ปัก ปัก ปัก
"อื้อ...ไอคนใจร้าย!..อื้อออ" ณิชาก่นเสียงต่อว่าใส่หมอนหนุนด้านข้าง เมื่อว่าที่เจ้าบ่าวยังหื่นกระหายในเรือนร่างเธอไม่หยุด ยังก้มลงมาซุกไซร้ตามลำคอระหงขาว ยกเว้นส่วนล่างยังเน้นสอบกระแทกใส่จนจุกมวลในท้องน้อยมากๆ
"พี่ยังใจร้ายได้มากกว่าที่เธอคิดอีก" มุมปากหยักยกยิ้มร้าย ล้วงมือไปกดขยี้ติ่งเกสรน้อยๆ ระหว่างที่ยังคลอเคลียกับลำคอระหงมีกลิ่นกายสาวหอมละมุน
เขาล็อคเอาใบหน้าสวยให้มาจ้องตาระยะใกล้ แล้วก้มลงดูดดุนเรียวปากนุ่ม รับรู้รสคาวที่อีกฝ่ายเผยกัดจนเกิดรอยแผล
มันปลุกอารมณ์ดิบในร่างกายชาย ให้รัวแรงกระแทกใส่ในร่องสาว แล้วตะโบมจูบใส่อย่างหนักเค้นเอาน้ำหวานมากลืนกิน
"อื้อ..ณิหายไม่ออกแล้ว" เสียงหวานเอ่ยร้องขอไม่หยุด แต่สองมือก็ยังโดนรัดแน่น เลยทำได้เพียงยกขึ้นมาฟาดอยู่บนบ่ากว้าง
เธอยิ่งโดนลำตัวกำยำกดแนบบนกายสาวแน่น สองเต้าเนื้ออกอวบประชิดกล้ามอกกว้าง สองขาเรียวอ่อนต้องตั้งฉากกว้างอย่างไม่มีทางเลือก
"แต่ก็ไม่ได้จะตายสักหน่อยว่าไหม" ร่างสูงแอ่นสะโพกแกร่งหนักกว่าเก่า เมื่อความทะเยอทะยานใกล้จะถึงจุดสูงสุด สองมือหนารีบเลื่อนไปขยำกุมสองเต้าเนื้ออวบ แล้วกดลงเน้นๆ ในร่องสาวกระตุกปล่อยน้ำกามทุกหยด
"อะไอพี่ไตรใจร้าย!..ทำไมไม่ปล่อยข้างนอกเรายังไม่ได้แต่งงานกันนะ!" เสียงใสรีบต่อว่า ความวาบหวามมันโลดแล่นเข้าในท้องน้อย บ่งบอกว่าอีกฝ่ายจงใจทำจนลืมเรื่องผลประโยชน์ไป
"แล้ว?"
"งั้นพี่ไตรก็รีบเซ็นต์เลย ณิจะกลับบ้านไปหายาคุมกิน" เธอขยับตัวหนีจะให้ช่วงล่างทั้งสองหลุดออกจากกัน แต่อีกฝ่ายนิ่งกดลงแรงกว่าเดิม
"พี่ก็ไม่ได้บอกนี่ว่าจะปล่อยเรากลับบ้านตอนไหน แล้วไอทะเบียนสมรสใบนั้นยังไงพี่ก็ต้องเซ็นต์ให้เราอยู่แล้ว" ฝ่ายคนบอกเผยยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ โน้มตัวลงพรมจูบไปตามลำคอระหงขาว มีรอยเขี้ยวจากเขาจนเห็นได้ชัดไปหมด
"อื้อ..ณิไม่ให้ทำแล้วนะ! มันเจ็บมันปวดท้องไปหมดเลย"
"อย่ามาทำเหมือนว่าพี่จะพิษสวาทเธอหน่อยเลย แค่มันอยากทั่วๆ ไป" ฝ่ายคนบอกจับเอาสองเรียวขาอ่อนเบี่ยงไปข้างเดียวกัน แล้วแอ่นกระทุ้งใส่ในท่าที่คนตัวเล็กนอนหันข้าง ยิ่งทำให้ลำเอ็นชายเข้าไปลึกสุดลำโคนทุกจังหวะกระแทกใส่
"อื้ออ..ไอคนนิสัยไม่ดี! ไม่เป็นคำพูดเอาซะเลย!" พอเธอเห็นหนทางแก้มัดข้อมือเล็ก เลยรีบกัดปลายเชือกของเนคไทจนมันหลุดได้เป็นอิสระ
แต่ทว่าร่างสูงยิ่งแอ่นกระแทกใส่ในร่องสาวหนักหน่วงกว่าเดิม สองมือบางเลยเลื่อนกำจิกผ้าปูที่นอนสะเปะสะปะ เหลือบมองเห็นคราบคาวกำลังไหลลงโคนขาอ่อน มีเปลื้อนบนกล้ามท้องชายด้วย
"อยากจะกลับตอนไหนดีล่ะ?"
"ก็ตอนนี้ไง..อื้อ..หยุดได้แล้ว!" ยิ่งเห็นใบหน้าคนใจร้ายเธอยิ่งรังเกียจ ทั้งที่เมื่อก่อนก็ไม่เคยจะพูดดีกันสักครั้ง เขาคงจะนึกสนุกอยากกลั่นแกล้งเธอยังไงก็ได้ ในเมื่อตัวเองมีสิทธิ์ตัดสินใจเพียงคนเดียว
"ได้! งั้นก็ทนหน่อยนะ...อ่าส์" เขาจับเอาขาเรียวกลับมาตั้งฉากกว้าวเหมือนเดิม แล้วโน้มตัวลงมากระแทกจูบหนักๆ เหมือนกับสะโพกแกร่งที่เน้นสอบทุกจังหวะถี่ระรัว
ปล่อยสองมือบางพยามขีดข่วนแผ่นหลังกว้าง จนในที่สุดก็กระตุกเกร็งปลดปล่อยน้ำกามในรอบที่สองอีกครั้ง
"ณิเกลียดพี่ไตร! น่ารังเกียจที่สุดเลย..." หยดน้ำตาเอ่อล้นลงข้างขยับ รีบผลักตัวคนสูงออกจากกายสาว เธอแทบจะขาดใจเพราะแรงสวาทของอีกฝ่ายอยู่แล้วเชียว แถมมันเป็นครั้งแรกของเธอช่างทรมานในกายสาวมากเหลือเกิน
"ไปอาบน้ำซะแล้วค่อยกลับ" น้ำเสียงเข้มออกคำสั่ง คว้าเอาผ้าขนหนูสีขาวมาพันรอบเอวสอบ
"ไม่! ณิจะกลับตอนนี้เลย ไม่อยากอยู่ร่วมห้องกับพี่ไตรแล้ว" แค่จะขยับสองขาอ่อนมันก็สั่นระริก ไหนจะคราบคาวที่ยังไหลออกมาจากร่องสาวไม่หยุดอีก
"จะออกไปสภาพนี้ไม่น่าสมเพชไปหน่อยเหรอ?"
"แล้วใครเป็นคนทำล่ะ!" เธอรีบคว้าเอาผ้าขนหนูผืนสีขาวมาพันรอบร่างกาย แต่พอจะเบี่ยงสองขาลงเหยียบพื้นกระเบื้องข้างเตียง มันก็อ่อนแรงจนต้องนั่งเรียกสติใหม่
"อ่อนดีนะ" สายตาคู่คมไล่มองเรือนร่างน่าเวทนา เขายังไม่ได้ปลดปล่อยอารมณ์ดิบไปสักเท่าไหร่เลย เธอก็ทำตัวเหมือนใกล้จะตายอยู่แล้ว
"นั่นปากคนเหรอ..."
"พี่ก็ไม่ได้ใจดีซะด้วยนะ ขืนยังชักช้าอีกนิดเดียวคงได้มีอีกรอบแน่ๆ " ฝ่ายคนบอกเดินตรงไปบนโต๊ะทำงาน คว้าปากการาคามาจรดลายเซ็นต์ลงในกระดาษทะเบียนสมรส ซึ่งเขาเป็นคนพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว
"อึก..." ณิชาเหลือบมองการกระทำของว่าที่เจ้าบ่าว ก่อนจะกลั้นใจเดินเข้าห้องน้ำไม่ลืมจะหยิบเสื้อผ้าชุดเดิมที่เธอใส่มา
พอเห็นร่างกายตัวเองในกระจกก็ต้องตกใจหนัก มีรอยจ้ำเต็มรอบลำคอขาว ลงมายังเต้าเนื้ออกอวบขาวแทบไม่เหลือผิวดี
"เลวที่สุดเลย..."
แก็ก~ สองเท้าเล็กก้าวทีละช้าๆ ในชุดกระโปรงสั้นแขนตุ๊กตาสีหวาน มือบางสองข้างยกขึ้นกุมท้องน้อย มันยังรู้สึกหน่วงและมีของเหลวบางอย่างกำลังไหลออกมาไม่หยุด แม้ว่าเธอจะทำความสะอาดไปหลายรอบแล้ว
"เอาของที่เธออยากได้ไปสิ" น้ำเสียงเข้มเอ่ยขึ้น เขาุ่งเพียงกางเกงสแลคสีดำตัวเดียว หลังจากไปยืนสูบบุหรี่รับสารนิโคตินอย่างหนักตรงระเบียงข้างนอกมา
"......" ใบหน้าสวยเบี่ยงมองไปยังความสนใจ มากกว่าจะสนทนากับว่าที่เจ้าบ่าว ที่คนอื่นภายนอกต่างมองเป็นสุภาพบุรุษแต่สำหรับเธอไม่ใช่เลย
ก็อก! ก็อก!
"ณิอยู่ในนั้นหรือเปล่า! ณิมาที่นี่หรือเปล่า!" เป็นเสียงเคาะประตูของคนกระวนกระวาย ทำให้ร่างอรชรรีบหันมองเพราะรู้ดีว่าใครยืนเบื้องหน้าประตูนั้น
"จะมาห้องคนอื่นหัดมีมารยาทหน่อย!" ทันทีที่กระชากประตูห้องเปิด น้ำเสียงเข้มตำหนิดัง เผยให้เห็นว่าเขาไม่พอใจอย่างหนักที่น้องชายลูกติดแม่เลี้ยงไม่ให้เกียรติ
"ผมจะมาหาณิ ไปกันเถอะกลับบ้านกันนะ" ตรีรีบพุ่งมาจับมือณิชา เขารักเธอมานานแล้วสนิทกันหลายปี เพราะทั้งสองครอบครัวรู้จักกัน
"มีสิทธิ์อะไรจะพาเมียคนอื่นไปด้วย!" ไตรภูมิตรงมากระชากตัวร่างอรชรมายืนข้างๆ เขา
"เมีย? ณิไม่ได้จะแต่งงานกับพี่ไตรไม่ใช่เหรอ พี่ไตรไม่ได้ณินี่ผมต่างหากที่รักณิ!"
"คือตรีฟัง..."
"งั้นมึงก็ดูหลักฐาน แล้วอย่าบอกว่าตัวเองมีสิทธิ์แต่งงานในเมื่อมึงไม่ใช่ทายาทของสิงห์เรืองโรจน์" เขาโชว์ให้เห็นใบทะเบียนสมรสในมือบาง จากคนตัวเล็กที่ยังกอดไว้แน่น
"มะหมายความว่ายังไงณิ ไหนบอกว่าจะให้เราช่วยไง ทำไมไม่รอเราล่ะ..."
"ขอโทษนะตรี แต่เรื่องครอบครัวของณิมันไม่สมควรไปเป็นปัญหาของตรีเลยนะ" เธอบอกอย่างรู้สึกผิดและเสียใจ อีกฝ่ายเป็นเหมือนเพื่อนสนิทมาตลอด คอยให้คำปรึกษาและอยู่ในทุกช่วงเวลา แต่ทว่าปัญหาครอบครัวของเธอมันสาหัส ไหนจะสัญญาระหว่างสองตระกูลอีก
"พี่ไม่เคยรักณิเลย ทำไมไม่ให้ผมแต่งงานเอง ในเมื่อผมก็รักณิทุกคนรู้ว่าผมรักณิ!!!" ฝ่ายคนบอกเริ่มโวยวายเสียงดัง
"ต่อจากนี้ณิชาเป็นเมียกูและพี่สะใภ้มึง อย่ามายุ่งอีกถ้าไม่อยากมีปัญหาในบ้านหลังนี้!" ไตรภูมิกดน้ำเสียงต่ำสยบกลั้นอารมณ์เดือดดาล แล้วคว้าเอาข้อมือเล็กมาจับมีกุญแจรถยนต์ในมือหนาอีกข้าง
"ยังไงผมก็ไม่ยอม ผมจะไม่ยอมให้งานแต่งงานเกิดขึ้นเด็ดขาด!"
"งั้นก็ลองดู" สายตาเยือกเย็นมองจ้องคู่กรณี ก่อนจะดึงเอาร่างอรชรให้เดินตามเขามา
"เพราะอย่างนี้ใช่ไหมพี่ไตรถึงอยากได้ตัวณิ" ความเสียใจโลดแล่นในความรู้สึก ที่ต้องมองสองพี่น้องในคฤหาสน์หลังโตทะเลาะกันเองเพราะตัวเธอ
"รู้ตัวก็ดี"
............................