ซ่อนรักเพลิงแค้น

โรงแรม เลอ บูเต้ คลาสสิก บรรยากาศภายในห้องจัดเลี้ยงได้ถูกตกแต่งอย่างหรูหรา ดอกไม้นานาชนิดถูกนำมาประดับประดาให้สวยงาม เหมาะสมกับฐานะอันมั่งคั่งของคชินทร์ วรโชติเมธี ชายหนุ่มเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย งานแต่งงานครั้งนี้ได้ถูกกำหนดขึ้นตามพินัยกรรมของคุณศักดา วรโชติเมธี บิดาของคชินทร์ ซึ่งชายหนุ่มไม่สามารถที่จะปฎิเสธได้เลย เพราะหากว่าเขาปฎิเสธที่จะแต่งงานกับกานพลู เจ้าสาวที่บิดาของเขาเลือกไว้ให้แล้ว ชายหนุ่มจะไม่เหลือสมบัติติดตัวแม้แต่ชิ้นเดียว คชินทร์รู้สึกไม่พอใจกับพินัยกรรมฉบับนี้เป็นอย่างยิ่ง แต่เขาก็ไม่อาจหาทางล้มล้างตามข้อกฏหมายได้ ดังนั้นสิ่งเดียวที่เขาทำได้ตอนนี้คือ ยอมแต่งงานตามที่บิดาของเขาต้องการ แล้วค่อยหาเหตุผลอย่าขาดจากกานพลูในภายหลัง เพราะเขาคงไม่มีวันยอมให้กานพลูและมารดาของเธอ มาชุบมือเปิบกับทรัพย์สินมากมายมหาศาลของบิดามารดาของเขา หากเป็นเช่นนั้นมารดาของเขาคงจะเสียใจเป็นอย่างมาก เมื่อช่วงเวลาของงานมงคลสมรสได้เริ่มขึ้น เจ้าสาวของเขาได้ถูกนำตัวมาส่งมอบให้คชินทร์ ชายหนุ่มมองด้วยความตกตะลึง เขาไม่คิดว่าเจ้าสาวของเขาจะสวยถึงเพียงนี้ แต่ชายหนุ่มก็ต้องสะกดใจไว้ พร้อมกับตอกย้ำตนเองอยู่ในใจเสมอว่าเธอคือลูกของคนที่ทำร้ายมารดาของเขา เขาจะต้องทำให้เธอเจ็บปวดที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ กานพลูเดินเข้ามาเคียงข้างชายหนุ่ม เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบสายตามองเขา เธอได้แต่ยืนก้มหน้ารับแขกอยู่เคียงข้างเขา พร้อมกับนึกอยู่ในใจว่าที่เธอทำทั้งหมด ก็เพื่อตอบแทนบุญคุณของมารดาของเธอ เธอไม่อาจทนเห็นท่านต้องตกระกำลำบากได้ หากว่าจะมีใครสักคนที่จะต้องลำบาก กานพลูขอเป็นคนคนนั้นเอง “ทำอะไรกรุณาไว้หน้าฉันด้วย” เสียงทุ้มของคชินทร์เอ่ยพร้อมกับกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาว “ทำอะไรคะ” กานพลูเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “ทำหน้าอย่างกับจะตายแบบนี้ไง ฉันไม่ชอบ!! เพราะฉันก็ถูกพินัยกรรมบังคับไม่ต่างจากเธอ” คชินทร์ส่งสายตาดุมาที่กานพลูมันทำให้เธอรู้สึกสั่นราวกับลูกนกหลงรัง “ถ้าคุณไม่ชอบก็ไม่ต้องมามองค่ะ เพราะฉันคงทำได้ดีที่สุดเท่านี้” กานพลูเอ่ยออกไปเสียงเรียบ แต่มันกลับทำให้อารมณ์ของชายหนุ่มคุกรุ่นขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ “เธอเป็นคนทำตัวเองเองนะ แล้วอย่าหาว่าฉันใจร้าย” คชินทร์กล่าวออกมาเสียงรอดไรฟัน ทำให้กานพลูรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก แต่คนอย่างกานพลูเมื่อเลือกที่จะเดินหน้าแล้ว ก็จะไม่มีวันถอยกลับอย่างแน่นอน “ค่ะ สุดแล้วแต่คุณเลยค่ะ ฉันมันก็ไม่ต่างอะไรกับลูกนกที่อยู่ในกำมือคุณ จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด” กานพลูกล่าวพร้อมกับเดินออกไปหามารดาของตน ทำให้คชินทร์ได้แต่มองตามแล้วคาดโทษไว้ในใจ เพราะเธอมันก็แค่ผู้หญิงหน้าเงินแล้วยังบังอาจมาจองหองกับเขา คืนนี้เขาจะสั่งสอนเธอให้รู้ว่าใครคือเจ้าชีวิตของเธอ ภายใต้งานแต่งงานที่ใหญ่โตครั้งนี้ มีน้อยคนนักที่จะทราบเบื้องหลังของงาน ทุกคนต่างรู้สึกอิจฉาเจ้าสาวเป็นอย่างมากที่ได้แต่งงานกับทายาทธุรกิจพันล้านเช่นคชินทร์ แต่มีเพียงแค่คนใกล้ชิดไม่กี่คนเท่านั้นที่จะทราบว่า ทั้งคู่ไม่ได้เต็มใจกับงานแต่งงานครั้งนี้เลย แต่เพราะพินัยกรรมของคุณศักดาเท่านั้น ที่ทำให้ทั้งคู่ต้องมายืนอยู่ในจุดที่ฝืนใจที่สุดในชีวิต คชินทร์และการพลูไม่อาจทำให้ผู้ใหญ่เสียหน้าได้ ทั้งคู่จึงทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เพื่อให้งานจบลงอย่างเรียบร้อย ก่อนที่จะถึงเวลาส่งตัวซึ่งเป็นเวลาที่กานพลูรู้สึกกลัวเหลือเกิน เธอไม่อาจเดาได้เลยว่าคชินทร์จะปฏิบัติกับเธอเช่นไร และแล้วเวลาที่หญิงสาวกลัวที่สุดก็มาถึง เมื่อคุณกานดาทำหน้าที่ผู้ใหญ่ของทั้งคู่พาทั้งคู่ขึ้นมายังห้องหอ ซึ่งก็คือห้องสวีทของโรงแรม เลอ บูเต้ คลาสสิก ในส่วนของคชินทร์นั้นบิดามารดาของเขาได้เสียชีวิตลงไป จึงมีเพียงคุณกานดามารดาของกานพลูเท่านั้น ที่ทำหน้าที่ให้โอวาททั้งคู่ก่อนจะใช้ชีวิตร่วมกัน เมื่อมาถึงที่ห้องหอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คชินทร์และกานพลูนั่งลงที่ข้างเตียง โดยมีคุณกานดานั่งอยู่บนเตียง ทั้งคู่ตั้งใจรับฟังคำสอนจากนางกานดา “คุณชินน้าฝากน้องหวานด้วยนะคะ ขอให้คุณชินเมตตาน้องหวาน หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยกันนะคะ” คุณกานดากล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน