บทที่ 3 ปฐมนิเทศ

1166 คำ
สามวันต่อมา ณ คอนโด xx เวลา 07:00 น. ~คร่อก…ฟี้ คร่อก…ฟี้~ เสียงลมหายใจสม่ำเสมอของสายลม นริสา วรรธนะเดช คุณหนูจอมซนแห่งตระกูลดัง ยังคงนอนหายใจอยู่บนเตียงกว้างในคอนโดหรู เธอนอนคว่ำหน้า ขาซ้ายพาดหมอนข้าง ขาขวาเหยียดตรง มือหนึ่งกอดตุ๊กตา อีกมือวางทับโทรศัพท์ที่ตั้งปลุกไว้…เมื่อวาน ใช่ค่ะ “เมื่อวาน” เพราะเธอตั้งปลุกผิดวัน ตอนนี้คือ เจ็ดโมงตรง เวลาที่ควรจะลุกอาบน้ำ แต่งตัว และเตรียมไปร่วมพิธีปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ แต่…คุณหนูสายลมยังคงนอนหลับเป็นตายอยู่ในห้วงความฝัน ไม่ไยดีต่อโลกความจริงแม้แต่น้อย ขณะที่แสงแดดยามเช้าสาดเข้ามาทางหน้าต่าง เงาของม่านปลิวไหวสะท้อนอยู่บนผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาด แต่ร่างเล็กก็ยังไม่กระดิก กระทั่ง… ติ๊ก…ติ๊ก…ติ๊ก… เข็มยาวของนาฬิกาบนผนังหมุนมาถึงเลข 12 เวลา 08:00 น. “เชี่ยยยยยยย! แปดโมง!!!” เสียงหวีดร้องลั่นห้องดังขึ้นทันที “ชิบหายแล้วววววววว วันปฐมนิเทศ!!!!” สายลมเด้งตัวพรวดขึ้นจากเตียงในทันทีแบบไม่ผ่านกระบวนการประมวลผลใด ๆ ทั้งสิ้น โทรศัพท์กระเด็นตกลงพื้น ส่วนหมอนข้างกลิ้งหลุน ๆ ไปใต้เตียง เธอพุ่งตัววิ่งเข้าห้องน้ำอย่างกับถูกสิง วิ่งแบบไม่ได้สวมรองเท้า เสียงฝ่าเท้าเปล่ากระทบพื้นดัง ตึก! ตึก! ตึก! “โอ๊ยยยยยย ทำไมไม่ตื่น!!! ปลุกก็ไม่ปลุก!” เธอบ่นเองใส่ตัวเอง หยิบผ้าเช็ดตัวพาดบ่าไปด้วย ก่อนหายเข้าไปในห้องน้ำพร้อมเสียงเปิดน้ำกระแทก ซ่า~ ถ้าใต้ฝุ่นผู้เป็นพ่อมาเห็นสภาพตอนนี้ คงได้บอกว่า “ลูกสาวฉันนี่มัน…ตัวก่อเรื่องจริง ๆ” หลังจากใช้เวลาทำเวลาในห้องน้ำเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ชีวิตตัวเอง สายลมก็พุ่งออกจากคอนโดในสภาพที่ไม่พร้อมที่สุดเท่าที่เคยเป็น เธอพับแขนเสื้อไม่เสร็จ รองเท้าอีกข้างยังไม่ร้อยเชือก ผมเปียก ๆ จากการสระแบบเร่งด่วนก็ถูกมัดเป็นบันหลวม ๆ อยู่ด้านหลัง ขณะที่เธอวิ่งพรวดลงจากคอนโด รปภ. ที่ประจำอยู่หน้าประตูก็โบกมือจะทักทาย แต่สายลมไม่หยุดแม้แต่จะหันไปมอง “คุณหนู! เดี๋ยว...” “ไม่มีเวลาแล้วลุงงง!!” เธอตะโกนกลับแบบลอย ๆ โดยที่ร่างวิ่งผ่านด่าน รปภ. ไปเรียบร้อยแล้ว และแทนที่จะให้คนขับรถของบ้านมารับไปส่งตามระเบียบ สายลมกลับหันควับไปอีกทางก่อนกระโดดขึ้นวินมอเตอร์ไซค์ด้วยจิตใจฮึดสุดชีวิต เธอพูดเบา ๆ ขณะที่วินกำลังเร่งเครื่อง “ถ้าป๊ารู้ว่าตื่นสาย…มีหวังโดนลดค่าขนมยันเทอมหน้าแน่ แค่คิดก็ขนลุกแล้ววว!” ฟู่วววว~ เสียงลมปะทะหน้าจนผมที่เพิ่งไดร์อย่างลวก ๆ ฟูขึ้นอย่างหมดรูป เธอยกมือพยายามปัดมันลง สลับกับดึงกระโปรงให้เข้าที่อีกข้างพลางบอกตัวเองในใจว่า ‘ขออย่าให้มีใครรู้ทีเถอะว่านี่คือคุณหนูตระกูลวรรธนะเดช…’ ณ หน้าอาคารใหญ่ เวลา 08:45 น. หลังลงจากวินพร้อมจ่ายเงินแทบจะโยนแบงก์ใส่มือวินไปแล้ว สายลมรีบเดินดุ่มเข้าอาคารด้วยความเร็วระดับโซนิค สายตากวาดไปรอบ ๆ พยายามหาจุดลงทะเบียนนักศึกษาปีหนึ่ง ทว่าอาคารขนาดมหึมาคราคร่ำไปด้วยเด็กปีหนึ่งจากทุกคณะ บ้างก็นั่งเรียงแถว บ้างก็กำลังถ่ายรูปเซลฟี่กันสนุกสนาน สายลมหอบหายใจแผ่ว ๆ ก่อนจะปัดเนื้อปัดตัว จัดผมฟู ๆ ให้ดูเรียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วถอนหายใจหนึ่งทีอย่างจริงจัง “เอาวะ…” เธอก้าวเข้าไปในโถงกลางซึ่งมีป้ายแยกแต่ละคณะอยู่ตามจุดต่าง ๆ “วิศวะอยู่ไหนวะ…” เธอบ่นพึมพำ สายตามองกวาดไปทั่ว ก่อนจะเจอกลุ่มหนึ่งที่โดดเด่นกว่ากลุ่มอื่น เสื้อช็อปสีแดงเพลิงที่ปักโลโก้เฟืองทองอย่างสง่างาม เด็กหนุ่มหญิงสาวยืนกระจุกอยู่ตรงมุมซ้ายของอาคาร บางคนช่วยกันแจกแฟ้มเอกสาร บางคนก็รับเอกสารจากน้องปีหนึ่งที่มายื่นเอกสาร “…นั่นแหละ” เธอกะพริบตาสองสามที สูดหายใจ แล้วเดินตรงไปอย่างพยายามเนียน ตึกตัก! หัวใจเต้นแรงแปลก ๆ ทั้งเพราะกลัวโดนจับได้ว่ามาสาย… และเพราะสายตาคม ๆ คู่นั้นที่ดูคุ้น ๆ กำลังหันมาทางเธอพอดี อีกด้านของพอร์ช วชิรากรณ์ ปัจภักดี บริเวณจุดลงทะเบียนคณะวิศวะ “เฮ้ย ไอ้พอร์ช มีคนด่ามึงที่คอนโด แล้วมึงไม่พูดอะไรกลับไปเลยเหรอวะ?” เสียงของ ออกัส ดังขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะขำกลิ้ง “ใช่ดิ!” ปอร์เช่ เพื่อนสนิทอีกคนเสริมอย่างคันปาก “เด็กปีหนึ่งปากไวแบบนั้น ถ้าเป็นกูนะ… เดือด!” พอร์ช ที่นั่งเอนตัวพิงพนัง หาวเบา ๆ อย่างขี้เกียจ ก่อนจะยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ แล้วตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่เจือขำ “ตอนนั้นกูไม่ได้สนใจไง… ก็แค่เด็กเวรคนหนึ่งที่น่าจะเมาความมั่นใจของตัวเองเกินไป” “แล้วเจอหน้ามันอีกยัง?” ออกัสถามด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น “เด็กที่ว่า…มึงโตเหมือนควายน่ะ ฮ่าๆๆ!” พอร์ชยกมือขึ้นนวดขมับอย่างเบื่อ ๆ ก่อนจะถอนหายใจยาว แต่ยังไม่ทันจะได้ตอบอะไร สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนเดินเข้ามาในอาคาร… ผู้หญิงตัวเล็ก ผิวขาวจัด หน้าตาจัดว่าน่ารัก แต่ใบหน้าเรียบนิ่ง เหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งที่กำลัง “มาสาย” ในวันปฐมนิเทศ พร้อมกับผมยาว ๆ ที่พยายามเซตให้เรียบยังหลุดออกมาเล็กน้อย กระโปรงมีรอยยับนิด ๆ และท่าทางที่เดินเข้ามา…โคตรจะไม่รู้สึกผิด พอร์ชกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเพยิดปากไปทางนั้น พร้อมพูดเสียงเรียบ “หึ นั่นไง ยัยเด็กนั่นแหละ” ออกัสกับปอร์เช่หันขวับตามทันที “เฮ้ย จริงดิ! โอ้โห ตัวเล็กก็จริง แต่ปากคงไม่เล็กตามเนอะ” พอร์ชไม่ได้ตอบอะไร เขาแค่มองตามสายลมที่ยื่นใบลงทะเบียนให้น้องพี่สันทนาการ ก่อนจะหันมาสบตากับเขาแวบหนึ่ง แต่เธอก็ทำเหมือนไม่เห็น…เดินผ่านไปหน้าตาเฉยเหมือนเป็นแค่อากาศ พอร์ชหัวเราะในลำคอเบา ๆ ‘ยัยนี่มันไม่รู้เลยจริง ๆ ว่ากำลังเดินเข้าสนามประลอง’ เขาในฐานะ “พี่ว้าก” และวันนี้คือวันแรกที่เธอ…มาสาย แถมอีกไม่กี่วันก็จะถึงกิจกรรมรับน้องที่เขาเป็นคนคุมหลัก เด็กปีหนึ่งธรรมดาอาจจะโดนว้ากนิด ๆ หน่อย ๆ แต่สำหรับเด็กปากไวที่เคยว่ารุ่นพี่ว่า “ตัวเหมือนควาย” แบบเธอ… บทลงโทษจะต้องหนัก และจำไม่ลืมแน่นอน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม