3 มีเรื่องอะไรอีกเยอะ

1643 คำ
เข้ามาถึงห้องนอนหญิงสาวก็เอาแต่จ้อง iPad ที่วางอยู่อย่างไม่กล้าใช้ ความจริงไม่ได้อยากรับสักนิด ด้วยที่รู้สึกเกรงใจกับรู้สึกแปลก ๆ แต่ด้วยที่ดูแล้วถ้าเธอไม่รับคนให้คงไม่ยอม "ทำอะไรอ่ะฟ้าใส" ป้ามลที่อาบน้ำแล้วกำลังจะนอน ก็มองหลานสาวอย่างไม่เข้าใจ "ป้า" เธอพูดพร้อมกับยื่น iPad ให้ป้ามลดู "นี่คืออะไรเหรอ" "iPad จ้ะ เอาไว้เขียนหนังสืออ่านหนังสือได้ เด็กกรุงเทพฯ เขาใช้แบบนี้กันหมดแล้ว ที่โรงเรียนก็มีกันเกือบทุกคน" "แล้วหนูไปเอามาจากไหน" "คุณนนท์ให้มาจ้ะ" "คุณนนท์เนี่ยนะ" ป้ามลก็ถามขึ้นด้วยความแปลกใจ "จ้ะป้า" "แล้วนี่แพงมากไหม" "เท่าที่เช็คจากในเน็ตมา เครื่องนี้รวมทุกอย่างก็ประมาณแสนกว่าเลยจ้ะ" "โอ้โห ป้าจะเป็นลม" "หนูก็จะเป็นลมเหมือนกันจ้ะป้า ความจริงหนูไม่อยากรับเลยนะ แต่คุณนนท์ไม่ยอม จะให้อย่างเดียวเลย" "ป้าจะบอกอะไรให้นะฟ้าใส ตั้งแต่ป้ามาอยู่ที่นี่ คุณนนท์ไม่เคยดีกับใครแบบนี้เลย อย่าว่าแต่ซื้อ iPad ให้เลย ของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็อย่าหวังเลยว่าคนรับใช้จะได้" "แล้วนี่ iPad" "เอ่อ..." คนที่ผ่านโลกมามาก ก็พูดอย่างกระอักกระอ่วนใจ "ป้า..." "เอาเถอะ ๆ เดี๋ยวก็โตเป็นสาวแล้ว ก็คงรู้อะไรเองแหละ" "แต่หนูไม่อยากรับเลย แค่มาอาศัยอยู่บ้านเขาก็เกินพอแล้ว แล้วของพวกนี้..." "ก็ถือว่าช่วยงานบ้านก็แล้วกันนะ ป้ารู้จักนิสัยคุณนนท์ดี พูดอะไรแล้วก็ต้องทำให้ได้แบบนั้น โมโหร้ายด้วยนะ แต่ตลอดเดือนมานี้ ป้าเห็นเขาเงียบ แล้วก็ดูท่าทีปกติด้วย" "หนูก็เคยเห็นคุณนนท์โมโหเหมือนกัน" เธอยังนึกถึง ภาพที่เขาด่าบอดีการ์ด ทั้งซ้อมคนปางตาย จนเธอรู้สึกกลัวไปด้วย "บ้านหลังนี้มีอะไรเยอะแยะมากมายเลยฟ้าใส อยู่ไปก็จะรู้เอง" "..." "ยิ่งเจ้าสัวธวัช เขายิ่งโหดร้ายกว่านั้นเยอะ" ป้ามลพูดพร้อมกับแววตาที่สั่นไหว "ป้า หนูถามอะไรหน่อยสิ บ้านนี้ไม่มีคุณผู้หญิงเหรอ" "เคยมี" ป้ามลก็พูดขึ้นพร้อมกับเหม่อลอย เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต "เสียแล้วเหรอ" เธอก็ถามด้วยความสะเทือนใจ ก็อย่างว่าครอบครัวนี้มีกันอยู่ 3 คน ทั้งเหมือนแต่ละคนก็ดูจะเย็นชา และไม่มีความสุขกัน อย่างที่คนรวยระดับเศรษฐีควรจะเป็น "หายสาบสูญ" "จริงเหรอป้า" เธอตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ กับสิ่งที่ได้รู้ "อย่าไปพูดที่ไหนนะ" "ไม่พูดหรอก หนูก็แปลกใจ ทำไมอยู่กันสามคน บนคฤหาสน์ รวยล้นฟ้า แต่เหมือนไม่มีความสุขเลย" "ก็เป็นอย่างนั้นแหละ ไม่มีใครมีความสุขจริง ๆ" ป้ามลที่อยู่ที่นี่มานาน รับรู้ทุกอย่าง ทุกคนต้องการคุณผู้หญิงมาก "แล้วหายสาบสูญยังไงเหรอป้า" เธอก็ยังคงให้ความสนใจอยู่ เพราะก็รู้สึกแปลกใจมากที่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น กับคนที่รวยระดับนี้ "หนีไปตั้งแต่ลูกได้หนึ่งขวบ" "ลูก?" "ก็นายน้อยนั่นแหละ คุณผู้หญิงเป็นโรคซึมเศร้า ตอนที่มีนายน้อยได้หนึ่งปี เนื่องจากคุณท่านเป็นคนเจ้าชู้ ทำให้คุณผู้หญิงเครียดจนเลี้ยงลูกไม่ได้ ท่านเจ้าสัวก็เลยส่งไปโรงพยาบาลจิตเวช ทำให้คุณผู้หญิงยิ่งเครียด เพราะโดนกีดกันให้ห่างจากลูก" "มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ" "มันมากกว่านั้นเยอะ" "แล้วคุณผู้หญิงหายไปได้ยังไง" "ไม่รู้สิ บ้างก็ว่าโดนคุณท่านอุ้มเก็บ" "..." เธอก็ตาเบิกกว้าง พร้อมกับเอามือปิดปากด้วยความตกใจ ไม่คิดเลยว่าเรื่องแบบนี้จะมีจริง ๆ ทั้งยังใกล้ตัวเธอมากด้วย "ก็เลยได้หายสาบสูญเนี่ยแหละ" "แล้วป้าคิดว่าเป็นแบบนั้นจริง ๆ ไหม คุณท่านจะทำกับเมียตัวเองขนาดนั้นเลยเหรอ" "ไม่มีใครรู้หรอก แต่ทุกคนก็รับรู้ได้ ว่าคุณท่านรักคุณผู้หญิงมาก แต่ก็ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของคนสองคน อาจจะเป็นจริงหรือไม่เป็นจริงก็ได้ เพราะทุกอย่างไม่มีใครรู้" "อ่อ" เธอก็ได้แต่คิดตาม คนรักกันถ้าจะทำกันได้ขนาดนั้น มันต้องขนาดไหน "ตอนนี้ก็ครบ 15 ปีเต็มแล้ว พวกเราก็รอคุณผู้หญิงอยู่ทุกวัน หวังว่าวันหนึ่งท่านจะกลับมา" "กลับมา?" "ใช่ กลับมาที่บ้านหลังนี้อีกครั้ง เพราะคุณผู้หญิงก็ยังเป็นคุณผู้หญิง ทุกอย่างยังเป็นชื่อของคุณผู้หญิง ไม่มีการแจ้งความคนหาย หรือแจ้งตายอะไรเลย" "แล้วถ้ากลับมา..." "ทุกอย่างคือของคุณผู้หญิง บ้านหลังนี้ก็ชื่อคุณผู้หญิง ทรัพย์สมบัติมากมายก็ของคุณผู้หญิง" "แล้วคุณท่านล่ะป้า..." "คุณท่านเป็นคนเลือกทำแบบนี้เอง นี่แหละถึงไม่มีใครรู้เบื้องลึกเบื้องหลัง พวกเราก็ได้แต่รอคุณผู้หญิงกลับมาทุกวัน จนกว่าใครจะตายไปข้างหนึ่ง" เธอก็เพียงแต่คิดตาม ทั้งอยากรู้เรื่องราวมากกว่านี้ เรื่องนี้มันน่าสนใจมาก และมันต้องมีอะไรแน่ ๆ เจ้าสัวธวัชถึงไม่แจ้งคนสูญหาย หรือแจ้งตายภรรยาไปเลย แล้วช่วงนี้ก็เป็นช่วงสอบ ทำให้เธอช่วยงานบ้านได้ไม่เต็มที่ ทั้งยังหลบมาอ่านหนังสือ ที่ศาลาริมน้ำ ที่ประจำของชินกร และเขาก็เป็นคนอนุญาตเธอด้วยตัวเอง ว่าสามารถมานั่งอ่านหนังสือตรงนี้ได้ และทุกวันหลังงานบ้านเบาบางลง เธอก็จะมานั่งอ่านหนังสือตรงนี้ทุกวัน "ไง ได้ iPad แล้วหน้าระรื่นเลยนะ" "..." เธอก็ได้เพียงแต่หันไปมอง ไม่ได้พูดอะไรกับเขา "เธอนี่เก่งดีนะ ออดอ้อนยังไงล่ะถึงได้" "มีอะไรจะใช้ฉันหรือเปล่าคะ" เธอก็พยายามพูดเรื่องอื่นเพื่อกลบเกลื่อน เพราะไม่อยากพูดอะไรกับเขาในเรื่องที่ไม่ดี "ฉันพูดเรื่อง iPad กับเธออยู่" "ค่ะ" เธอก็ตอบเสียงเรียบ "ดีใจล่ะสิ ที่อ้อนจนเฮียฉันอุตส่าห์ซื้อให้" เขาพูดด้วยน้ำเสียงและสายตาที่เหยียดหยามเธอ "ฉันไม่ได้อ้อนค่ะ คุณนนท์เป็นคนซื้อให้ฉันเอง ฉันไม่ได้ขอด้วย" "คนอย่างพี่ชายฉันไม่เคยให้อะไรใครฟรี ๆ" "ฉันรู้ค่ะ และฉันก็ทำงานบ้านทุกอย่างแล้ว" "หึ เธอคิดแบบนั้นจริง ๆ เหรอ" "..." เธอก็มองเขาด้วยสายตาที่ไม่พอใจ "เตรียมตัวให้โตเร็ว ๆ ก็แล้วกัน เผื่อได้ทำอย่างอื่นตอบแทน เพราะเฮียฉันคงไม่ให้เธอทำแค่งานบ้าน" "คุณ..." "เข้าใจง่ายดีหนิ ก็คงรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร" "คุณอย่าพูดจาบ้า ๆ เลย ฉันไม่เคยคิดอะไรเรื่องสกปรกแบบนั้น" "รู้ด้วยเหรอว่าสกปรก ไม่ใช่ว่าคนอย่างเธอ เตรียมตัวเองไว้สกปรกแล้วเหรอ" คำพูดและสายตาที่เหยียดหยาม ถูกส่งออกไปโดยไม่มีความคิดที่กลั่นกรอง "..." เมื่อได้ยินประโยคนั้นเธอก็รู้สึกชาไปทั้งตัว ก็ไม่คิดว่าเขาจะคิดได้ถึงขนาดนั้น และเธอเองก็ไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นด้วย "หึ" "ขอตัวก่อนนะคะ" เธอก็รีบเก็บของทุกอย่างใส่กระเป๋า เพื่อจะเดินออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด และไม่อยากเสวนาอะไรกับคนแบบเขา "ทนฟังไม่ได้เลยเหรอ หรือไปเตรียมคิดว่าอยากได้อะไรที่มากกว่า iPad ไปเตรียมตัวสินะ" "คุณหยุดพูดจาอะไรแบบนี้ได้แล้ว ไม่มีใครเขาคิดอกุศลแบบคุณหรอก" "นี่เธอกล้าว่าฉันเหรอ" "ใช่! ฉันอยากว่าคุณมากกว่านี้ด้วยซ้ำ เพราะความคิดของคุณมันต่ำตม เราอายุกันแค่นี้เอง ทำไมสมองคุณถึงคิดเรื่องแบบนั้นได้ สกปรกและทุเรศที่สุด" พูดจบเธอก็กำลังจะเดินออกไป แต่มีหรือคนอย่างเขาจะให้เธอด่าฟรี ๆ "ฟ้าใส!" เขาตะคอกเธอเสียงดังจนเธอสะดุ้ง "ฉันอยู่ของฉันดี ๆ ฉันไม่เคยหาเรื่องอะไรคุณหรือใครเลย ฉันมาขออาศัยอยู่ที่นี่เพราะฉันไม่มีที่ไป ฉันถึงได้อยู่แบบเจียมเนื้อเจียมตัวตลอด แต่ไม่เข้าใจว่าคุณมายุ่งอะไรกับฉันขนาดนี้" เมื่อเห็นว่าเขาไม่เลิกราวี เธอก็สุดจะทนแล้วเหมือนกัน "เธอ!" เขาก็เรียกเธออีกครั้งด้วยความหัวเสีย ตลอดชีวิตเขาไม่เคยมีใคร หรือคนไหน กล้าพูดกับเขาได้แบบนี้ เมื่อเขาพูดจบเธอก็รีบวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที ยิ่งเห็นความร้ายกาจของเขาที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอก็ยิ่งรู้สึกอึดอัด และยิ่งไม่ชอบเขาเหมือนกัน และก็เป็นอย่างที่เธอคาดหวัง เพราะไม่นานเขาก็ถูกส่งไปเรียนซัมเมอร์ทุกปิดเทอม เนื่องจากการเรียนเขาไม่ดี เพราะติดเกมติดเพื่อนหนักมาก พ่อของเขาเลยส่งไปเรียน ซัมเมอร์ที่อังกฤษกับญาติที่เป็นอาจารย์ เลยทำให้เธอกับเขาไม่ค่อยได้เจอกัน จนเวลาล่วงเลยไปและเธอก็สอบเข้ามหาลัยได้ และเขาก็สอบเข้ามหาลัยได้เช่นกัน มาถึงแล้วชีวิตที่เธอใฝ่ฝัน และอนาคตที่เธอต้องการ หญิงสาวเอาหมอนปิดหน้าไว้แล้วกรี๊ดออกมาดัง ๆ ด้วยความดีใจที่สุดในชีวิต เนื่องจากเธอสอบเข้ามหาลัยที่อยากเรียน และคณะที่ใฝ่ฝันได้แล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม