5 คนที่ไม่มีแม่อบรมสั่งสอน

1519 คำ
"ฟ้าใส" เมื่อเธอเดินออกมาจากห้องทำงานของเจ้าสัวธวัช เขาที่เป็นต้นเหตุก็เดินตามออกมาทันที เขาไม่รู้มาก่อนเลยว่าพ่อเขาจะทำแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่เขาคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ "พอใจหรือยัง!" เธอก็พูดพร้อมกับรีบปาดน้ำตา ที่ไหลออกมา "ฉันไม่รู้เรื่อง ฉันไม่รู้ว่า..." "หุบปากไปเถอะ ทุเรศที่สุด!" เธอก็พูดขึ้นด้วยอารมณ์ที่โกรธและเดือดดาล ทุกอย่างที่เธอทำมา ทุกความพยายาม มันพังหมดแล้ว "ฟ้าใส..." "ฉันไม่คิดเลยว่า ชีวิตตัวเองต้องมาเจออะไรที่บัดซบแบบนี้" ตั้งแต่ที่พ่อแม่เธอทิ้งไป เธอก็เหมือนคนที่โดดเดี่ยว ไม่มีที่ไป จนต้องได้มาอาศัยบ้านคนอื่นอยู่ ฐานะก็คือคนรับใช้ ทั้งยังมาเจอคนบ้าอำนาจพวกนี้อีก "..." ยิ่งเห็นแววตานั้นของเธอ เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดขึ้นมาในใจ เขาที่ไม่เอาไหน ทำให้พ่อไม่ไว้ใจ กลัวจะเรียนไม่จบ จนได้ลากเธอเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ซึ่งมันก็เป็นการกระทำที่ไม่ถูก "ฉันเกลียดคุณ!" เธอพูดพร้อมกับกำลังจะเดินออกไป "มันจะมากไปแล้วนะ" เมื่อได้ยินประโยคนั้นจากปากเธอ พร้อมกับสายตาที่มองเขาอย่างรังเกียจ เขาก็รู้สึกโกรธขึ้นมาในทันที เพราะไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้ "มันไม่มากไปเลยสำหรับคนแบบคุณ ชีวิตฉันคงโชคร้ายที่สุดในโลก ที่มาเจอคนแบบพวกคุณ" "โอเค! เธอจะได้รู้จริง ๆ ว่าชีวิตที่โชคร้ายเป็นยังไง เธอมาท้าทายฉันเองนะฟ้าใส" เขาก็พูดพร้อมกับเดินเข้ามาบีบแขนเธอ ด้วยสายตาที่โกรธ จนแทบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ "ปล่อยนะฉันเจ็บ!" เธอพยายาม สะบัดแขนเขาออก แต่ก็ไม่เป็นผล "ก็เจ็บไงจะได้รู้ ว่าอย่าพูดจากับฉันแบบนี้อีก!" "ทุเรศที่สุด" "ฟ้าใส!" "ทำไมคุณถึงเป็นได้ขนาดนี้ จิตสำนึกอะไรในใจมีบ้างไหม คุณไม่เคยชอบฉันเลยฉันรู้ และคนที่ไม่ชอบกัน มันไม่ควรจะอยู่ใกล้กันแบบนี้ มันจะยิ่งทำให้เกลียด" "ใช่ ฉันไม่เคยชอบเธอ และฉันก็จะทำทุกอย่าง ให้คนที่อวดเก่งอย่างเธอรู้ ว่าเธอไม่มีสิทธิ์มาแสดงพฤติกรรมอะไรแบบนี้ กับคนที่เหนือกว่าเธอทุกอย่างแบบฉัน" "ถึงตอนนี้ ฉันไม่แปลกใจเลย ทำไมคุณถึงเป็นได้ขนาดนี้ ก็เพราะคนที่ไม่มีแม่อบรมสั่งสอน มันเลยหาสิ่งดี ๆ ในตัวเองไม่ได้ไง" "ฟ้าใส!" เมื่อโดนพูดถึงปม ที่จี้ในใจเขาขนาดนี้ เขาก็ระเบิดออกมาทันที เพล้ง! เธอถูกผลักออก พร้อมกับเขาที่โวยวายปัดเข้าของ ที่อยู่ตรงนั้นจนกระจัดกระจายไปหมด ของทุกอย่างพังภายในเวลาไม่กี่วิ จนเธอเองถึงกับตาเบิกกว้าง ตัวสั่นด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะเป็นหนักขนาดนี้ ตาที่แดงก่ำคู่นั้น มองมาที่เธออย่างวิโรจน์ มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดลึก ๆ ในใจ คิดได้ว่าตัวเองคงพูดแรงเกินไป แต่ทำยังไงได้เพราะมันคือความจริง "คุณ..." “ออกไป!” เขาก็ตะคอกใส่เธอเสียงดัง "ฉัน..." "กูบอกให้ออกไป ออกไปเดี๋ยวนี้!!!" ก่อนที่เขาจะตะคอกขึ้นเสียงดังกว่าเดิม พร้อมกับโกรธจนลำคอหนาขึ้นเอ็น แดงไปหมด "เกิดอะไรขึ้นคะ" ป้ามลที่ได้ยินเสียงดัง ก็รีบวิ่งออกมาดู พอเห็นภาพนั้นเธอก็ตกใจตาเบิกกว้างเช่นกัน เพราะรับรู้แล้ว ว่าหลานสาวตน คงทำอะไรให้นายน้อยของบ้าน โกรธมากแน่ ๆ "ออกไป!!! ออกไปให้หมด" "ฟ้าใส ไป ๆ ออกไป" ป้ามลก็ดันตัวหลานสาว พาออกไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด "โธ่เว้ย!!!" เขาก็หันซ้ายหันขวา พร้อมกับเสยผมลวก ๆ ด้วยอาการของคนที่โกรธ และไม่พอใจเป็นอย่างมาก ไม่เคยมีใครกล้าดีมาจี้ปมในใจเขาแบบนี้ "ฮึก ๆ ป้า" หญิงสาวก็ร้องไห้จนตัวสั่นโยน เธอทั้งกลัวเขา ทั้งเสียใจกับสิ่งที่เจอ ทุกอย่างในหัวมันตีกันไปหมด ใครจะคิดว่าตัวเองจะเจอเรื่องอะไรแบบนี้ได้ "ไม่ต้องร้อง ๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมนายน้อยถึงได้อาละวาดแบบนั้น" "ฮึก ๆ คุณท่านให้หนูไปสละสิทธิ์ คณะที่หนูสอบติดจ้ะป้า" พูดจบประโยคก็ร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม "โถ่ฟ้าใส" "หนูไม่ได้อยากเรียนวิศวะ หนูอยากเรียนที่ตัวเองสอบได้ หนูพยายามมากนะป้า ทำไม ๆ ฮึก ๆ" "ป้าเห็นใจนะ เฮ้อ แต่ป้าก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน" เพราะรู้จักเจ้าสัวธวัชดีกว่าใคร ๆ ถ้าเกิดขัดคำสั่งหรือไม่ยอมทำตาม อย่าว่าแต่เรียนคณะที่อยากเรียนเลย มหาลัยก็อย่าได้หวัง "หนูเกลียดเขาป้า เกลียดนายน้อยของป้า ไม่ชอบเจ้าสัวที่บงการและบังคับ ชีวิตหนูจะอยู่แค่นี้จริง ๆ เหรอ" "ป้ารู้" "หนูไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเป็นได้ขนาดนี้กัน ลูกชายไม่เอาไหน แล้วทำไมต้องดึงคนอื่นไปอยู่ด้วย แล้วอนาคตของหนูล่ะ สิ่งที่หนูพยายามมาตลอด มันจะจบที่สองพ่อลูกนี้จริง ๆ เหรอ" เธอก็พูดออกมาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ "ฟ้าใส ป้าเห็นใจนะ แต่ป้าก็อยากให้รู้ ว่าคนอย่างเจ้าสัวธวัชเขามีอำนาจมาก ถ้าเราไม่ทำตาม อย่าว่าแต่นิเทศเลย มหาลัยก็คงจะไม่ได้เรียน" "ป้า..." น้ำตาเธอก็ไหลออกมาอีก มันหมดหนทางจริง ๆ แล้วใช่ไหม "ทำตามนั้นไปก่อน ป้ารู้ว่าเสียใจ แต่เชื่อป้าเถอะนะ ทุกอย่างมันดีกับฟ้าใสเอง" ป้ามลก็ดึงตัวหลานสาวมากอดไว้ เพื่อปลอบชโลมใจ รู้ดีว่าฝืนไปก็เท่านั้น เพราะสุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี "..." เธอก็ได้แต่กล้ำกลืนความเสียใจเอาไว้ ชีวิตเธอไม่มีทางเลือกมาก อย่าว่าแต่ได้เลือกเลย จะเดินไปทางไหนก็ยังโดนขีดเส้น เหมือนสิ่งที่เจออยู่ตอนนี้ Rrr Rrr Rrr และในตอนนั้นวิลล์ก็โทรเข้ามาพอดี ทำให้เธอได้แต่มองที่โทรศัพท์ แต่ก็ไม่ได้กดรับสายแต่อย่างใด ทั้งไม่รู้ด้วยว่าจะเริ่มบอกยังไง คนอื่นจะคิดยังไง ชีวิตของเธอไม่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ ณ คอนโดคิมหันต์ "ไอ้เหี้ยมึงเป็นอะไรของมึงเนี่ย" "สอบติดมหาลัยทั้งที มึงทำน่าเบื่อโลกอะไรขนาดนั้น" "ทำให้ป๊ามึงพอใจได้ทั้งที เกิดอะไรขึ้นอีกวะ" เมื่ออารมณ์ไม่มีท่าทีจะดีขึ้น เขาก็ออกมาหาเพื่อน ตามประสาอย่างทุกวัน แต่วันนี้ไม่สบอารมณ์กับใครเลย คำพูดของผู้หญิงคนนั้นยังวนเวียนในหัว 'ฉันไม่แปลกใจเลย ทำไมคุณถึงเป็นได้ขนาดนี้ ก็เพราะคนที่ไม่มีแม่อบรมสั่งสอน มันเลยหาสิ่งดีในตัวเองไม่ได้ไง' "พวกมึงไม่ต้องถามมากได้ป่ะ กูหงุดหงิดชิบหายเลยตอนนี้" เขาก็พูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ พร้อมกับหยิบบุหรี่ขึ้นมาดูด "เชื่อแล้วว่าหงุดหงิดจริง" แก๊งเขาจะมีกันอยู่ 4 คน คิมหันต์ วายุ แล้วก็มาวิน และแต่ละคนก็รู้นิสัยไอ้เพื่อนตัวดีคนนี้ดี และเมื่อเป็นแบบนี้ก็ต่างหุบปากลง เพราะรู้ดีว่า หนทางไม่กี่อย่างที่จะทำให้มันอารมณ์ดีขึ้น อย่างหาเครื่องดื่มมาให้ดื่ม หาเกมสนุก ๆ ให้เล่น ไม่ต้องเซ้าซี้หรือถามมากอะไร ถ้ามันอยากพูดมันก็บอกเอง "ใครจะคิดวะแม่งได้เรียนวิศวะที่เดียวกัน" คิมหันต์เจ้าของห้องก็พูดขึ้น "เออ บันเทิงแน่ ๆ กูว่า" มาวินก็พูดพร้อมกับสกิดวายุให้พูดขึ้นด้วยอีกคน เพราะอยากทลายความตึงเครียด ของไอ้คนที่มันไม่สบอารมณ์กับใครอยู่ "ใช่ ๆ คงมีอะไรสนุก ๆ ให้ทำเยอะ" "สาววิศวะจะสวยไหมว่ะ" ด้วยความเจ้าชู้ที่เริ่มมาตั้งแต่เด็ก ทำให้คิมหันต์สนใจผู้หญิงสวยเป็นอย่างมาก "กูว่าไม่ค่อยมีหรอก ส่วนมากคณะนี้ แม่งมีแต่ผู้ชาย" มาวินก็พูดพร้อมกับถอนหายใจ อยากเจอผู้หญิงสวยเหมือนกัน แต่คงคาดหวังในคณะที่มีแต่ผู้ชายเป็นส่วนมากไม่ได้ "ถ้ามีผู้หญิงสวยมากูจองหนึ่ง" "มันจะมีผู้หญิงสวย ๆ ที่ไหนมาเรียนวิศวะว่ะไอ้ห่า" "มี" และคนที่นั่งหน้าอึ่มครึมอยู่ก็พูดขึ้น "ใคร/ใคร/ใคร" "..."
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม