5 หายตัวไป

1311 คำ
"พ่อคะ วันนี้ให้อัญชันนอนกับหนูนะคะ" เมื่อมาถึงโรงแรม พี่ทับทิมก็เอ่ยขอกับคุณพ่ออีกรอบ เพราะอยากให้ฉันนอนเป็นเพื่อน "ได้สิลูก" แล้วคุณพ่อก็อนุญาต พร้อมกับเดินมาลูบหัวพี่ทับทิม "พ่อขอบใจลูกมากนะ ที่ยอมเสียสละเพื่อครอบครัวของเรา พ่อรักลูกทั้งสองคนมากนะ ทั้งสองคือแก้วตาดวงใจของพ่อ ทับทิมไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น เพราะคุณลุงภูษากับพี่ภูมินทร์ล้วนแล้วแต่เป็นคนดี พ่อเชื่อว่าถ้าลูกได้แต่งงานกับพี่ไปแล้ว ลูกก็จะกลายเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุด" พี่ทับทิมน้ำตาคลอเบ้า และกอดเอวคุณพ่อไว้แน่น "ฮึก ฮึก ฮือ ค่ะพ่อ" และไม่นานพี่ทับทิมก็ปล่อยโฮ จนฉันเองก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว น้ำตาไหลไปกับพี่สาวเหมือนกัน "ทั้งสองคนอย่านอนดึกนะลูก เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นมาแต่งหน้าแต่เช้า อัญชันก็เหมือนกันต้องเตรียมเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้พี่ ถ้านอนดึกเดี๋ยวหน้าโทรมพ่อไม่รู้ด้วยนะ" พ่อพูดกับฉันและพี่ทับทิมเชิงหยอกล้อ เราทั้งสองก็ยิ้มบางๆให้พ่อเช่นกัน ก่อนที่เราสองคนจะแยกย้ายกันเข้าห้อง "อัญชันพี่ว่าจะลองสวมชุดดูหน่อย ช่วยดูให้พี่หน่อยนะว่ามันสวยหรือเปล่า " แล้วพี่ทับทิมก็เดินไปหยิบชุดที่แขวนไว้ มาลองใส่ดู "สวยมากเลยค่ะพี่ทับทิม พี่ทับทิมเหมือนกับเจ้าหญิงเลย" ฉันเอ่ยชมพี่สาว ไม่ขาดปาก "สวยมากหรือเปล่า" แล้วพี่ทับทิมก็ถามย้ำอีก "สวยมากๆก.ไก่ล้านตัวเลยค่ะ" ฉันยิ้มให้พี่สาวจนตาหยี "ถ้าอย่างนั้น พี่อยากเห็นตอนอัญชันใส่บ้างน่ะ มาลองใส่ให้พี่ดูหน่อยสิ" ฉันทำหน้าคิดสักพัก "มันจะดีหรอคะพี่ทับทิม นี่เป็นชุดสำคัญของพี่เลยนะ พี่ไม่กลัวว่ามันจะเป็นลางไม่ดีหรอคะ" ฉันเอ่ยถามพี่สาวไป เพราะฉันเองก็งงๆกับคำพูดของพี่สาวเหมือนกัน "ไม่เป็นไรหรอกอัญชันอย่าคิดมาก เราพี่น้องกันพี่ไม่อัญชันไม่พูด ก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าอัญชันลองชุดของพี่" คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง แค่ลองเอง "ก็ได้ค่ะ" และฉันก็ลองสวมชุดเจ้าสาวดู "อัญชันสวยมาก สวยเหมือนเจ้าหญิงเลย" ฉันยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำชมของพี่สาว พร้อมมองเข้าไปในกระจกบานใหญ่ มันสวยมากจริงๆ "พี่ว่าถ้าแต่งหน้าอีกนิดหน่อย อัญชันต้องสวยมากๆเลย" แล้วพี่ทับทิมก็ชมฉันต่อไม่หยุด "สวยก็จริงนะคะพี่ทับทิม แต่ก็คงสู้เจ้าสาวของวันพรุ่งนี้ไม่ได้หรอกค่ะ พี่สาวอัญชันสวยที่สุด" ฉันพูดอย่างเอาใจพี่ทับทิม "เรามาร์คผิวกันก่อนไหม พี่มีครีมมาร์คผิวแล้วก็มาร์คหน้า ตัวนี้ดีมากเลยไหนๆพรุ่งนี้อัญชันก็จะเป็นเพื่อนเจ้าสาวแล้ว เดี๋ยวเรามาร์คผิวไปด้วยกันเลยก็ได้ น้องพี่ก็จะได้สวยมีออร่า เผื่อมีหนุ่มๆหล่อๆในงานมาจีบ จะได้มีแฟนยังไงล่ะ" แล้วพี่ทับทิมก็ยิ้มให้ฉัน "ก็ได้ค่ะ" แล้วฉันกับพี่ทับทิม ก็มาร์คหน้าและก็ตัวด้วยกัน ทำไมฉันมีความสุขจังนะ พี่น้อง 2 คนที่ไม่ถูกกันมาหลายปี แต่วันนี้พี่ทับทิมยอมลดทิฐิลง ฉันมีความสุขอยากบอกไม่ถูก เรามาร์คผิวกันจนดึก "ดึกแล้วนี่นา เรามัวแต่มาร์คผิวกันจนลืมเวลาเลย อัญชันไปล้างตัวเถอะเดี๋ยวเรามานอนกัน" เมื่อได้ยินผู้เป็นพี่บอกอย่างนั้น ฉันก็ไม่รอช้าเดินเข้าไปล้างเนื้อล้างตัวในห้องน้ำ พักใหญ่ถึงออกมา แล้วพี่ทับทิมก็สลับเข้าไปล้างเนื้อล้างตัวเหมือนกัน "อัญชันจ๊ะ พี่วางนมไว้ให้อยู่บนโต๊ะนะจ๊ะ ดื่มนมก่อนแล้วค่อยนอน จะได้หลับสบาย" งื้อ ความรู้สึกของคนที่มีพี่สาวที่รักเรา มันดีแบบนี้นี่เอง "ขอบคุณนะคะพี่ทับทิม" ฉันรีบแต่งตัวใส่ชุดนอน และไม่ลืมที่จะดื่มนมที่พี่สาวเตรียมไว้ให้ในแก้ว "อื้ม อร่อย" ฉันนั่งรอพี่ทับทิมสักพัก พี่ทับทิมก็ออกมา "ทำไมไม่นอนละ" เมื่อพี่ทับทิมมองเห็นตาของฉันที่มันปรือ แทบลืมไม่ขึ้นแล้ว พี่ทับทิมจึงบอกให้ฉันรีบนอน "พรุ่งนี้ช่างมากี่โมงคะ" แล้วฉันก็ไม่ลืมที่จะถามถึงช่าง ที่จะมาแต่งหน้าให้เจ้าสาวในวันพรุ่งนี้ "ช่างมาตี4 จ๊ะ นอนเถอะอย่าคิดอะไรมาก" ฉันพยักหน้ารับพี่สาว ก่อนที่จะหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ก๊อกๆๆ "อื้ม ใครมาเคาะประตูนะ" แล้วฉันก็ค่อยๆก้าวขาลงจากเตียง แล้วเดินไปเปิดไฟ เพื่อไปส่องดูที่ตาแมว ว่าใครมาเคาะประตูแต่เช้า แต่ในหัวก็คิดไว้แล้วแหละว่าต้องเป็นทีมช่าง เมื่อส่องดูตาแมวก็เห็นว่าน่าจะเป็นทีมช่าง จึงรีบเปิดประตูให้ทีมช่างได้เข้ามา "สวัสดีค่ะ" แล้วฉันก็ยกมือไหว้ทีมช่าง เพราะดูแล้วแต่ละคนน่าจะอายุเยอะพอสมควร "ว้าย อันนี้เจ้าสาวหรอคะทำไมสวยจังลูก" เมื่อเปิดประตูเข้ามา ช่างแต่งหน้าที่เป็นสาวสองก็รีบชมฉัน "ไม่ใช่หรอกค่ะ เจ้าสาวคือคนโน้น" แล้วฉันก็หันไปมองยังเตียง ที่ตอนนี้ "พี่ทับทิม" มันว่างเปล่า พี่ทับทิมไปไหนฉันรีบวิ่งไปห้องพ่อกับคุณปู่ ก๊อกๆๆ ไม่นานพ่อก็เดินออกมาเปิดประตู ไม่รอช้ารีบถามทันที "พ่อคะพี่ทับทิมอยู่นี่หรือเปล่า ทีมช่างแต่งหน้ามาถึงแล้วค่ะ" พ่อทำหน้างง "พี่ทับทิมไม่ได้มานี่นะลูก หนูหาทั่วแล้วหรอ" พ่อเริ่มมีสีหน้ากังวล ก่อนจะรีบเดินตามฉันมายังห้องนอนที่ฉันกับพี่ทับทิมนอนด้วยกัน และเราก็เดินหาจนทั่ว แต่ก็ไม่พบ "พ่อคะกระเป๋าของพี่ทับทิมหายไปค่ะ" เมื่อวานที่เราเตรียมตัว ฉันสังเกตเห็นว่าพี่ทับทิมเอากระเป๋ามาใบใหญ่มาก แต่ฉันก็ไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าในกระเป๋าคงจะเป็นของใช้ที่จำเป็น เพราะพอเสร็จงานแต่งแล้ว พี่ทับทิมจะต้องไปเข้าหอ ที่บ้านของเจ้าบ่าว เลยคิดว่าพี่ทับทิมน่าจะเตรียมเสื้อผ้าไปหลายชุด "ลองโทรหาพี่สิลูก" ฉันรีบวิ่งไปหยิบโทรศัพท์ ที่วางอยู่บนหัวเตียง แล้วกดโทรออกหาพี่ทับทิมทันที "ปิดเครื่องค่ะพ่อ" พ่อฉันถึงกับเข่าอ่อน นั่งลงที่โซฟาตัวใหญ่ แล้วใช้สองมือกุมที่ขมับ "ทำไมทับทิมทำกับพ่อแบบนี้ แล้วเราจะทำยังไงกันดี" พ่อได้แต่คร่ำครวญอย่างคนคิดไม่ตก "มีอะไรกันทัศนัย" แล้วคุณปู่ก็เดินเข้ามาสมทบ "พี่ทับทิมหายไปค่ะคุณปู่" เมื่อพ่อไม่ตอบ ฉันเลยตอบคุณปู่แทน คุณปู่ถึงกับเขาทรุด นั่งลงไม่ต่างจากพ่อ "ทำไมทับทิมทำแบบนี้ แล้วทีนี้จะเอายังไง งานก็จัดมาถึงขนาดนี้แล้ว ไหนจะแขกที่กำลังจะมาร่วมงาน ไหนจะค่าจัดงานของทางเจ้าบ่าวอีก " ฉันสงสารทั้งคู่จับหัวใจ ทำไมพี่ทับทิมทำกับครอบครัวแบบนี้ ฉันร้องไห้เพราะสงสารคุณปู่กับคุณพ่อ ภายในใจก็ครุ่นคิดอะไรหลายๆอย่าง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม