บทที่ 5 ขอต้อนรับสู่โลกของผม 4

1176 คำ
อัยยาแปลกใจ “เท่าที่รู้... คุณมีธุรกิจพวกสื่อสารเป็นหลักไม่ใช่เหรอคะ แทบไม่มีสายงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับด้านบันเทิงเลย แล้วฉันจะทำงานกับคุณได้ยังไง” “ผมกำลังจะขยายตลาดส่งละครและซีรีย์บ้านเราไปทั่วเอเชีย ผมต้องการปั้นดารานักแสดงที่มีคุณภาพภายใต้บริษัทของผม ผมเซ็นสัญญากับบริษัททางสิงคโปร์เรียบร้อยแล้ว เหลือก็แต่คนที่จะมาดูแลงานทางด้านนี้” “เพราะเหตุนี้คุณก็เลยไปพบคุณลุงวิชาญ” “เปล่า ผมไปเพราะคุณ” “เพราะฉัน?” อัยยายิ่งแปลกใจ แต่สักพักก็เข้าใจคำที่เขาพูดว่าสนใจเธอ จึงหยั่งเชิงถาม “ทำไมถึงเลือกฉันล่ะคะ” “ผมมั่นใจในสายตาของตัวเอง” เป็นคำตอบที่น่าหมั่นไส้และทำให้รู้สึกดีในเวลาเดียวกัน การมีใครสักคนเชื่อใจเราเป็นอะไรที่น่าปลื้มใจน้อยเสียที่ไหน แต่เรื่องของความรู้สึกก็เรื่องหนึ่ง... ในความเป็นจริงเธอยังรู้สึกว่าทุกอย่างดูง่ายไปหมด เขาเป็นนักธุรกิจ น่าจะรู้สถานการณ์ของเธอดีว่าไม่ต่างอะไรจากสิ่งของที่ถูกโละทิ้ง ลองว่าเธอมีปัญหากับเจนวาย คงจะอยู่วงการนี้ยากขึ้น ไม่ว่าจะบากหน้าไปที่ไหนก็คงไม่มีใครกล้ารับเธอเข้าทำงาน เพราะไม่อยากผิดใจกับยักษ์ใหญ่ในวงการนี้ แต่ทีปต์กลับสวนทางกับคนอื่น ต่อให้เขาเองจะมีอิทธิพลและทรงอำนาจ แต่ก็อยู่กันคนละสายธุรกิจ ยิ่งเขาเพิ่งก้าวเข้ามาเป็นน้องใหม่ในแวดวงมายา ก็น่าจะเกรงใจพวกเกื้อกอบกูลบ้างมิใช่หรือ แล้วทำไมถึงได้กล้าเสี่ยงที่จะงัดข้อกับพวกเขาตรงๆ แบบนี้ล่ะ... ไปเอาความมั่นอกมั่นใจมาจากไหน? “แค่นี้เหรอคะ” อัยยาพยายามมองเข้าไปในดวงตานิ่งลึก อยากสืบค้นความในที่ซ่อนอยู่ แต่นอกจากสีดำเหมือนสีนิล เธอไม่เห็นสิ่งใดวูบไหวสะท้อนอยู่ในนั้นเลย เขานิ่งเสียจนเธอเดาใจไม่ถูก! “แล้วทำไมจะต้องยากด้วยล่ะ” ทีปต์ตอบเหมือนจะรู้ทันความคิดเธอ “ฉันรู้สึกว่ามันง่ายเกินไป ข้อเสนอของคุณมีแต่ฉันที่เป็นฝ่ายได้กับได้ แต่คุณมีแต่เสี่ยงกับเสี่ยง ถ้าฉันตอบสนองความต้องการของคุณไม่ได้ นอกจากจะขาดทุนแล้ว คุณยังจะมีศัตรูเพิ่มขึ้นอีกด้วย คุณไม่กลัวบ้างเหรอคะ” “ขึ้นชื่อว่าลงทุน มีอะไรบ้างที่ไม่เสี่ยง” เขาพูดพลางคีบซูชิเข้าปาก เคี้ยวตุ้ยๆ ดูไม่ทุกข์ร้อนเลย “แต่ฉันอาจจะทำให้คุณผิดหวังก็ได้” “คุณทำให้เจนวายผงาดขึ้นมาในวงการนี้ได้ คุณก็ทำให้ผมเหนือกว่าพวกเขาได้เหมือนกัน” อัยยายังคงมองเขาอย่างระแวดระวัง ทั้งๆ ที่เขาก็ยืนยันเจตนาชัดเจนแล้วว่าต้องการตัวเธอไปร่วมงาน เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพ แต่พอมองลึกลงไปในดวงตาที่ไม่เห็นก้นบึ้งของความคิด ไม่รู้ทำไมเธอจึงรู้สึกว่ายังมีบางอย่างซุกซ่อนอยู่ในนั้น เพียงแต่เขายังไม่ได้บอกเธอ เธอไม่ปฏิเสธว่าข้อเสนอของเขาช่างเย้ายวนใจ ยิ่งในภาวะที่เธออับจน ยิ่งไม่ควรเล่นตัวให้เสียเวลา แต่เธอกลัวว่าภายใต้ความสวยหรูอาจมีอะไรที่เธอไม่คาดคิดรออยู่ ถึงจะไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือร้าย แต่สัญชาตญาณบางอย่างเตือนเธอว่าหากตอบตกลง ชาตินี้เธอคงไม่สามารถสลัดเขาหลุดได้อีกแล้ว ตัดใจลืมรักเก่าว่ายากแล้ว แต่การเอาตัวเข้าไปพัวพันกับใครทั้งชีวิตนั้นยากยิ่งกว่า... ทีปต์เห็นอัยยายังคงระแวงไม่ไว้ใจเขา จึงหยิบยกเรื่องบุญคุณขึ้นมาอ้าง “จำได้ไหมว่าคุณติดหนี้ผมอยู่สองครั้ง” หญิงสาวพยักหน้าอย่างจนใจ ถึงเขาไม่ได้ขู่เข็ญ แต่ก็พึงให้เธอระลึกว่าไม่อาจปฏิเสธได้เด็ดขาด เธอคงหนีไม่พ้นแล้ว... อัยยาถอนใจยอมจำนน แต่ก็ยังอยากจะถามเขาสักคำเพื่อความสบายใจของเธอ “แน่ใจนะว่าคุณแค่อยากได้ฉันไปร่วมงานเฉยๆ ไม่ได้หวังอะไรในตัวฉัน” เธอถามออกไปตรงๆ รู้สึกว่าวิธีอ้อมค้อมใช้ไม่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา “แล้วถ้าผมคิดจริงๆ คุณจะว่าไง” ทีปต์นึกสนุก ถามกลับหน้าตาย อัยยากลอกตาเล็กน้อย ไม่มีท่าทีตื่นตระหนก “ก็ถ้าคุณตอบคำถามแล้วทำให้ฉันพอใจได้ ฉันก็รับคุณไว้พิจารณา” “หืม? น่าสนใจดีนี่ ไหนว่ามาสิ” สีหน้าเขายังคงนิ่งสงบ แต่แววตาวิบวับเป็นประกาย “คุณคิดว่าฉันเป็นคนยังไง” ทีปต์มองเธอครู่หนึ่งแล้วตอบ “จริงใจ ตรงไปตรงมาดี” คำตอบเขาทำให้เธอแปลกใจนิดหน่อย “คุณไม่คิดว่าฉันเป็นผู้หญิงแรงๆ ร้ายๆ เหรอ” “ถ้าร้ายกับคนที่ทำร้ายคุณก่อน ก็สมควรอยู่หรอก” “คำถามต่อไป คุณคิดยังไงถ้า... พนักงานของคุณเก่งเกินหน้าเกินตา” ใจจริงเธออยากถามว่า ‘แฟน’ มากกว่า แต่คิดว่าคงไม่เหมาะนัก ดูละลาบละล้วงและสนิทสนมเกินไปหน่อย จึงเลี่ยงใช้คำว่าพนักงานแทน ทีปต์ยักไหล่ “ยิ่งเก่งก็ยิ่งดี ผมมีแต่ได้ประโยชน์” “ข้อสุดท้าย คุณแคร์ไหมถ้าหากว่าคนของคุณทำงานเป็นเด็กส่งของ” “จะอายทำไม ขอแค่เป็นอาชีพที่สุจริตทำแล้วได้เงิน ถือว่าน่ายกย่องทั้งนั้น” อัยยายิ้มรับ ไม่รู้ว่าเธอกับเขาจะสามารถร่วมทางกันไปได้ตลอดรอดฝั่งไหม แต่เขาทำให้เธอถูกใจจนอยากจะกดไลค์ให้นิ้วหงิก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทีปต์ถึงได้ประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว เขาใจกว้างและมองการณ์ไกล ไม่เหมือนแฟนเก่าของเธอที่ใจคอคับแคบ มองเห็นแค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเหมือนกบในกะลา “ยินดีที่ได้ร่วมงานกันค่ะคุณทีปต์” เธอยื่นมือไปเช็กแฮนด์กับเขา ชายหนุ่มคลี่ยิ้มจางๆ แล้วยื่นมือไปสัมผัสกับมือนุ่ม ตอนนี้เขาได้เธอมาเป็นหุ้นส่วนสมใจแล้ว ส่วนจะสามารถเป็นหุ้นส่วนหัวใจด้วยหรือไม่ คงต้องรอดูกันไปอีกสักระยะ ที่จริงเขาตัดสินใจที่จะร่วมทางกับอัยยาในระยะยาวแล้ว แต่ที่ยังไม่ได้บอกเธอ เพราะรอให้เขาพาเธอเฉิดฉายอยู่ในวงสังคมได้สำเร็จก่อน รอให้ก้าวขึ้นมายืนอยู่จุดเดียวกับเขา ให้ทุกคนได้เห็นถึงความสามารถของเธอ ถึงตอนนั้นคนที่คิดจะขวางเขาก็จะหมดข้ออ้างโจมตีเธอได้ ทีปต์นึกกระหยิ่มอยู่ในใจ ขอต้อนรับสู่โลกของผมนะ...อัยยา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม