“นี่ถ้าเป็นฉันฉันจะสมอ้างว่าคือคนที่รู้จักท่านนะเนี่ย แต้มบุญเธอสูงมากที่ได้เจอท่านแบบใกล้ๆ แบบนี้” มณีกล่าวด้วยความอิจฉา เธอคงจะอิจฉามากกว่านี้ ถ้ารู้ความจริงว่าครั้งหนึ่งเธอเคยมีสัมพันธ์สวาทกับท่านประธานที่มณีพูดถึง
“ถ้าโกหกท่านแล้วท่านไล่ออกมันคุ้มมั้ยล่ะมณี” พาขวัญกล่าวกับเพื่อน ก่อนจะหันไปสนใจที่งานต่อ ทั้งที่ตอนนี้สมองของเธอไม่มีเรื่องงานเลย ความกังวลเกิดขึ้นจนหญิงสาวเก็บอาการไม่อยู่ แต่เธอก็ไม่สามารถทิ้งงานและลาออกเพื่อหนีเขาไปได้ เพราะรายจ่ายที่มันรัดตัว มันไม่สามารถทำให้เธอทำอะไรตามใจได้
“ก็ไม่คุ้มแหล่ะ แต่อย่างน้อยก็ได้ใกล้ชิด” มณียังไม่หยุด ทั้งที่อีกฝ่ายแสร้งก้มหน้าก้มตาทำงาน
“ไปทำงานได้แล้ว เดี๋ยวพี่โอเดินเข้ามาก็โดนดุหรอก ขานั้นยิ่งไม่ชอบให้จับกลุ่มคุยกันอยู่ด้วย” พาขวัญไม่อยากจะคุยเรื่องนี้อีก เธอจึงรีบไล่เพื่อนสาวของเธอทางอ้อม และเมื่อเอ่ยถึงชื่อหัวหน้ามณีรีบรุกรี้รุกรนกลับโต๊ะทันที เพราะเช้าแบบนี้ไม่มีใครอยากเจอบทสวดจากหัวหน้ากันหรอก
หลังจากที่มณีกลับไปพาขวัญก็ก้มหน้าก้มตาทำงาน แต่สมาธิของเธอมันหายไปหมดแล้ว เธอจะทำอย่างไรดี นั่นคือสิ่งที่เธอคิดวนอยู่ในหัว เธอได้แค่ภาวนาให้เธียรปล่อยผ่านเรื่องของเธอ เพราะผู้หญิงอย่างเธอคงไม่มีอะไรจดจำอยู่แล้ว ระดับเขาคงมีผู้หญิงมาเสนอตัวมากมาย ไม่จำเป็นต้องจำผู้หญิงอย่างเธอหรอก ซึ่งพาขวัญไม่รู้เลยว่าเธอเป็นคนทำให้ชีวิตเพล์บอยของเธียรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขากลายเป็นคนที่ไม่สามารถเริ่มต้นใหม่กับใครได้ ทุกครั้งที่เขาจะมีสัมพันธ์กับใคร ภาพของเธอก็ซ้อนขึ้นมาทันที
นั่นทำให้ชายหนุ่มตั้งใจว่า หากว่าเขาเจอเธออีกครั้ง เธอต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องทั้งหมด และวันนี้โอกาสเอาคืนของเธียรก็มาถึงแล้ว ในเมื่อหญิงสาวมาอยู่ในอุ้งมือเขาแบบนี้ เขาไม่มีทางปล่อยให้เธอหายไปไหนอีกแล้ว