บทที่ 5 ขอต้อนรับสู่โลกของผม 3

955 คำ
อัยยาถูกทีปต์จูงมือพามาที่รถอย่างงงๆ พยายามคิดดู แต่ก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่ต้นจนจบผู้ชายคนนี้มาทำอะไรที่อาคารเกื้อกอบกูลกันแน่ เหมือนเขาน่าจะมาเจรจาธุรกิจกับวิชาญ แต่ไหงถึงฉุดมือเธอเดินออกมาทั้งที่ยังไม่ได้พูดอะไรสักคำเลยล่ะ... เธอสงสัยว่าทำไมเขาถึงช่วยเธอ? ตอนที่อยู่ในห้องเขาไม่เพียงเข้าข้างเธอ ยังออกหน้าช่วยเธอด้วย เธอกับเขาเพิ่งเจอหน้ากันเมื่อคืนแท้ๆ ถึงจะมีจูบอันดูดดื่ม แต่ไม่ได้รู้จักมักจี่กันเสียหน่อย ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ไม่มีกระทั่งความลุ่มหลงสนใจ จูบเสร็จก็จากกันไปทางใครทางมัน วันนี้ที่เจอกันก็เป็นเรื่องบังเอิญล้วนๆ คิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าเหตุใดทีปต์จึงทิ้งกำไรมหาศาลเพื่อเธอโดยไม่ลังเล เธอมั่นใจว่าเธอไม่มีผลประโยชน์อะไรแลกเปลี่ยนกับเขาแน่นอน หรือต่อให้มี ก็ไม่น่าคุ้มเท่ากับสิ่งที่เขาจะได้จากความร่วมมือกับวิชาญ “ทำไมคุณถึงช่วยฉัน?” เธออดรนทนไม่ไหว เอ่ยถามเขาไปตรงๆ “เธออยากรู้?” สีหน้าเขายังคงนิ่งเฉย ไม่แปลกใจ เหมือนรู้อยู่แล้วว่าเธอจะต้องถามคำถามนี้ อัยยาพยักหน้า รอคำตอบอยู่หลายอึดใจก็ไม่เห็นเขาพูดอะไร จนเมื่อคนขับรถเปิดประตู ชายหนุ่มก้าวขาเพรียวยาวเข้าไปนั่งข้างใน ปล่อยให้เธอยื่นเซ่ออยู่ตรงนั้น กระทั่งได้ยินเสียงทุ้มต่ำเอ่ยเร่งว่า “จะมัวยืนอยู่ทำไมล่ะ” อัยยาชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะก้าวขาตามเข้าไปนั่งบนเบาะที่เขาเว้นที่ไว้ให้ รอให้คนรถปิดประตู เธอก็ยิงคำถามซ้ำทันที “ทีนี้จะบอกฉันได้รึยังคะ” “ผมไม่ชอบคุยธุรกิจตอนท้องหิว” “ถ้าคุณรีบตอบฉันไวๆ คุณอยากจะไปกินข้าวที่ไหนก็ไปสิ” เธอแอบบ่นเบาๆ ไม่คิดว่าคนที่นั่งทำหน้าตายจะได้ยิน เขาเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งแล้วโยนคำถามให้เธอ “คุณไม่คิดจะตอบแทนที่ผมช่วยคุณสักหน่อยหรือ” หา! มีใครเขาช่วยคนปุ๊บ ก็ทวงบุญคุณปั๊บแบบเขากันบ้างเนี่ย? ช่วยก็ช่วยเอง เธอไม่ขอร้องให้เขาช่วยเสียหน่อย... เธอมองชายหนุ่มที่หรี่ตามองเธอ แล้วหวนนึกถึงเรื่องเมื่อกี้ เหมือนจะคิดขึ้นมาได้ว่าเธอโยนเผือกร้อนให้เขาช่วยรับจริงๆ นั่นละ ทำเอาเธอเถียงไม่ออก จะมากจะน้อยก็ถือว่าเขาได้ช่วยเธอไว้ ในเมื่อเขาออกปากแล้วเธอก็ไม่มีสิทธิ์เกี่ยง เอาวะ… เลี้ยงข้าวคนรวยมือเดียวคงไม่ถึงกับหมดตัวหรอกมั้ง! “ก็ได้ค่ะ มื้อนี้ฉันจะเลี้ยงข้าวคุณเป็นการตอบแทน แต่มีข้อแม้ว่าคุณจะต้องตอบคำถามที่ฉันอยากรู้” ทีปต์ยักไหล่ ไม่ได้พูดอะไร แต่ก็เป็นอันรับรู้ว่าตกลง รถ BMW ซีดานขับตรงไปยังร้านอาหารญี่ปุ่นโดยที่ผู้เป็นนายไม่ต้องออกปาก มาถึงปุ๊บอัยยาก็สัมผัสได้ถึงความหรูหราจนขนหน้าแข้งจะร่วงทันที เธอหน้าซีดเล็กน้อย แอบกลืนน้ำลายอีกหลายอึก อดบ่นในใจไม่ได้ว่านี่เขาคิดจะปล้นเธอรึไง ถึงได้พามาร้านอาหารระดับพรีเมียมขนาดนี้ ข้าวแกงข้างทางน่ะไม่รู้จักบ้างหรือ อัยยายิ้มเจื่อนๆ ให้กับพนักงานต้อนรับสาวในชุดกิโมโนที่เดินนำเข้าไปในส่วนไพรเวตเป็นสวนแบบญี่ปุ่น มีบ่อเลี้ยงปลาคาร์พ ตรงกลางเป็นภูเขาน้ำตกจำลองขนาดใหญ่ ได้ยินเสียงกระบอกไม้ไผ่ตีกระทบกรวดหินดังป๊อกๆ บ่งบอกถึงบรรยากาศแบบญี่ปุ่นขนาดแท้ ทีปต์สั่งอาหารอย่างชำนาญโดยไม่ต้องดูเมนู แต่ละจานล้วนคัดสรรวัตถุดิบชั้นดี ทั้งสีสันและความสดใหม่ชวนให้คนมองน้ำลายสอ แต่อัยยากลับหยิบตะเกียบค้างไว้อย่างนั้น บอกตรงๆ ว่ากลืนไม่ลง เมื่อคิดถึงเงินก้อนโตที่ปลิวหายไปทีละใบๆ ผิดกับพ่อคนกินฟรีที่คีบปลาแซลมอนเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย “ทำไมไม่กินล่ะ” เขาถามยิ้มๆ มองเธอเหมือนจะรู้ทัน ทำเอาอัยยาแทบจะกัดฟันตอบ “ฉันยังไม่ค่อยหิวค่ะ” ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง ถามตรงเข้าประเด็นที่ต้องการรู้ “เราจะคุยกันได้รึยังคะ” ทีปต์คีบเนื้อปลาใส่จานเธอ มองเธอนิ่ง “คุณอยากรู้ใช่ไหมว่า ผมช่วยคุณทำไม” “ค่ะ” “ถ้าผมบอกว่าสนใจคุณล่ะ” “คะ!?” อัยยาอุทานเสียงหลง เธอคิดถึงความเป็นไปได้หลายอย่าง แต่ไม่เคยคิดถึงแง่นี้เลย “คุณพูดเล่นใช่ไหม” “ผมพูดจริง” อัยยาชักจะสับสน แววตาคมกริบขึงขังไม่เหมือนคนพูดเล่นเลยแม้แต่น้อย อย่าบอกนะว่าแค่จูบเดียวที่อารมณ์มันพาไป อยู่ในช่วงที่กำลังอ่อนไหว จะทำให้เขาติดใจจนตามเธอมาถึงที่เจนวายน่ะ หญิงสาวมองเขาพลางครุ่นคิด ก่อนจะส่ายหัว อย่างไรเธอก็เชื่อไม่ลงอยู่ดี เธอไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดจะเพ้อฝันว่าจะมีเจ้าชายรูปงามมาหลงรักตัวเองหรอกนะ เธอพยายามข่มความกระดากอาย ปรับสีหน้าให้สุขุม แล้วเอ่ยถามเขาอย่างจริงจัง “พูดมาตามตรงเถอะค่ะ” ทีปต์ยกยิ้ม เขาถูกใจผู้หญิงคนนี้จริงๆ ไม่ใช่แค่สวย แต่เธอยังมีสมองอีกด้วย “ผมอยากชวนคุณให้มาทำงานด้วยกัน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม