โปรดปรีดาทำได้แค่มองดูเขาจากไปอยู่ตรงนั้น พลางกะพริบตาถี่ๆ ขับไล่น้ำตาที่เอ่อรื้นขึ้นมา แต่ช่างทำได้ยากเย็น คราบน้ำตาที่แห้งเหือดไปแล้วเปียกปอนอีกครั้ง เพราะหยดน้ำตาที่ร่วงเผาะไม่ขาดสาย ได้แต่คิดว่าบางทีดนุวัศคงไม่เชื่อใจและให้อภัยเธออีกแล้ว โปรดปรีดาเงยหน้ามองท้องฟ้ามืดครึ้มเมฆฝนไม่ต่างจากหัวใจเธอที่ขมุกขมัว ไล้ปลายนิ้วไปตามหยดน้ำที่ไหลรินลงมาเป็นทางผ่านกระจกหน้าต่าง เธอนั่งจับเจ่าทอดอาลัยอยู่อย่างนี้มาหลายวันแล้ว มีเพียงความเหงาและเงาตัวเองคอยเป็นเพื่อนในยามที่ไม่มีและไม่เหลือใคร สามีที่เคยเป็นความอบอุ่นเพียงหนึ่งเดียวตอนนี้เร้นลี้หนีหน้า ทำราวกับรังเกียจกัน ตลอดหลายวันที่ผ่านมาคนที่เคยอยู่ติดบ้านเปลี่ยนที่นอนอยู่บริษัทเกือบทุกคืน วันนี้ก็คงเหมือนกัน รู้ทั้งรู้แต่เธอก็อดที่จะโทร. หาเขาไม่ได้ คงเพราะฝนตกกระหน่ำมีพายุคะนองทั้งวัน ทำให้จิตใจคนเศร้าหมองและหวาดหวั่นละมั้ง “ฮัลโหล...” ปลาย