“คีร่า หนูอยู่รึเปล่าลูก”
“จ้า ป้า” คีร่าที่ง่วนอยู่กับการทำขนม รีบวางมือวิ่งโร่ออกมาหน้าบ้านทันทีที่ได้ยินเสียงตะโกนเรียกของป้ากานดา หญิงสาวโผล่หน้าออกมามองคนมาเยือนด้วยแววตาเปล่งประกายดีใจ “ป้ามาถึงบ้านหนู มีงานอะไรให้หนูทำเหรอคะ” คีร่าระบายยิ้มถามอย่างรอลุ้น เนื่องจากป้ากานดามักว่าจ้างให้เธอทำงานให้อยู่บ่อย ๆ ค่าตอบแทนที่ป้ากานดาให้ก็ไม่ใช่น้อย ๆ พอให้คีร่าประทังชีวิตได้ตั้งอาทิตย์หนึ่งแน่ะ
งานที่ทำก็ไม่ได้หนักหนาอะไร หากแต่ว่าค่าตอบแทนมันคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
“คีร่าว่างรึเปล่าลูก ทำขนมอยู่เหรอ”
“กำลังเตรียมจะทำจ้ะป้า ว่าแต่ป้ามีงานอะไรจะใช้งานหนูเหรอ ว่ามาได้เลยจ้ะ หนูพร้อมเริ่มงานมาก” กานดายิ้มอย่างเอ็นดูเด็กสาวตรงหน้า เห็นกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกตั้งแต่พ่อแม่ของคีร่ายังมีชีวิตอยู่ จนกระทั่งพ่อแม่ของเธอตายไป กานดาเคยเอ็นดูเด็กคนนี้ยังไงก็ยังเอ็นดูเด็กคนนี้อยู่อย่างนั้น รับรู้ถึงความลำบากทุกอย่าง รู้ว่าเด็กคนนี้สู้ชีวิตมากขนาดไหน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่กานดายื่นมือเข้ามาช่วย โดยการยื่นงานให้คีร่าทำและให้เงินเป็นค่าตอบแทน
ในใจก็หวังอยู่ลึก ๆ อยากให้เด็กคนนี้หลุดพ้นจากความลำบากสักที อยากให้เด็กคนนี้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี มีงานดี ๆ ทำ
“วันนี้หลานชายป้าที่อยู่กรุงเทพน่ะกับกลุ่มเพื่อนเขาจะมาเที่ยวที่บ้านป้ากัน หลานชายป้าชอบขนมไทย ป้าเลยจะจ้างหนูไปทำขนมให้หลานชายป้าได้ลองชิมที่บ้านป้าหน่อย วัตถุดิบต่าง ๆ ป้าเตรียมไว้ให้พร้อมแล้วนะ หนูจะว่ายังไงลูก”
“ได้สิคะป้าดา งั้นหนูขอเตรียมอุปกรณ์เพิ่มอีกสักหน่อยแล้วจะตามไปบ้านป้าทีหลังนะคะ”
“โอเคลูก งั้นป้าไปก่อนนะ มีของหลายอย่างที่ป้าต้องซื้อน่ะ”
“ขับรถดี ๆ นะคะป้าดา” ยืนส่งกานดาจนสุดทาง ก่อนคีร่าจะหันหลังกลับเข้าบ้านเตรียมอุปกรณ์ทำขนมให้พร้อม ก่อนขับรถมายังบ้านของป้ากานดา
บ้านหลังใหญ่โตตรงหน้าทำให้คีร่าชะงักได้ทุกครั้งที่มาเยือน เพราะมันทั้งใหญ่โตและกว้างขว้าง อีกทั้งยังดูหรูหราเอาการ เนื่องจากป้ากานดาเป็นคนมีเงินและป้ากานดายังเป็นถึงภรรยากำนันเสวย บ้านของป้ากานดาเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้างทุกชนิดมีทั้งหมดสามสาขา ป้ากานดาเป็นคนรวยที่ใจดีกับเธอที่สุด
คีร่าหลุดออกจากภวังค์ความคิดเมื่อป้าแม่บ้านเดินมาตามให้เธอเข้าไปในห้องครัว คีร่าไม่รอช้ารีบลงมือทำขนมตามที่ป้ากานดาได้แจ้งเธอเอาไว้ เมนูขนมสามเมนูที่หลานชายของป้ากานดาโปรดปรานมากที่สุด เมนูแรกเป็นวุ้นใบเตยสาคูกะทิมะพร้าวอ่อน เมนูถัดมาเป็นขนมชั้นใบเตย และเมนูสุดท้ายคือบัวลอยนั่นเอง
คีร่าใช้เวลาอยู่ในครัวนานพอสมควรจนในที่สุด ขนมที่เธอตั้งใจทำก็เสร็จตามเวลาที่กำหนดไว้ เรื่องหน้าตาขนมของเธอไม่เป็นรองใคร เรื่องรสชาติเองก็เช่นกัน คีร่าขอเอาหัวตัวเองเป็นประกัน หากขนมของเธอไม่อร่อยตามคำที่เธอกล่าวอ้างเอามีดมาสับหัวของเธอทิ้งได้เลย
เช็กความเรียบร้อยของขนมเสร็จ คีร่าก็รีบล้างมือให้สะอาดเตรียมเดินออกไปบอกป้ากานดาว่าเธอทำขนมเสร็จแล้ว แต่เพียงคีร่าเดินออกมาที่ห้องรับแขก ขาเรียวถึงขั้นชะงักก้าวไม่ออก เธอมองคนแปลกหน้าด้วยความรู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อย ยามที่สายตาของทุกคนมองมาที่เธอเป็นตาเดียว คีร่ารู้สึกอึดอัดแทบบ้า
“เด็กกะโปโลที่ไหนมาเดินเล่นที่บ้านป้าครับ” คิ้วสวยขมวดเข้ามากันเล็กน้อย เมื่อได้ยินถ้อยคำไม่รื่นหู อีกทั้งสายตาของเขาที่มองมายังเธอก็ดูหยามหยันแปลก ๆ
คนปากหมาคนนี้ใช่หลานป้ากานดารึเปล่านะ
“แสนก็พูดไป น้องไม่ใช่เด็กกะโปโลสักหน่อย นี่คีร่าไงลูกที่ป้าเล่าให้แสนฟังบ่อย ๆ ว่าน้องทำขนมไทยอร่อย วันนี้ป้าเลยจ้างน้องมาทำขนมไทยให้แสนได้ลองชิม รับรองแสนติดใจอย่างแน่นอน” ป้ากานดาว่าพลันส่ายหน้ายิ้ม ๆหันมากวักมือเรียกคีร่าให้เดินเข้าไปใกล้ หญิงสาวเข้าไปหาอย่างจำใจทั้งที่ความเป็นจริงคีร่าอยากกลับบ้านเสียตอนนี้เลย “คีร่า นี่พี่แสนหลานชายป้าเองลูก ส่วนที่นั่งอยู่ตรงนั้นอีกสองคน พี่ทิมกับพี่เขต เพื่อนพี่แสน ส่วนนี้น้องคีร่า”
“สวัสดีค่ะ” คีร่ายกมือขึ้นไหว้คนอายุมากกว่าอย่างนอบน้อม
“คีร่าอย่าเพิ่งกลับนะลูกอยู่ทานข้าวด้วยกันก่อน”
“หนูเกรงใจค่ะป้าดา” เธอบอกพลางทำหน้าลำบากใจ รับรู้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่มองเธออยู่ตลอด
“เกรงใจอะไรกัน คนกันเองทั้งนั้น ไป ๆ ไปลองชิมขนมของคีร่ากัน”
“กินแล้วไม่ท้องเสียใช่ไหมครับป้า ผมไม่อยากเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่นะครับ”
“ตาแสนเรานี่มันจริง ๆ เลย”