หลายวันต่อมา….
คีร่าใช้ชีวิตคนเดียวในเมืองกรุงครบหนึ่งอาทิตย์แล้ว คราแรกคีร่าคิดว่าการใช้ชีวิตในเมืองหลวงของเธอน่าจะลำบาก เธอน่าจะเข้ากับสภาพแวดล้อมและสังคมที่นี่ไม่ได้ แต่พอได้มาอยู่จริง ๆ มันกลับไม่เหมือนที่คีร่าคิดไว้สักนิด
คีร่าสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่นี่ได้อย่างรวดเร็ว ผู้คนไม่ได้ใจร้ายอย่างที่คิดไว้ การใช้ชีวิตที่นี่ก็ค่อนข้างสะดวกสบาย แต่ต่อให้สบายมากแค่ไหนคีร่าก็ยังคงคิดถึงชีวิตที่บ้านนอกอยู่ดี คิดถึงบ้าน คิดถึงตอนที่ตัวเองได้ทำขนม คิดถึงกลิ่นดิน คิดถึงวิวทุ่งนา เธอคิดถึงบรรยากาศแบบนั้นสุด ๆ แต่เพื่ออนาคต คีร่าจำเป็นต้องเลือกทางเดินที่ดีกว่าให้กับตัวเอง
คีร่าออกมายืนรับลมตรงระเบียงในช่วงเย็นของวัน ทอดสายตามองสะพานที่มีรถสัญจรไปมาอย่างแน่นขนัดพลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
คอนโดที่กานดาให้คีร่าเข้ามาอยู่ เป็นห้องที่สะดวกสบายมากเลยทีเดียว มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน มันสบายมากจนคีร่าคิดว่าตอนนี้กำลังฝันอยู่ด้วยซ้ำ ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสได้อยู่ที่ดี ๆ แบบนี้ ต้องขอบคุณกานดาที่เมตตาเธอมากขนาดนี้ ไม่รู้ชีวิตนี้คีร่าจะตอบแทนบุญคุณกานดาหมดรึเปล่า เพราะกานดาดีกับคีร่ามากจริง ๆ
“เฮ้อ” คีร่าถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย แม้ว่าชีวิตในเมืองกรุงจะสุขสบายมากแค่ไหน สุดท้ายมันก็น่าเบื่อมากอยู่ดีเพราะไม่ได้ทำงาน
คีร่าอยากทำงานจนตัวสั่น อยากมีรายได้เข้ามาไว ๆ ทุกวันนี้คีร่าใช้เงินที่กานดาให้ไว้ ซึ่งมันร่อยหรอลงไปทุกที อีกไม่นานเงินที่เธอมีก็คงหมด คีร่าถามเรื่องงานกับแสนสิงหาไปหลายครั้งแล้ว แต่แสนสิงหาก็บ่ายเบี่ยงบอกว่าไม่รับ เอาแต่ยื่นข้อเสนอให้เธอไปเป็นแม่บ้านให้กับเขา
จำนวนเงินที่แสนสิงหาเสนอมา บอกตามตรงว่าคีร่าสนใจ อยากรับไว้ตั้งแต่วันนั้น ทว่าสีหน้าเจ้าเล่ห์ของแสนสิงหาทำให้คีร่าไม่กล้ายอมรับ เขาดูร้ายกาจ เป็นบุคคลอันตรายที่คีร่าไม่ควรเข้าใกล้อย่างแรง และตั้งแค่วันที่แสนสิงหามาส่งเธอที่คอนโดของกานดา เขาก็หายไปเลย
กริ่ง
“หืม” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย เมื่อได้ยินเสียงกดกริ่งหน้าห้อง หญิงสาวสาวเท้าเดินมาที่ประตูช้า ๆ ย่องเบาอย่างระมัดระวังตัว เขย่งปลายเท้าส่องตาแมวดูว่าใครกันมากดกริ่งหน้าห้องของเธอ “คุณแสน”
คิ้วสวยยิ่งผูกโบว์เข้าหากันใหญ่ทันทีที่สายตาปะทะกับร่างบึกบึนของชายหนุ่มจอมวายร้าย
‘บ่นถึงปุ๊บก็มาหาปั๊บ เขามันตายยากจริง ๆ’
เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้นไม่หยุด แสนสิงหากดกริ่งแบบเอาเป็นเอาตายเมื่อคนที่อยู่ด้านในไม่ยอมเปิดประตูให้สักที
“มะ มา”
“ชักช้าว่ะ” คีร่าไม่ทันเอ่ยจบก็โดนแสนสิงหาชักสีหน้าหงุดหงิดใส่ ในมือของชายหนุ่มหิ้วของพะรุงพะรังล้วนแล้วแต่เป็นอาหารที่เขาซื้อมาฝากคนตัวเล็กทั้งนั้น
แสนสิงหาเดินชนไหล่เล็กเข้ามาในห้องของเธออย่างถือวิสาสะ มองสำรวจห้องของคีร่าอย่างพินิจพิจารณา
“คุณแสนยังไม่ตอบหนูเลยนะคะว่ามาได้ยังไง แล้วมาที่นี่ทำไมคะ” คีร่าเดินตามมาถามแสนสิงหาพลางเว้นระยะห่างจากชายหนุ่มถึงสองเมตร
ท่าทางหวาดหวั่นของคีร่า ทำแสนสิงหาที่มองอยู่หัวเราะหยัน
“ทำไมฉันจะมาไม่ได้ ลืมไปแล้วเหรอว่าป้าดาฝากเธอให้ฉันดูแล เท่ากับว่าตอนนี้ฉันเป็นผู้ปกครองของเธอ อีกอย่างฉันก็อยากมาให้เห็นกับตาว่าเธออยู่ดีกินดีหรือเปล่า แต่เท่าที่ฉันเห็น” แสนสิงหาไล่สายตามองคีร่าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “เธออยู่ดี แต่คงกินอดยากเหมือนเดิมสินะ”
คีร่าทำหน้ามุ่ย
“หนูไม่มีงานทำ หนูก็ต้องประหยัดสิคะ ก็คุณแสนไม่ยอมรับหนูเข้าทำงานอะ”
“รับอยู่” ตอบอย่างไม่ใสใจ เดินเอาอาหารที่ซื้อมาจัดใส่จาน
“จริงเหรอคะ” คีร่าถามเสียงตื่นเต้น ฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ แต่ชั่วพริบตารอยยิ้มของเธอก็หายไปเหลือไว้แค่ใบหน้าเจื่อนลง
“งานแม่บ้านไง” แสนสิงหาพิงสะโพกกับโต๊ะยกมือขึ้นกอดอกมองสีหน้าหมดอาลัยตายยากของคีร่าอย่างเย้ยหยัน “เงินดีนะ เธอไม่สนใจเหรอ ฉันขึ้นเงินเดือนให้ก็ได้นะ ให้ห้าหมื่นเลยอะ”
“หนูไม่เอาหรอก”
”ทำไม“ แสนสิงหาหน้าบึ้งตึงไม่พอใจคำตอบของคีร่าสุด ๆ ห้าหมื่นก็แล้วยังไม่ตอบตกลงอีก ยัยเต้าหู้นี่มันจะใจแข็งไปถึงไหน
”หนูไม่ไว้ใจคุณแสน“ ตอบหน้าซื่อตาใส แต่กลับทำแสนสิงหากัดฟันกรอด
“ฉันไม่จับเธอทำเมียหรอก ฉันชอบคนสวย จืดชืดแบบเธอไม่ใช่สเปก”