สามปีต่อมา รุ่ยเผิงมีตำแหน่งที่สูงขึ้นจากเดิม ในตอนนี้เขาเป็นขุนนางขั้นหกแล้ว หน้าที่ที่ก้าวกระโดดเช่นนี้ สร้างความอิจฉาให้คนมากมายนัก แต่ก็ไม่อาจจะขัดแข้งขัดขาเชาได้ ในเมื่อมีว่าที่พ่อตาเป็นถึงเสนาบดีกรมโยธา ทั้งยังท่านตาของรั่วอินที่เป็นตุลาการใหญ่ศาลต้าฉีอีกด้วย ที่เขามาอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ ไม่ได้มาจากความช่วยเหลือของทั้งสองคน เป็นความสามารถของเขาเอง ปีนี้เสี่ยวซีจะเข้าสอบจิ้นซื่อด้วย รุ่ยเผิงจึงนำบทความที่เขาเขียนไว้ทั้งหมดให้เสี่ยวซีได้อ่านและทำความเข้าใจ รุ่ยเผิงเมื่อกลับจากศาลต้าฉี วันนี้เขาเดินทางไปที่จวนตระกูลโจวก่อน เพื่อนำปิ่นที่เขาสั่งทำไปมอบให้รั่วอิน งานปักปิ่นของนางจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า รุ่ยเผิงรู้ดีว่าบิดามารดาของนางคงจะสั่งทำปิ่นให้นางเช่นกัน แต่ปิ่นของเขาให้นางไว้ใช้ปักทุกวัน ไม่ได้ให้นางใช้ปักในวันพิธี “หลังปักปิ่น เจ้าแต่งให้ข้าเลยดีหรือไม่” รุ่ยเผิงเอ่ยถา