น้ำตาไหลรินออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอผลักอกเจษแรงๆ แต่เหมือนยิ่งทำให้เขาจ้องลึกเข้ามาในดวงตา เจษก้มลงกระซิบข้างหู เสียงเย็นยะเยือกจนขนลุก “โกหกต่อไปสิแต่ไม่ว่าจะยังไง มึงก็หนีจากกูไม่ได้อยู่ดี” ผู้คนเริ่มหันมามองเหมือนรู้สึกได้ถึงบรรยากาศตึงเครียดตรงนี้ “เมื่อวานหนูยิ้มไปบ้านเจษจริง แต่ไปกับแพรวเลยค้างที่นั่น แต่พี่โยไม่ต้องห่วงแม่ของเจษเขาก็อยู่ด้วย ไม่มีอะไรทั้งนั้น” “หรอ งั้นพี่ค่อยโล่งอกหน่อย วันหลังถ้าอยู่ตรงไหนแล้วอึดอัดก็โทรบอกพี่ พี่จะไปรับ” “ค่ะ” “ยิ้มพูดแค่นี้มึงก็เชื่อหรอไอ้วาโย มึงไม่บอกมันไปหละยิ้ม ว่านอกจากไปบ้านกูแล้วมึงทำอะไรอีกบ้าง” เจษแสยะยิ้มให้วาโย “เจษ พอเถอะอย่าให้ยิ้มเกลียดเจษไปมากกว่านี้เลย ยิ้มขอตัวไปเรียนก่อนนะคะพี่โย ” “ได้ครับ ยิ้มไปเถอะ” หนูยิ้มยิ้มให้วาโย ก่อนจะเดินหันหลังไป เจษมองตามแผ่นหลังเล็กนั้นไป สายตาเต็มไปด้วยความคลั่งจนแทบจะระเบิดออกมา เขากำหมัด