บทที่ 6 ขอร้อง

1278 คำ
ขณะที่สายลมนั่งอยู่เงียบ ๆ ใจเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ ดวงตากวาดมองไปรอบห้องอย่างประหม่า เธอกำลังสงสัย… “นายนั่น… รู้หรือยัง?” เขามองมาเมื่อกี้ ดวงตาคมกริบแบบนั้น มันเหมือนคนที่รู้แล้วว่าเธอคือใคร หรือเขาแค่จ้องเฉย ๆ เพราะเธอหน้าตาดี? หญิงสาวคิดปลอบใจตัวเองในใจอย่างแผ่วเบา แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรต่อ… เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากฝั่งซ้ายของห้องประชุม “ตระกูลวรรธนะเดชเหรอ?” เสียงของ รุ่นพี่ผู้หญิงคนเดิม จากโต๊ะลงทะเบียนเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้นเล็ก ๆ “นั่นไง!” เธอชี้นิ้วอย่างมั่นใจ “น้องที่ลงทะเบียนตอนเช้าน่ะ ใช่เลย! ลูกสาวคนสุดท้องของตระกูลวรรธนะเดช!” ทันทีที่คำว่า “ลูกสาวคนสุดท้อง” หลุดออกจากปาก… ทั้งห้องเงียบกริบ ราวกับลมหายใจของทุกคนถูกดูดออกไปจากห้อง สายตากว่าห้าสิบคู่หันขวับมามองที่เดียว ที่เธอ …“สายลม นริสา วรรธนะเดช” สายลมเบิกตาโต ใบหน้าขาวซีดไปทันตา หัวใจตกวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เธอรู้สึกเหมือนเวลาหยุดนิ่ง… ‘ชิบหายแล้ว!!’ เธอพึมพำเบา ๆ ในลำคอ หน้าเห่อร้อนขึ้นมาทันทีจนอยากมุดโต๊ะหนี จะโดนด่าไหมวะ!? เธอคิดด้วยความสยองสุดขีด นี่เธอ…หลับกลางพิธี แถมยังมาสาย แล้วทุกคนเพิ่งพูดกันอยู่ว่าอยากให้ตระกูลเธอเปิดเกาะให้ไปรับน้อง! …ตายแน่ ๆ! พอร์ชที่ยืนอยู่หน้าเวที ชะงักไปหนึ่งจังหวะ ก่อนจะค่อย ๆ หันมามองเธอเต็ม ๆ อีกครั้ง คราวนี้… ไม่ใช่แค่สบตา แต่เขายิ้ม ยิ้มแบบที่คนรู้ความลับคนอื่นเต็ม ๆ รอยยิ้มมุมปากที่มีทั้ง ความแสบ และ ความขำ ปนกัน เขากลั้นหัวเราะไม่ได้ จนยกมือลูบคางเบา ๆ แล้วเอ่ยเสียงดัง “อ๋อออ… ที่แท้ก็ เจ้าของเกาะ มานั่งอยู่ตรงนี้เอง” สายลมเบิกตากว้าง หันไปเบะปากใส่พอร์ชทันที กระซิบกับตัวเองเสียงเบา “เอาแล้วไง… พี่ว้ากรู้แล้วแน่ ๆ ว่าฉันคือใคร…” ‘ชีวิตปีหนึ่งของฉัน… พังแน่!!’ ตอนนี้สายลมนั่งก้มหน้าอยู่ตรงกลางห้อง รอบตัวคือรุ่นพี่ปี 3 ทั้งชายหญิง รุ่นน้องปีหนึ่งอยู่รอบ ๆ นั่งกับพื้น ส่วนพอร์ชนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ ทำหน้าเหมือนดูละครสนุก ๆ อยู่เงียบ ๆ “น้องสายลมคะ” เสียงของรุ่นพี่หญิงคนหนึ่งดังขึ้นเบา ๆ แต่จริงจัง สายลมเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ยิ้มแหย ๆ มือกอดกระเป๋าไว้แน่นเหมือนเป็นโล่กำบังตัวเอง “ว่าไงคะ…” เธอตอบเสียงเบา “พี่ขอเชิญน้องมาคุยแยก เพราะวันนี้…น้องมาสายใช่ไหม?” สายลมพยักหน้าอัตโนมัติในทันที แล้วเดินตามมายังห้อง ๆ หนึ่ง ที่มีรุ่นพี่นั่งรายล้อม ‘จะโดนอะไรอีกเนี่ย… ให้ทำสควอทกี่รอบก็ว่ามา’ เธอคิดอย่างยอมรับชะตากรรม แต่สิ่งที่ได้ยินกลับไม่ใช่… “แต่พี่จะไม่ทำโทษ…ถ้าน้องช่วยไปพูดกับป๊าน้องให้หน่อย” “คะ?” สายลมเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาเบิกกว้าง “ก็ตามนั้นค่ะ” รุ่นพี่ผู้หญิงยิ้มบาง ๆ “เรารู้ว่าน้องคือ ลูกสาวของคุณใต้ฝุ่น วรรธนะเดช… คนที่เป็นเจ้าของเกาะ ที่เมื่อสองปีก่อน คณะเราเคยได้รับอนุญาตให้ใช้จัดกิจกรรมรับน้อง” เสียงในห้องเงียบลงครู่หนึ่ง มีเพียงเสียงฝนปรอยเบา ๆ กระทบหลังคาที่ดังลอดมา “จนกระทั่ง…” พี่อีกคนพูดต่อ “ลูกสาวของคุณซีโร่ พี่ทอฝันน่ะ ถูกใส่ร้ายในมหาลัย ส่วนมหาลัยก็ไม่ได้ทำอะไร นอกจากปัดความรับผิดชอบไปเรื่อย ๆ” “พอคุณใต้ฝุ่นรู้เรื่อง ก็สั่งห้ามใช้สถานที่ในเครือทั้งหมดทันที” สายลมเม้มปากแน่น หัวใจเต้นแรง เรื่องนี้เธอเคยได้ยิน…แต่ไม่คิดว่าจะมาเกี่ยวกับเธอในวันนี้ “เรารู้ว่าน้องเพิ่งเข้ามาเรียน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับอดีต” พี่คนควบคุมกิจกรรมพูดด้วยเสียงนุ่ม “แต่ปีนี้พวกเราตั้งใจจะฟื้นภาพลักษณ์ของคณะให้ดีขึ้น และอยากให้กลับไปจัดรับน้องที่เกาะของครอบครัวน้องอีกครั้ง…” เขาหยุดไปเล็กน้อย แล้วมองเธอตรง ๆ “ช่วยพูดกับคุณใต้ฝุ่นให้หน่อยนะ แลกกับการไม่ถูกทำโทษเรื่องวันนี้” สายลมกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ เธอมองไปรอบ ๆ ห้อง ทุกคนกำลังรอฟังคำตอบจากเธอเหมือนกับว่ากำลังพิจารณาข้อเสนอของบริษัท แต่ในใจเธอ… ‘จะให้ฉันพูดกับป๊า…เรื่องนี้เนี่ยนะ?’ เธอรู้ดีว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องของ “สถานที่” แต่มันคือศักดิ์ศรีของครอบครัว และความเจ็บปวดที่ยังไม่จางหาย สายลมสูดหายใจเบา ๆ ก่อนจะตอบเสียงแผ่ว “หนู…ไม่แน่ใจว่าป๊าจะยอมฟังไหมค่ะ แต่…จะลองพูดดู” พอร์ชที่เงียบอยู่จนถึงตอนนี้ ยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ แต่แฝงความรู้ทันนิด ๆ “แค่ลองพูดก็พอครับ คุณหนู” เขาเน้นคำสุดท้ายด้วยรอยยิ้มมุมปาก ทำเอาสายลมแทบอยากปารองเท้าใส่ “ค่ะ…” สายลมตอบรับเสียงเบา แต่ในใจคืออยากยกป้ายประท้วงใส่หน้าพอร์ชที่กำลังยิ้มกวน ๆ เหมือนคนเพิ่งชนะพนันมา ให้ตายไม่ชอบขี้หน้าผู้ชายคนนี้เลย เธอเบ้ปากใส่เขาอย่างหมั่นไส้สุดขีด ก่อนจะรีบเบี่ยงสายตาไปมองรุ่นพี่อีกคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ซึ่งดูสุภาพกว่าเล็กน้อย “งั้น…พี่จะรอฟังข่าวดีจากน้องอีก สองวัน นะครับ” เสียงทุ้มนุ่มของรุ่นพี่คนนั้นกล่าวปิดท้าย พร้อมรอยยิ้มที่ดูพึงพอใจแบบคนที่เชื่อว่าทุกอย่างจะง่ายเหมือนเปิดประตู ‘ข่าวดีบ้านพี่สิ’ สายลมคิดในใจพลางยิ้มเจื่อน ๆ พยักหน้าหงึกหงักแบบคนหมดสิทธิ์เถียง เธอเดินออกจากห้องเล็กไปเงียบ ๆ แล้วกลับไปยังที่นั่งของกลุ่มนักศึกษาปีหนึ่งอีกครั้ง …เธอหย่อนตัวลงตรงเก้าอี้แถวเดิม ถอนหายใจแรงแบบไม่ปิดบัง ‘ตอนแรกกะมาเรียนเฉย ๆ นะ ไม่คิดจะมีใครรู้ว่าเป็นใคร’ ‘อยู่ ๆ จะให้ฉันไปงัดป๊าเพราะอยากจัดรับน้องบนเกาะ… นี่คิดว่าป๊าฉันง่ายเหมือนปลอกกล้วยหรือไงวะ’ เสียงพิธีกรบนเวทีกำลังบรรยายอย่างกระตือรือร้น “กิจกรรมรับน้องของคณะเราจะเริ่มในอีกหนึ่งสัปดาห์ และจะมีกิจกรรมแบ่งกลุ่ม ประลองทักษะ ทั้งสันทนาการและวิชาการไปพร้อมกัน…” เสียงรอบข้างดังแว่ว ๆ แต่ในหัวสายลมกลับเริ่มเลือน ๆ หนังตาหนักขึ้นทุกที ราวกับมีแม่เหล็กถ่วงไว้ เธอเอนตัวลงนิด ๆ พิงหลังกับพนักเก้าอี้ ลมหายใจเริ่มสม่ำเสมอ ‘นั่งแป๊บนึง…ก็ได้มั้ง…’ หัวค่อย ๆ พับ… ~ คร่อก ~ “เฮ้ น้องคนนั้น…หลับอีกแล้วเหรอ?” เสียงกระซิบของรุ่นพี่แถวหน้าแว่วเบา ๆ พอร์ชที่เดินออกจากห้องเล็กตามมาทีหลัง เหลือบเห็นพอดี เขาเท้าแขนกับขอบผนัง ยกมุมปากนิด ๆ “คุณหนูคนนี้…ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยแฮะ” เขาพึมพำแล้วส่ายหน้ายิ้ม ๆ ก่อนจะควักมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเธอหลับไว้แบบแอบ ๆ …ไม่ใช่เอาไปแกล้ง (มั้ง) แต่อาจเอาไว้ขู่เล่นตอนเธอดื้อก็ได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม