้นเสียงชัดเจน “โดยเฉพาะคุณภาคิน เจ้าของที่นี่… เขาเป๊ะมาก ๆ ถ้าใครทำงานพลาดแม้แต่นิดเดียว รับรองโดนเรียกตัวแน่” ลลินพยักหน้าหนักแน่น “ค่ะพี่ฟ้า ลลินจะจำใส่ใจไว้เลยค่ะ” พี่ฟ้าตบไหล่เบา ๆ เป็นกำลังใจ “สู้ ๆ ลูกสาว… พี่เชื่อว่าหนูทำได้” เวลา 18.00 น. อีกด้านของภูผา หลังเคลียร์กองเอกสารที่ก่อนหน้านี้สูงราวภูเขา ตอนนี้โต๊ะทำงานกลับว่างเปล่าไร้แฟ้มใด ๆ ให้กวนใจ ภูผาเอนหลังพิงเก้าอี้ หลุดยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเพื่อนรักอย่างภาคิน ไม่นานนัก เสียงปลายสายก็ดังขึ้น “ว่าไง ไอ้ภู” “กูขออาบน้ำก่อน เดี๋ยวออกไป ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เตรียมโต๊ะไว้ให้ด้วย” น้ำเสียงภูผาฟังดูสบาย ๆ แต่แฝงความเร่งรีบผิดปกติ ภาคินหัวเราะหยันเบา ๆ “โห ไวจังวะ มึงกลายเป็นคนกะตือรือร้นเรื่องนัดพบปะเพื่อนตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” “ชวนกูแล้วอย่าบ่น อย่าถามมาก” ภูผาตอบทันที น้ำเสียงติดหงุดหงิดน้อย ๆ “เออ ๆ ก็ได้” ภาคินกลั้วหัวเราะ ก่อนถามต่อ “แล้วไอ้เตชินท์ล่ะ มาด้วยไหม” “กูชวนแล้ว มันบอกว่าถ้าไป… จะเซอร์ไพรส์เอง ช่างแม่งเหอะ” ภาคินถึงกับหัวเราะลั่น “ฮ่า ๆ ๆ เจ้านายกับลูกน้องที่เป็นเพื่อนสนิทกัน กูยังเดาไม่ถูกเลยนะว่า… ตกลงใครต้องตามใจใครกันแน่วะ” ภูผายกยิ้มมุมปาก แต่ไม่ตอบโต้ เพียงตัดบท “เลิกพูดมาก เดี๋ยวเจอกัน” ครึ่งชั่วโมงต่อมา ณ ไนน์ตี้ไนน์คลับ บรืนนน... รถหรูคันดำสนิทเคลื่อนเข้ามาจอดด้านหน้าคลับ “Ninety Nine” ไฟนีออนสว่างไสวฉายแสงสะท้อนกับกระจกรถอย่างหรูหรา เมื่อประตูรถเปิดออก ร่างสูงสง่าของ ภูผา ภูวดล พิพัฒน์ไพศาลสกุล ก็ก้าวลงมา ทันทีที่การ์ดด้านหน้าคลับเห็น เขารีบก้มศีรษะโค้งคำนับด้วยท่าทีเคารพทันที เพราะรู้ดีว่าชายหนุ่มตรงหน้าไม่ใช่ใครอื่น แต่คือเพื่อนสนิทของคุณภาคิน เจ้าของที่นี่ “เชิญครับคุณภูผา… คุณภาคินสั่งไว้แล้ว ให้ขึ้นไปนั่งรอที่โซนวีไอพีชั้นสอง” การ์ดร่างใหญ่ผายมือเชื้อเชิญด้วยท่าทีสุภาพสุดขีด “อืม” ภูผาตอบรับสั้น ๆ น้ำเสียงเรียบหรูสมกับบุคลิก ก่อนก้าวเดินเข้าไปในตัวคลับ ทันทีที่ร่างสูงสง่าเคลื่อนผ่านประตูบานใหญ่ กลิ่นน้ำหอมแบรนด์หรูที่ติดกายเขาก็ลอยอบอวลในอากาศ ผสมกับแสงไฟสลัวและเสียงเพลงบีทหนัก ๆ ทำให้บรรยากาศรอบกายเขาโดดเด่นเกินใคร สายตาของหญิงสาวมากมาย ทั้งพนักงานและแขกในคลับ ต่างเหลียวมองเป็นตาเดียว กระซิบกระซาบตามหลัง “หล่อจัง…” “ผู้ชายคนนี้ใครน่ะ ดูดีชะมัด” แต่เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาคนนั้นกลับไม่สนใจเสียงซุบซิบแม้แต่น้อย สายตาคมเพียงมองตรงไปข้างหน้า ขณะที่ฝีเท้าหนักแน่นค่อย ๆ ก้าวขึ้นบันไดสู่ชั้นสอง โซนวีไอพี ที่ภาคินรออยู่หรือเขาต้องมานั่งรอภาคินกันแน่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม