ภายนอกว่างดงามแล้ว แต่เรือนร่างงามยามไม่มีเสื้อผ้านับว่าน่ามองจนไม่อาจถอนสายตาได้ ขายาวขาวเนียนคู่นั้นเหยียดตรงอย่างได้รูป กระดูกสะโพกที่โผล่ให้เห็นรางๆ ทั้งยังไหปลาร้าที่น่าเอื้อมมือไปลูบไล้ ภาพต้องหน้าสตรีเช่นพวกนางยังหายใจติดขัด
รั่วอินนั่งลงในอ่างอย่างเหม่อลอยนางปล่อยให้ทั้งสองขัดตัวนางอย่างไม่นึกห้าม มือข้อขาวที่ถูกเขาบีบไว้ เมื่อตอนเช้ายังปรากฏรอยแดงอย่างน่าหวาดกลัว
“ข้าจะไปหายามาทาให้เจ้าค่ะ” เสี่ยวฮวารีบร้อนออกไปหายา เมื่อเห็นข้อมือของรั่วอินบวมแดง
นางรู้ดีว่าทั้งสองอาบน้ำให้นางอย่างพิถีพิถันเช่นนี้เพื่อการใด นางเรียนรู้การปฏิบัติสามีตั้งแต่ถูกหมั้นหมาย
“กลิ่นตัวของคุณหนูหอมยิ่งนักเจ้าค่ะ” เสี่ยวหงเอ่ยออกมาจากใจจริง นางไม่คิดว่านอกจากความงามที่สวรรค์ลำเอียงให้รั่วอินมามากกว่าผู้อื่นแล้ว ยังมีกลิ่นกายที่หอมมากของนางโดยไม่ต้องพึ่งถุงหอมเลย
เมื่อนางออกจากห้องน้ำแล้ว สองสาวใช้ช่วยแต่งตัวให้นางก่อนจะออกไปจากห้อง รั่วอินนั่งอยู่ที่เตียงอย่างหวาดกลัว เพราะไม่รู้ว่าเซียวรุ่ยเผิงจะมาในยามใด
รั่วอินนั่งรอจนทนไม่ไหว นางล้มตัวลงนอน เพียงไม่นานนางก็หลับสนิท เพราะนับตั้งแต่เกิดเรื่องกับบิดา ทั้งยังมีหลงจู๊หานมาทวงถามเรื่องเงิน นางก็ไม่เคยได้นอนหลับสนิทสักวัน
รุ่ยเผิง เพิ่งจัดการงานที่ตุลาการเรียบร้อย เขาก็เดินทางมาที่จวนหลังที่ซื้อไว้ที่ตรอกตะวันตก
“นางเล่า” เขาเอ่ยถามเสี่ยวหง เมื่อนางเดินมารับเขาที่หาประตูจวน
“คุณหนูรออยู่ในห้องเจ้าค่ะ นายท่านจะให้เตรียมน้ำเลยหรือไม่เจ้าคะ”
“อืม”
รุ่ยเผิงเดินเข้าไปในเรือน เขาเห็นแสงเทียนที่ถูกจุดไว้ภายในห้องแล้ว ก็เปิดประตูเข้าไป ก็พบว่ารั่วอินนางนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง
เขาเปิดประตูเข้ามานางก็ยังไม่รู้สึกตัว รุ่ยเผิงพ่นลมออกทางจมูกอย่างไม่สบอารมณ์ เขารับนางมาเป็นภรรยาลับ แต่นางไม่แม้แต่จะอยู่รอปรนนิบัติเขาสักนิด
เสี่ยวหงยกน้ำเข้ามาภายในห้องอย่างเบามือ เมื่อนางเห็นใบหน้าที่ดำคล้ำเต็มไปด้วยโทสะที่ยืนมองรั่วอินอยู่ก็รีบออกไปอย่างรวดเร็ว
เซียวรุ่ยเผิงถอดเสื้อผ้าแล้วเข้าไปล้างตัว ขนาดเขาทำเสียงดังเพียงนี้ นางยังไม่ตื่นขึ้นมา
“โจวรั่วอิน” เขาออกมาจากห้องน้ำ แล้วเดินมาร้องเรียกนาง
แต่ไม่ว่าจะเรียกกี่ครั้งนางก็ไม่ตื่น รุ่ยเผิงจึงได้เขย่าตัวเรียกนางแทน
“อืม” รั่วอินงัวเงียลุกขึ้นนั่ง นางขยี้ตาอย่างมึนงง
เมื่อรู้ว่าในตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ห้องนอนภายในจวนตระกูลโจว แล้วรีบดีดตัวขึ้นจากที่นอนอย่างรวดเร็ว
“ใต้เท้า ท่านมาตั้งแต่เมื่อใดเจ้าคะ” นางก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด
“หึ ไม่รู้ว่าตระกูลโจวสอนคุณหนูเช่นเจ้าอย่างไร ถึงได้นอนรอข้าเช่นนี้” รั่วอินเม้มปากแน่น เมื่อได้ยินคำตำหนิของเขา
“ขออภัยเจ้าค่ะ” นางเอ่ยเสียงเบาออกมา
รุ่ยเผิงปรายตามองนาง ก่อนจะโยนผ้าเช็ดผมที่ใช้เสร็จแล้วให้นางนำไปเก็บ
รั่วอินรับไว้ไม่ทัน จึงตกลงมาที่หัวของนาง แม้จะไม่พอใจ แต่ก็ไม่อาจแสดงท่าทางออกมาได้
เมื่อเห็นเขาขึ้นไปนอนบนเตียงแล้ว นางก็ทำสิ่งใดไม่ถูกไม่รู้จะต้องตามขึ้นไปหรืออย่างไร รั่วอินจึงนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงแทน
“ไม่นอนรึ” รุ่ยเผิงเอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์
“เจ้าค่ะ” นางขึ้นเตียง อย่างทำตัวไม่ถูก เพราะยังไม่เคยมีบุรุษมานอนข้างนางเช่นนี้
“ดับไฟเสีย” เขาเอ่ยเสียงเย็นออกมา จนรั่วอินอดสะท้านเพราะความหวาดกลัวไปไม่
นางดับไฟแล้วก้าวขึ้นเตียงอย่างเบามือเบาเท่าที่สุด รั่วอินนอนเว้นระยะห่างกับรุ่ยเผิง ทั้งยังนอนนิ่งไม่ขยับ
รุ่ยเผิงเมื่อเห็นท่าทางหวาดกลัวของนางก็นึกอย่างจะกลั่นแกล้ง เขาพลิกตัวกลับมา ขึ้นคร่อมทับตัวนางไว้ รั่วอินเกือบจะส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจออกมา
แต่ถูกรุ่ยเผิงจุมพิตปิดปากไว้เสียก่อน เขาขบริมฝีปากที่ปิดแน่นของนางเพื่อให้อ้าออก ก่อนจะส่งเรียวลิ้นเข้าไปหยอกล้อ ในตอนแรกที่คิดจะกลั่นแกล้งเท่านั้น แต่เมื่อถูกความหวานภายในปากของนางมอมเมา รุ่ยเผิงก็ไม่อาจหยุดการกระทำของเขาได้อีก
เสื้อผ้าของรั่วอินถูกเขาถอดออกจนสิ้น รุ่ยเผิงจ้องมองเรือนร่างที่ทำให้ใจของเขากระตุกอย่างไม่นึกอยากจะเชื่อ กลิ่นกายของนางพุ่งเข้าจมูกทันทีเมื่อไร้ซึ่งเสื้อผ้า
รุ่ยเผิงฝั่งจมูกลงกับซอกคอของรั่วอิน นางถูกเขาสัมผัสเพียงน้อยนิดก็ส่งเสียงครางหวานน่าอับอายออกมาเสียแล้ว
แม้จะรู้ว่าอยู่ที่นี่ในฐานะอันใด แต่ก็ยังอดที่จะสั่นสะท้านออกมาไม่ได้ รุ่ยเผิงไม่ได้อ่อนโยนกับนางสักนิด เขาไม่รู้ให้รั่วอินพร้อมเสียก่อนก็ส่งลำทวนเข้ามาในช่องรักของนางอย่างหยาบคาย
“โอ๊ยย” รั่วอินร้องออกมาอย่างเจ็บปวด นางคิดว่าเขาจะหยุดการกระทำเพื่อให้นางได้ปรับแต่
แต่เปล่าเลย รุ่ยเผิงกับกระแทกนางอย่างรุนแรง ราวกับกำลังจะบดขยี้ให้ตัวนางแตกสลายไปเสีย ทั้งเรือนร่างล้วนแต่มีรอยรักของเขาที่ทิ้งไว้ ทั้งรอยมือที่ไม่ได้ผ่อนเบาลงเลยสักนิด
เหงื่อซึมออกมาจากใบหน้าหวาน นางไม่มีความสุขอย่างที่บ่าวในจวนพูดคุยเรื่องร่วมรักแล้วนางบังเอิญได้ยินสักนิด
เขาทรมานเสียนางแทบขาดใจ หากนางเม้มปากแน่นไม่ยอมส่งเสียงคราง เขายิ่งทำรุนแรงจนนางต้องครางตามใจเขา เมื่อเขาได้ปลดปล่อยเรียบร้อยแล้ว รุ่ยเผิงก็ลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ โดยไม่ได้สนใจรั่วอินที่นอนงอตัวอยู่บนที่นอน
นางร่ำไห้เสียงเบาออกมาอย่างปวดใจ หากไม่รักนาง นางก็เข้าใจได้ แต่เหตุใดต้องรุนแรงกับนางเช่นนี้
“ไปล้างตัวเสีย” รุ่ยเผิงเอ่ยสั่งนาง โดยไม่ได้มองดูเลยว่าสภาพของรั่วอินนางเป็นเช่นไร
หากภายในห้องจุดเทียนไว้ เขาคงได้เห็นว่าเนื้อตัวของนาง เขาทำรุนแรงไปมากเพียงใด
เรื่องนี้รุ่ยเผิงไม่ใช่จะไม่รู้ แต่เขาไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้
กลิ่นกายของนาง ความหอมหวานจากตัวนางทำให้ความยับยั้งชั่งใจของเขาที่ควบคุมได้ดีมาตลอดขาดลง