หลังจากกิจกรรมจบลงในช่วงบ่าย
เสียงในห้องประชุมเริ่มเบาลง นักศึกษาปีหนึ่งทยอยลุกจากเก้าอี้ เตรียมตัวกลับหอ กลับบ้าน หรือไม่ก็แวะกินข้าวเย็น
สายลมสะลึมสะลือตื่นขึ้นจากการงีบสั้น ๆ แบบงง ๆ
เธอลุกขึ้นยืน หยิบกระเป๋าสะพายพาดบ่าแล้วตั้งใจจะรีบออกจากห้องไปแบบเงียบ ๆ
แต่ยังไม่ทันได้ก้าวพ้นประตู…
“น้องสายลมใช่มั้ยคะ?”
หญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่มปีหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มสดใส
ก่อนจะมีอีกคน และอีกคน…
ไม่กี่วินาที กลายเป็นเหมือนแวดวงเล็ก ๆ ล้อมรอบตัวเธอ
“บ้านน้องอยู่แถวไหนเหรอ?”
“เราเห็นน้องตอนลงทะเบียนแต่เช้า น่ารักมากเลยนะ”
“นี่ ๆ ขอนามสกุลอีกทีสิ วรรธนะเดชใช่ไหม? บ้านที่มีเกาะส่วนตัวนั่นปะ?”
“โห แอบอิจฉาอะ มีคอนโดอยู่เองเลยเหรอ?”
“พี่ชื่อเมษานะ ปี 3 ถาปัตย์ อยากทำความรู้จักจังเลย”
สายลมชะงักค้าง
ริมฝีปากยิ้มแหย ๆ อย่างเกร็ง ๆ ขณะที่สายตากวาดมองรอบ ๆ เหมือนหาทางหนีทีไล่
‘ไม่เคยชินเลยจริง ๆ แบบนี้’
ต่อให้เธอเคยถูกสอนให้ยิ้มให้คนอื่น
ต่อให้เธอเคยเข้าสังคมมาแล้วนับไม่ถ้วนในงานเลี้ยงหรู
แต่…
ตั้งแต่เด็กจนโต…ไม่มีใครวิ่งเข้าหาเธอด้วยรอยยิ้มแบบนี้
ส่วนมาก คนที่เข้าหาเธอมีอยู่สองประเภท
หนึ่งคือคนที่อยากได้อะไรจากเธอ หรือจากพ่อเธอ
กับ สอง…คือคนที่ทนความเหวี่ยงของเธอไม่ไหว แล้วก็ถอยไป
เธอเคยคิดว่า…
เป็นเพื่อนกับใครมันยากจัง
โดยเฉพาะตอนที่อีกฝ่าย “รู้ก่อน” ว่าเธอเป็นใคร
สายลมหัวเราะเบา ๆ ตอบคำถามแบบเลี่ยง ๆ
“ค่ะ…ก็อยู่คอนโดแถวนี้แหละ ยังไม่ค่อยรู้เส้นทางเท่าไหร่เลย”
เพื่อนบางคนแอบกระซิบกัน
“ดูพูดน้อย ๆ เนอะ ไม่เหมือนตอนตะโกนชื่อวรรธนะเดชกลางห้องเลย ฮ่า ๆ”
เธอยิ้มจาง ๆ ไม่เถียง
ขาเริ่มขยับถอยนิด ๆ เพราะไม่แน่ใจว่าควรจะตอบใครก่อนดี
‘นี่แหละมั้ง…ทุกข์ของคนรวย ที่ไม่รู้ว่าใครอยากอยู่ข้างเราเพราะเรา หรือเพราะบ้านเรา’
เธอกำลังจะขอตัวเบี่ยงหลบออก แต่แล้วก็ได้ยินเสียงหนึ่งลอดเข้ามา
“เปิดทางหน่อยครับ คนดังของคณะจะกลับคอนโดแล้ว”
พอร์ช…
เสียงทุ้ม ๆ นั้นทำให้กลุ่มคนแตกออกอย่างอัตโนมัติ
เขาก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้าเธอ ยกคิ้วขึ้นล้อ ๆ
“คุณหนูอยากกลับยัง? เดี๋ยวพี่พาเดินออกเอง” เขาพูดแล้วก้มลงมากระซิบเบา ๆ
“จะได้ไม่หลงกลางกองคนที่อยากปีนเกาะ”
สายลมถลึงตาใส่ทันที
แต่ปากยังยิ้มไว้แบบฝืน ๆ
“ไม่ต้องเลยค่ะ เดี๋ยวเดินเองได้ ขอบคุณค่ะ พี่ว้าก”
แล้วเธอก็เดินเฉียดเขาออกไป ขณะที่คนอื่น ๆ มองตามอย่างสนใจ
…ทั้งตัวเธอ และคนที่เดินตามหลังเธอไม่ห่างนัก
เพราะไม่ว่าคุณหนูวรรธนะเดชจะพยายามหนีความโดดเด่นยังไง
ตอนนี้เธอ…คือจุดศูนย์กลางของทุกสายตาไปแล้วโดยปริยาย
ไม่นานนัก สายลมก็เดินออกมาจากอาคารคณะด้วยใบหน้าอ่อนเพลีย
เธอกวาดตามองหารถของ ลุงชัย คนขับรถประจำบ้านที่รู้ใจยิ่งกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน
รถ SUV สีดำสนิทจอดอยู่ตรงขอบฟุตบาทไม่ไกล
ลุงชัยรีบลงมาเปิดประตูให้
“เชิญครับคุณหนู เหนื่อยไหมวันนี้”
สายลมทิ้งตัวนั่งพรวดลงบนเบาะทันที
ถอดรองเท้า ถอดกระเป๋า เอาหัวพิงกระจกแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เหนื่อยมากกกกกกค่ะลุงชัย ไม่ใช่แค่ร่างกายนะ ใจด้วย”
“โอ๊ย ทำไมล่ะครับ ใครแกล้งคุณหนูเหรอ?”
สายลมทำปากยู่ ก่อนจะเล่าเรื่องตั้งแต่ตื่นสาย หลับใน พอร์ชกวนตีนนนนน รุ่นพี่กดดันให้ช่วยเรื่องเกาะ แถมเพื่อน ๆ ยังรุมเข้าหาจนไม่รู้ว่าใครจริงใจ
“นี่แหละลุง ทุกข์ของคนรวย เข้าใจยัง?”
เธอประชดใส่เบาะข้างหน้าอย่างน่าหยิก
ลุงชัยหัวเราะเบา ๆ “แล้วหนูจะให้ลุงทำไงล่ะครับ ช่วยรับบทคนจนปลอม ๆ ให้ไหม?”
“ไม่ต้องเลยลุง” สายลมหัวเราะ “หนูแค่…เหนื่อยนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวลองโทรหาป๊าก่อนก็แล้วกัน ถ้าป๊ายอมให้ใช้เกาะ อย่างน้อยชีวิตมหาลัยปีหนึ่งจะได้เริ่มต้นแบบไม่พังมาก”
ว่าแล้วก็หยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาคุณพ่อสุดที่รัก
“ฮัลโหลป๊าาาา~”
เสียงหวานจัดเต็ม ขัดกับน้ำเสียงเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง
ใต้ฝุ่นรับสายด้วยเสียงเรียบนิ่งตามสไตล์
“ว่าไงสายลมลูก มีอะไรรึเปล่า”
“หนูอยากขอใช้พื้นที่เกาะตระกูลหน่อยน้าาาา สำหรับกิจกรรมรับน้องของคณะหนูเอง”
เงียบไปหนึ่งจังหวะ
“เหตุผล?” ใต้ฝุ่นถามเรียบ ๆ
สายลมเม้มปาก
“ก็… ทุกคนก็อยากไปป๊า พี่ ๆ เขาก็ตั้งใจ พวกเขาพูดถึงเรื่องพี่ทอฝัน เรื่องน้ำตาลด้วยนะ ป๊าก็รู้แล้วนี่ว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง ใครผิดใครถูก… ทุกคนเขารู้กันหมดแล้ว”
“…”
ใต้ฝุ่นยังเงียบ
เสียงลุงชัยเบา ๆ แทรกมา
“คุยดี ๆ นะคุณหนู อย่าดื้อ”
สายลมกลั้นใจ
“ป๊า ปล่อยวางได้แล้วเถอะนะ… อย่างน้อยให้หนูได้ทำอะไรสักอย่างที่ช่วยคนอื่นบ้าง ขอเถอะน้าาาา”
เงียบไปอีกอึดใจ
จนสายลมกำลังจะพูดซ้ำ
“ตกลง” ใต้ฝุ่นพูดขึ้นเสียงเรียบ
“…ห๊ะ?”
“ป๊าว่าอะไรนะ?”
สายลมตาโต นั่งหลังตรงทันที
“ตกลง ให้ใช้ได้ แต่ต้องมีเงื่อนไข”
“อะ…อะไรอีกล่ะป๊า~”
เธอเสียงอ้อนทันที
“อย่าให้ป๊าได้ยินว่าโดดเรียน หรือสอบตก ไม่งั้นป๊าจะไม่ให้ใช้อะไรทั้งนั้นอีกเลย”
สายลมยิ้มกว้างทันทีเหมือนกวาดทองทั้งเกาะ
“ได้เลยค่าาา รักป๊าที่สุดในโลก!!!”
เธอกดวางสายก่อนที่พ่อจะพูดอะไรเพิ่ม แล้วรีบหันไปหาลุงชัย
“ลุงชัย! กลับคอนโดเลยค่ะ วันนี้จะกินข้าวเกี๊ยวน้ำหมูที่ลุงซื้อให้แบบมีความสุขที่สุดในโลกเลย!”