เมื่อมาถึงคอนโด
สายลมก็เดินยิ้มระรื่นพร้อมหิ้วถุงเกี๊ยวน้ำหมูจากลุงชัยขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี
‘วันนี้ภารกิจผ่านฉลุย ป๊ายอมให้ใช้เกาะแล้ว เย่!’
เธอกดลิฟต์ขึ้นไปชั้น 42 อย่างคุ้นเคย
มือหนึ่งถือถุง อีกมือเปิดโทรศัพท์เลื่อนดู Tiktok แบบสบายใจ
แต่จู่ ๆ ขณะที่ประตูลิฟต์กำลังจะปิด
“รอด้วยครับ!”
เสียงทุ้ม ๆ ดังขึ้นจากทางเดิน
สายลมชะงัก เงยหน้าขึ้นมองอย่างงง ๆ
และแน่นอน…คือ...
“พอร์ช…” เธอพึมพำเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงแบบคนหมดบุญทันที
เขาวิ่งมากับผู้หญิงคนหนึ่ง ผิวขาวจัด ผมยาวลอนสีบลอนด์ทอง ใส่ชุดเดรสรัดรูปสีแดงที่แค่ยืนเฉย ๆ ก็เหมือนโพสต์ถ่ายปกแม็กกาซีนแฟชั่น
พี่ส้มโอ
สาวเฉี่ยวประจำคลับผู้เคยได้ยินสายลมแอบนินทาให้ได้ยินในลิฟต์เมื่อหลายวันก่อน
พอร์ชยิ้มกว้าง
“ขอบคุณครับ คุณหนู”
สายลมหันหน้าหนีทันที แล้วเบะปากแบบไม่แคร์โลก
‘อี๋…ทำไมคนประเภทนี้ถึงอยู่ตึกเดียวกับฉันได้วะ’
บรรยากาศในลิฟต์เงียบชวนอึดอัด
ยิ่งเพราะชั้นที่เธอกับเขาอยู่คือชั้นเดียวกัน ชั้นที่ 42
พี่ส้มโอหันมาส่งยิ้มให้สายลม
“น้องอยู่ชั้นนี้ด้วยเหรอ น่ารักจังเลยค่ะ หน้าใสกว่าพี่ตอนอายุเท่านี้อีก”
“ขอบคุณค่ะ” สายลมยิ้มตอบแต่สายตาไม่สบใครเลย
พอร์ชมองสองคนสลับกัน แล้วพูดขึ้นอย่างแกล้ง ๆ
“เด็กคณะผมครับ สวย แสบ แล้วก็…เสียงดังเวลาตะโกนชื่อสกุลกลางห้อง”
สายลมหันขวับ
“อย่าคิดว่าทุกคนจะอยากคุยกับพี่นะคะ”
พอร์ชหัวเราะ
“แหม ทำไมพูดเหมือนเคยคุยกันเยอะเลย”
“…”
สายลมถอนหายใจเฮือกใหญ่
ประตูลิฟต์เปิดที่ชั้น 42 พอดี
เธอก้าวออกไปอย่างไว หยุดยืนหันกลับมาถือถุงเกี๊ยวน้ำไว้แน่น
“อย่าตามมานะคะ ห้องหนูไม่ใช่ที่ฝากลิปสติกของใคร”
พี่ส้มโอขำพรืด
แต่พอร์ชกลับยักไหล่
“ไม่แน่ เดี๋ยวอาจฝากใจไว้แทน”
“อ้วก”
สายลมหันหลังเดินเข้าห้องทันที ปิดประตู “ปัง!”
เธอ ปิดประตูใส่หน้าแบบไม่แคร์แม้แต่นิด
คนตัวเล็กเดินพรวดเข้าไปวางถุงเกี๊ยวน้ำหมูบนโต๊ะ
ถอนหายใจแล้วกำลังจะหยิบช้อนตักลูกชิ้นขึ้นมาซด
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก!”
เสียงเคาะประตูดังขึ้นแบบไม่มีจังหวะเกรงใจ
สายลมขมวดคิ้ว หยิบช้อนค้างไว้กลางอากาศ
“จะใครอีกวะ…”
เธอพึมพำขณะเดินไปเปิดประตู แล้วก็เป็นอย่างที่คิด
พอร์ช
ยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แบบที่น่าจะมีป้ายติดคอว่า “ระวังหมาป่า”
สายลมเบิกตานิดหน่อย ก่อนจะรีบง้างประตูปิดใส่หน้าโดยสัญชาตญาณ
แต่ไม่ทัน…
แขนแกร่งของพอร์ชพุ่งมาดันประตูไว้
แรงพอดี ไม่มากไป แต่พอให้เธอหยุด
“มีอะไร”
สายลมถามด้วยน้ำเสียงห้วนจัด ปิดไม่มิดว่าไม่พอใจ
พอร์ชหัวเราะหึ ๆ อย่างสะใจ
“ขอเบอร์หน่อย”
“เอาไปทำไม”
น้ำเสียงของเธอแข็งขึ้นทันที
พอร์ชเอนตัวพิงขอบประตู
สายตากรุ้มกริ่ม ยิ้มแบบคนรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ชอบ แต่ก็ยังหน้าด้านอยู่
“ก็พวกพี่อยากรู้ว่าภารกิจของน้องจะไปถึงไหนแล้ว… อีกสองวันใช่ไหม? จะได้มีความหวังไปเกาะซักที”
เขาเว้นช่วงนิด ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะติดเล่น แต่แทงใจแบบเฉียบขาด
“ไม่ได้จะจีบหรอกนะ น้องไม่ใช่สเปคพี่… พี่ไม่ชอบเด็ก”
คำพูดนั้น ทำเอาสายลมหน้าชา
ไม่รู้ว่าเพราะรู้สึกโดนหักหน้า หรือเพราะไม่เคยถูกเมินแบบนี้มาก่อนกันแน่
เธอเหยียดยิ้ม
ยื่นมือไปตรงหน้าเขาอย่างไม่พูดอะไร
“โทรศัพท์”
พอร์ชยื่นมือถือให้
สายลมหยิบมากดเบอร์ของตัวเองอย่างรวดเร็ว
“เรียบร้อย”
เธอยื่นคืนไป ไม่แม้แต่จะสบตา
พอร์ชรับมือถือกลับ
เหลือบมองชื่อที่เธอเซฟให้ตัวเอง
“…คุณหนูวรรธนะ?”
เขาเลิกคิ้วขึ้นอย่างนึกขัน
สายลมยักไหล่
“จะเปลี่ยนเป็น ‘คนที่พี่ไม่ชอบเด็ก’ ก็ได้นะคะ จะได้จำง่าย ๆ”
พอร์ชหัวเราะเบา ๆ
“เออ ดี เดี๋ยวเปลี่ยนให้เลย”
สายลมกำลังจะปิดประตู
แต่ก็หันมาหยุดพูดอีกประโยคก่อน
“บอกเพื่อนพี่ไว้ด้วยนะ ว่ากิจกรรมครั้งนี้จะได้ไปเกาะหรือไม่… มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับป๊าอย่างเดียวหรอก”
พอร์ชชะงักนิด
ก่อนจะหัวเราะในลำคอ
“หึ… พี่เริ่มสนุกกับปีนี้แล้วสิ”
“ดีค่ะ จะได้ไม่เบื่อเวลาโดนหนูเล่นกลับ”
จากนั้นเธอก็ปิดประตูใส่หน้าเขาอีกครั้ง คราวนี้ ไม่มีแขนมาดัน
พอร์ชยังยืนนิ่งอยู่หน้าห้อง ยิ้มมุมปาก
‘ยัยเด็กนี่…ไม่ธรรมดา’
ด้านสายลม
สายลมปิดประตูลงด้วยเสียง “ปึ้ง!” แน่นพอให้คนหน้าห้องรู้ว่าไม่ต้องเคาะกลับมาอีก
เธอพิงแผ่นหลังกับประตู สูดหายใจเข้าลึกแล้วถอนใจเฮือก
ใบหน้าที่เมื่อครู่ยังมีรอยยิ้มจิกกัด ตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นความหงุดหงิดแบบไม่รู้จะระบายยังไง
“ไม่ชอบเด็กงั้นเหรอ?”
เธอพึมพำกับตัวเอง แล้วกลอกตามองเพดาน
“หึ… ก็ดี… เพราะฉันเองก็ไม่ชอบผู้ชายที่เคยจีบพี่สะใภ้ฉันเหมือนกัน!”
น้ำเสียงขุ่นจัดปนเคือง ขณะที่เธอเดินกระแทกเท้าเบา ๆ ไปยังโต๊ะ
หยิบถุงเกี๊ยวน้ำหมูที่ลุงชัยตั้งใจซื้อมาให้ด้วยความปราณี
“ฉันจะไม่ยอมให้หมอนั่นมายืนเหนือหัวเด็ดขาด”
เธอเปิดตู้เย็น หยิบชามออกมาจัดเกี๊ยวลงในกล่องแก้วอย่างประณีต
จากนั้นก็เก็บไว้ในช่องกลางด้วยท่าทีเหมือนซ่อนของมีค่าจากคนทั้งโลก
‘ไว้ค่อยกินหลังอาบน้ำเสร็จ จะได้อารมณ์ดี’
หลังปิดตู้เย็นเรียบร้อย เธอยังยืนมองเงาตัวเองในกระจกหน้าบานตู้เย็นอยู่อึดใจหนึ่ง
พลางพูดเบา ๆ เหมือนประกาศสงครามเงียบ
“คิดจะปั่นประสาทฉันเหรอ พี่ว้าก… เจอกันในสนามจริงเถอะ”
เธอหันหลังเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างมั่นใจ
ทิ้งไว้เพียงกลิ่นอายของคุณหนูตัวแสบ ที่กำลังจะกลายเป็นคู่กัดคนสำคัญของ “พี่ว้ากจอมกวน”