ตอนที่8 ความสัมพันธ์ต้องห้าม2

1816 คำ
หลังจากแยกกับโยษิตาปาลีก็เดินไปรอรถที่หน้ามหาลัย ระหว่างทางมีเพื่อนรุ่นน้องมองตามเป็นระยะแต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาทักทาย แม้ปาลีจะเป็นคนสวยมากเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆแต่ทว่าข่าวลือที่ว่าเธอ ‘สวยและหยิ่ง’ ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าหา ขนาดเพื่อนร่วมรุ่นที่เป็นผู้ชายที่เคยเข้ามาจีบยังถูกเมินจนเสียหน้า ตั้งแต่เรียนปีหนึ่งจนถึงปีสีชื่อเสียงเรื่องความหยิ่งยโสของปาลียิ่งดังกระฉ่อน จนไม่มีใครอยากเข้ามายุ่ง ได้แต่มองเป็นของต้องห้ามที่ดูได้แต่ตา มืออย่าต้อง เสียงโทรศัพท์ทำให้ขาที่กำลังก้าวฉับๆหยุดเดิน ปาลีหยิบโทรศัพท์ที่กำลังสั่นสะเทือนออกมา เธอถอนหายใจเล็กน้อยแล้วค่อยกดรับ “ว่าไงคะพี่เพลิง” “อยู่ไหน” ปลายสายตอบกลับเสียงเรียบ “มหาลัยค่ะ” “ตรงไหนของมหาลัย” “ทำไมค่ะ มีอะไรหรือเปล่า” “พี่ถามให้ตอบ ไม่ใช่ให้ถามกลับ” ปาลีเบ้ปากใส่ เหลือบตามองบน แล้วตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ประตูสองค่ะ” ปลายสายตัดไป ปาลีขมวดคิ้วอย่างขุ่นเคือง ว่าแต่คนอื่นนิสัยไม่ดีตัวเองก็ทำตัวไร้มารยาทไม่ต่างกัน จากที่กำลังก่นด่าเพื่อนพี่ชายอยู่ในใจ รถสปอร์ตสีดำเงาก็วิ่งเข้ามาจอดอยู่ข้างๆเธอ เจ้าของรถคันหรูเลื่อนกระจกลงเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่ซ่อนอยู่ใต้แว่นกันแดดสีดำ เรียกเสียงฮือฮาจากสาวๆนักศึกษาที่กำลังเดินอยู่กันขวักไขว่อยู่แถวๆนั้น บางคนถึงขั้นเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปราวกับเจอดาราดัง “ขึ้นมา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์นัก “ปิ่นกลับเองได้” “ขึ้นมาอย่าดื้อ” “ไม่ไป ปิ่นบอกแล้วไง ว่ากลับเองได้” “ไอ้ปืนมันให้พี่มารับ ขึ้นรถเร็วๆแดดมันร้อน” เขาอยู่ในรถแอร์เย็นฉ่ำ ปาลีต่างหากที่กำลังยืนตากแดดร้อน “ไม่เอาปิ่นเรียกรถแล้ว เดี๋ยวปิ่นโทรบอกพี่ปืนเอง” “จะขึ้นมาดีๆหรือให้พี่ลงไปอุ้ม” เมื่อเห็นว่าเพลิงนิลตั้งใจจะทำอย่างที่พูดจริงๆ ปาลีได้แต่เดินกระทืบเท้าฟึดฟัดไปยังที่นั่งข้างคนขับด้วยใบหน้าหงิกงอ “เสื้อก็รัดติ้ว กระโปรงก็สั่นจู๋ นั่งทีกางเกงในแทบโผล่” พอเปิดประตูรถเข้ามานั่งก็ถูกวิจารณ์เรื่องการแต่งตัวทันที ดวงตากลมตวัดมองค้อนคนขับด้วยความไม่พอใจ “แล้วพี่เพลิงยุ่งไรด้วย” “ก็ไม่ได้อยากยุ่งนักหรอก สงสารคนมอง นมแบนๆโหนกเล็กนิดเดียวยังจะอยากโชว์” “พี่เพลิง!” ตั้งแต่รู้จักกันมาปาลีไม่คิดเลยว่าเพื่อนพี่ชายจะหยาบคายได้ถึงขนาดนี้ นอกจากจะไม่ยินดียินร้ายกับสายตาจิกกัดของปาลี ฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งที่ควรบังคับรถอยู่บนพวงมาลัยก็มาจับที่ขาเรียวขาวของเธออีก “พี่เพลิง เอามือออก” ปาลีพยายามแกะมือของคนที่ทำตัวรุ่มร่ามกลางวันแสกๆ ทว่ามือเขาเหนียวยังกะติดกาวเอาไว้ แกะยังไงก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับ “ทำไม เมื่อคืนยังอยากให้พี่จับอยู่เลย พอไม่เมาแล้วไม่ทำตัวง่ายๆว่างั้น” มือหนาขยับเข้ามาลึกเกือบเลยชายกระโปรงทรงเอเข้ามาด้านใน “ถ้าพี่เพลิงไม่ชอบหรือรังเกียจปิ่นมากนักก็อย่ามายุ่งกับปิ่น เลิกว่าเลิกแซะปิ่นสักที” “อ่อนไหวขนาดนั้นเชียว คนปากเก่งหายไปไหนแล้วล่ะ” “จอดรถ ปิ่นจะลง!” “เมื่อคืนก็พูดแบบนี้ สุดท้ายก็นอนอ่อยพี่บนเตียง” ถ้อยคำของเขาเสียดสีปาลีทุกประโยค ใบหน้าคมกระตุกยิ้มคล้ายเย้ยหยันเธออยู่ในที “ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ปิ่นไม่มีวันนอนกับพี่เด็ดขาด” ปาลีรู้สึกว่าเรื่องที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิต ไม่ใช่เรื่องที่แอบรักเวธัส แต่เป็นเรื่องที่ปีนขึ้นเตียงกับเพลิงนิลต่างหาก “พี่ก็อยากย้อนเวลาเหมือนกัน ย้อนไปตอนที่ปิ่นครางชื่อพี่ ว่าเสียงปิ่นมันเพราะขนาดไหน” “ทุเรศ!” “ทุเรศตรงไหน เห็นครางลั่นขนาดนั้นนึกว่าชอบ” “พี่เพลิง!” “อย่าดิ้นพี่ขับรถอยู่ ขอจับขานิดเดียว จะโวยวายทำไม” เพราะไม่ใช่แค่จับเฉยๆนะสิถึงได้โวยวาย ทั้งลูบทั้งเคล้น ซ้ำยังล้วงลึกเข้าไปในกระโปรงจนเกือบถึงจุดอันตราย ยังไม่ทันที่ปาลีจะได้ตอบโต้เสียงโทรศัพท์ของเพลิงนิลก็ดังขึ้นเสียก่อน หน้าจอคาร์เพลย์แสดงรายชื่อคนที่โทรเข้ามา ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นปุริมพี่ชายของปาลี เพลิงนิลกดรับเสร็จก็กลับมาวางมือตรงขาขาวของคนที่นั่งๆเหมือนเดิม “ไอ้เพลิง” เสียงของปุริมดังลั่นห้องโดยสาร ปาลีพอได้ยินเสียงพี่ชายก็พยายามชักมือของเพลิงนิลออก แต่เขาก็ไม่ยอม ยังคงลูบคลำผิวขาวเนียนเล่นไปมาอย่างสนุก คนตัวเล็กขึงตาใส่อย่างไม่พอใจ “ไอ้เพลิงได้ยินไหม” “เอ่อ มีอะไรกูขับรถอยู่” “มึงไปรับยัยปิ่นยัง” “ก็นั่งอยู่ข้างๆกูนี้แหละ” คนขับยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดี “เอ่อขอบใจมาก เมื่อเช้าว่าจะไปส่งก็แอบออกไปก่อน รถรับส่งเดี๋ยวนี้อันตราย” คนหวงน้องบ่นปรอยๆ “น้องมึงโตหมาเลียตูดไม่ถึงแล้ว โอ๊ย!” “อะไรไอ้เพลิง เกิดอะไรขึ้น!” “เปล่าไม่มีไร แมวมันข่วน” แมวที่ว่ากำลังแยกเขี้ยวเตรียมข่วนอีกรอบ “มึงเลี้ยงแมวด้วยเหรอวะ” “เอ่อ แมวมันหลงกูเลยหิ้วขึ้นรถมา” “อย่าให้มันกัดยัยปิ่นล่ะ แมวจรจัดหรือเปล่าเกิดติดโรคขึ้นมาจะทำไง มึงเอามันไปไกลๆน้องกูเลยนะ” เพลิงนิลเอือมระอากับไอ้เนิดร์ซีสค่อน “กูว่าต้องเป็นแมวมากกว่าที่กลัวติดโรคจากน้องมึง” คนถูกพาดพิงส่งสายตาทิ่มแทง หยิกเนื้อหลังมือแรงๆอีกที แต่ถึงกระนั้นเจ้าของมือด้านๆก็ยังไม่รู้สึกรู้สา “ไอ้เหี้ยเดี๋ยวก็โดนยัยปิ่นวีน” ไม่วีนหรอกแต่หยิกกูเนื้อเขียวทั้งมือแล้ว รอวางสายจากมึงก่อนคิดบัญชีทีหลัง “อ๋อ อีกเรื่อง ฝากบอกยัยปิ่นด้วยว่ากูต้องไปดูโรงงานที่ใต้สักสองสามวัน เครื่องจักรมีปัญหาผลิตงานไม่ได้ ตอนนี้กำลังนั่งรถไปสนามบิน” “แล้วมึงไม่บอกน้องมึงเองเล่า กูไม่ใช่ลูกน้องมึงนะ ขับรถมารับให้นี่ก็บุญคุณท่วมหัวแล้ว” “ได้ทีเอาใหญ่เลยนะไอ้สัส กูรีบบอกให้หน่อย” “เอ่อ เดี๋ยวบอกให้วุ่นวายทั้งพี่ทั้งน้อง แค่นี้แหละกูจะขับรถ” “เอ่อ ขอบใจมากพายัยปิ่นไปส่งบ้านด้วย” เพลิงนิลขี้เกียจฟังเลยตัดสายไปดื้อๆ เป็นเพื่อนยังสั่งขนาดนี้ถ้าได้เป็นน้องเขยมันจะจิกหัวสั่งขนาดไหน แค่คิดแม่งก็เสียวสันหลังวาบ “ใครขอร้องให้มารับ ปิ่นก็บอกอยู่ว่ากลับเองได้” “ทำเป็นปากดี หยิกมือพี่จนเนื้อหลุดแล้วมั้ง” ทั้งที่ถูกหยิกขนาดนั้น ก็ยังไม่ยอมเอามือออกจากเรียวขาขาว “สมน้ำหน้า ปากไม่ดี” “หึ” “ว๊าย! พี่เพลิงทำบ้าอะไรเนี้ย” ปาลีโวยวายเมื่อจู่ๆเพลิงนิลก็เลี้ยวรถชิดขอบถนนแล้วเหยียบเบรกกะทันหัน จนตัวเธอแทบพุ่งออกไปนอกรถ เพลิงนิลปลดสายเบลล์ของตัวเองออกแล้วพุ่งตัวไปหาคนที่นั่งอยู่ด้านข้าง บังคับปลายคางเรียวมาจุมพิตโดยที่อีกคนไม่ทันได้ตั้งตัว “อื้อ หยุด อื้อ” ทันทีที่อ้าปากประท้วงก็ถูกปลายลิ้นสอดแทรกเข้าไป เพลิงนิลสั่งสอนเด็กนิสัยเสียด้วยปลายลิ้นกับริมฝีปากหยักที่บดเคล้าริมฝีปากอวบอิ่ม แม้ไม่นุ่มนวลนักแต่ก็ไม่ได้รุนแรงมาก กำปั้นเล็กๆที่ทุบไหล่แกร่งถูกมือหนารวบขึ้นไปพันธนาการไว้เหนือศีรษะ ด้วยมือเพียงข้างเดียว มืออีกข้างของเพลิงนิลปลดกระดุมชุดนักศึกษาของปาลีลงสองเม็ด เสื้อตัวเล็กรัดแน่นพอคลายออกก็โชว์เนินอวบอกอิ่มที่มีรอยรักสีแดงเป็นจ้ำๆที่เขาฝากไว้เมื่อคืนกระจายอยู่ปะปาย “พี่เพลิงหยุดนะ! ทำบ้าอะไรของพี่!” พอถอนจูบออกปาลีก็แหดเสียงใส่ทันที ดวงตาสุกใสจ้องเขาอย่างโมโห สองมือกำคอเสื้อของตัวเองที่หลุดลุ่ยเข้าหากันแน่น แม้มันจะปิดได้แค่เล็กน้อยก็ตาม “สั่งสอนไง คนเขาอุตส่าห์มารับแทนที่จะขอบคุณ” เขายกมือที่ถูกเธอหยิกจนขึ้นเป็นรอยช้ำ “แล้วยังมาทำร้ายร่างกายพี่ด้วย” “ก็พี่ทำตัวรุ่มร่ามกับปิ่นก่อน” “รุ่มร่าม เมื่อคืนนอนเอากันแตกไปตั้งหลายน้ำไม่เห็นปิ่นจะโวยวาย” “เรื่องเมื่อคืนก็ส่วนเมื่อคืน ตอนนี้มันไม่เกี่ยว” “หลอกฟันพี่แล้วทิ้งว่างั้น” “ปิ่นไม่ได้หลอก มันก็แค่เซ็กส์คืนเดียว” “แน่ใจเหรอว่าคืนเดียว” ดวงตาดำของเขาเหมือนมีกองไฟอยู่ในนั้น จ้องมองสองตาเธอไม่ไหวติง “จะกี่คืนกี่ครั้งก็ความหมายเดียวกัน” “อ๋อ ปิ่นจะบอกว่าถึงนอนกับพี่ร้อยครั้งพันครั้งก็ไม่รู้สึกอะไรใช่ไหม” ปาลีปัดนิ้วของเพลิงนิลที่ยกขึ้นมาเกลี่ยแก้มใสของเธอออก “ใช่ แต่ไม่ต้องถึงร้อยถึงพันหรอก ปิ่นพอแค่นี้” ปาลีคิดมาดีแล้ว การที่เธอนอนกับเพลิงนิลเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นแต่แรก และไม่ควรมีครั้งที่สองด้วยซ้ำ ก่อนที่ครั้งที่สามที่สี่จะตามมา เธอเลือกตัดไฟตั้งแต่ต้นลมเสียดีกว่า เพราะหากปุริมรู้นี้ละก็ไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง “สมใจแล้วก็สลัดพี่ทิ้งว่างั้น” “ทำไมพี่เพลิงถึงไม่เข้าใจ พี่เพลิงก็รู้ว่าถ้าพี่ปืนรู้เรื่องนี้ ความสัมพันธ์ของพวกพี่จะเป็นยังไง” ขนาดโยษิตายังรู้อีกไม่นานพี่ชายเธอก็คงรู้ ความลับมันไม่มีในโลก แม้แต่เรื่องที่เธอเป็นมือที่สามระหว่างเวธัสกับมุกดาก็เช่นกัน เพลิงนิลชะงัก มองใบหน้าสวยเคร่งเครียดจริงจังของอีกฝ่าย “ปิ่นไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ของใครอีก” แค่นี้ปาลีก็กลายเป็นคนบาปที่ตกนรกลึกลงไปหลายขุมมากพอแล้ว “ถ้าปิ่นจะเอาแบบนั้นก็ตามใจ ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยพี่จะไปส่ง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม