จมูกของเขาแทรกเข้าไปที่ซอกคอระหงของนาง เหรินซินรู้สึกกายสะท้านเมื่อถูกเขารุกล้ำแต่ก็เกินต้านทานความต้องการในใจของตัวเอง นางเองก็ต้องการเขาเช่นกัน ความรู้สึกนี้ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นมาตั้งแต่พบเรื่องราวหลายอย่างมาพร้อมกับเขา อีกทั้งท่านอ๋องคืออาเซียวซึ่งเป็นเพื่อนฝึกยุทธ์ในวัยเด็กคนแรกของนางและเป็นแรงบันดาลใจให้นางอยากเป็นยอดจอมยุทธ์หญิง “เหรินซิน เจ้าอยากให้ข้าเรียกเจ้าว่าอย่างไร” “พระองค์หมายความว่าเช่นไรเพคะ” ท่านอ๋องมิได้ตอบแต่กลับประกบริมฝีปากลงไปแทนคำตอบ ทุกคำถามและคำตอบถูกกลืนลงไปด้วยจุมพิตที่แสนวาบหวามซึ่งในตอนนี้เริ่มหยุดไม่อยู่ ไฟปรารถนาที่ต้องการเพียงครอบครองมิอาจยับยั้งได้อีกต่อไปเมื่อมือหนาของเขาเลื่อนไปที่สายคาดเอวของนางและดึงเชือกผูกนั้นออก “เหตุใดวันนี้เจ้าจึงไม่พกกระบี่เอาไว้ที่เอว” “พระองค์ทรงทราบหรือเพคะ” “มิเช่นนั้นป้ายหยกของเจ้าคงไม่หลุดออกมาตอนที่ไปพบเฟิงลี่เจิน” “หม