ก๊อก ๆ
แอ๊ด~~~
“ท่านประธาน หัวหน้าฝ่ายการตลาดมาแล้วค่ะ” เลขานุการเปิดประตูเข้ามารายงาน
“ให้เข้ามาเลย”
ธีมที่ได้รับอนุญาตก็รีบเดินเข้ามาในห้องก่อนจะหยุดยืนที่โต๊ะทำงานกว้าง
“นั่งเลยค่ะ ฉันมีเอกสารจะให้ดู” พรีมพูดพลางยื่นเอกสารไปไว้ตรงหน้าธีม
ธีมนั่งลงและหยิบเอกสารขึ้นมาดู มันคือยอดค้างสต๊อกของอาหาร
“พอดีที่สาขาที่สมุทรปราการผลิตสินค้าเกินจำนวน
ตอนนี้เราต้องหาตลาดกลางเพื่อที่จะลดสต๊อก ไม่อย่างนั้นเราจะขาดทุน”
“แต่สินค้าที่เป็นอาหารที่เก็บไม่ได้นานแบบนี้ ถ้าไม่ใช่จำนวนที่เขาสั่งไว้
เขาจะไม่ค่อยรับไปเก็บไว้นะครับ ส่วนมากจะสต๊อกไว้แค่จำหน่ายหมดเพราะอายุมันสั้น”
ธีมมองตัวเลขจำนวนการผลิตแล้วถึงกับต้องปวดหัว
ต่อให้กระจายให้เครือข่ายของหยางกรูปก็ใช่ว่าจะขายหมดทันวันหมดอายุ
“นี่แหละ ถึงอยากให้คุณมาช่วยฉันคิดหน่อยว่าเราควรหาตลาดแบบไหนเพื่อที่จะส่งของพวกนี้ออกไปดี”
พรีมมองธีมที่ตั้งใจเปิดอ่านเอกสารในมือ จู่ ๆ หัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้น
เวลาเขาทำหน้าจริงจังแล้วเธออดนึกถึงเรื่องบนเตียงของคืนนั้นไม่ได้
“ถ้างั้นผมขอไปปรึกษากับทีมก่อนนะครับ”
“ได้ พวกคุณช่วยจัดการให้ฉันหน่อย
และรบกวนฝากบอกพนักงานในทีมคุณว่าฉันขอบคุณล่วงหน้า”
“ได้ครับ”
“ถ้าคุณต้องการเอกสารอะไรเพิ่มเติมก็ติดต่อหาเลขาฯ ได้เลยนะคะ”
“ครับท่านประธาน” ธีมพูดจบก็โค้งตัวให้พรีมแล้วเดินออกไป
ส่วนพรีมก็นั่งเคลียร์เอกสารและอ่านตัวเลขต่าง ๆ อย่างละเอียด
จนเวลาล่วงเลยไป
ก๊อก ๆ
“เข้ามาค่ะ”
“ท่านประธานจะรับอาหารมื้อดึกหรือเปล่าคะ”
คำถามของเลขานุการทำให้เธอมองนาฬิกาในข้อมือ ตอนนี้เวลา 3 ทุ่มกว่าแล้วเหรอ
“ไม่ค่ะ”
“ค่ะ”
“เดี๋ยวค่ะ แผนกการตลาดยังทำงานอยู่หรือเปล่าคะ”
พรีมถามก่อนที่เลขานุการจะเดินออกไป ตามที่เธอคิด ทุกคนน่าจะยังไม่กลับ
“ยังทำอยู่ค่ะ เมื่อกี้รองหัวหน้าแผนกก็เพิ่งมาขอเอกสารกับ ลิตาไปค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณลิตาช่วยสั่งอาหารกับเครื่องดื่มให้พวกเขาด้วยนะคะ”
“ได้ค่ะ”
หลังจากนั้นไม่นานพรีมก็พาตัวเองมาหยุดที่แผนกการตลาด
ซึ่งทุกคนดูเหมือนจะวิ่งวุ่นติดต่อหาที่กระจายสินค้า
“ท่านประธาน” พนักงานคนหนึ่งสังเกตเห็นพรีมก็รีบลุกขึ้น
ทำเอาคนอื่นที่ได้ยินก็หยุดทำงานตรงหน้าและโค้งตัวทักทายคนที่มาเยือน
“ทุกคนทำงานต่อเถอะค่ะ หัวหน้าฝ่ายอยู่ข้างในหรือเปล่า”
“ใช่ค่ะ”
พรีมยิ้มให้พนักงานก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง
เห็นธีมกำลังนั่งคุยกับรองหัวหน้าฝ่ายอย่างเคร่งเครียด
ก๊อก ๆ
พรีมใช้มือเคาะประตูที่เปิดค้างไว้ ทำให้ทั้ง 2 คนหันมองมาทางที่เธอยืน
“ท่านประธาน สวัสดีค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นทักทาย เธอเลยยิ้มตอบรับให้
“เชิญครับ” ธีมลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อที่จะให้พรีมนั่ง
“นั่งเลยค่ะ ฉันแค่จะมาดูเฉย ๆ” พรีมบอก
“ถ้างั้นหัวหน้าคุยกับท่านประธานเลยนะคะ
เดี๋ยวพิมาจะออกไปคุยกับทุกคนด้านนอกก่อน”
“ค่ะ”
รองหัวหน้าฝ่ายเดินออกไป พรีมก็มานั่งเก้าอี้ตรงหน้าของธีม
“เป็นยังไงบ้างคะ” พรีมเปิดดูเอกสารบนโต๊ะ
“ตอนนี้มีสินค้าที่เหลืออยู่ในสต๊อกประมาณหมื่นกว่าชิ้นครับ
ผมคิดว่าจะส่งเข้าในเครือข่ายของบริษัทเรา
ส่วนคู่ค้าที่รับไปพวกผมกำลังสรุปรายงานให้ครับ แต่ผมอยากยังอยากเห็นสินค้าจริง
และหน้างานเพราะเหมือนว่ามันจะมีสต๊อกเดิมค้างอยู่ด้วย
แบบนี้ลูกค้าอาจจะได้สินค้าที่หมดอายุเร็วกว่าไปด้วยแล้วจะเกิดปัญหาทีหลังได้”
ธีมอธิบายเนื้อหาให้พรีมฟัง
“ทำงานกันเร็วมากเลยนะ แต่ถ้าคุณธีมอยากไปจริง ๆ เราลองไปด้วยกันเลยไหม”
สินค้าแสนกว่าชิ้น แถมยังเป็นอาหารที่อยู่ได้ไม่นาน
ตลาดแทบจะไม่ต้องการ แต่นี่พวกเขาแก้ปัญหาได้เร็วมาก เก่งกว่าที่คิดจริง ๆ
เธออดที่จะภูมิใจไม่ได้
“อย่างนั้นก็ดีครับ แต่ความจริงผมพาทีมไปสัก 1-2 คนก็ได้นะครับ
ท่านประธานไม่ต้องลำบากหรอกครับ”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปด้วยเอง อีกอย่างนี่ก็ดึกแล้ว
คนในทีมของคุณคงจะมีครอบครัวให้กลับไปหา
เราควรให้พวกเขาได้กลับไปพักผ่อนกับครอบครัวบ้าง”
คำพูดของคนตรงหน้าทำให้เขามองออกไปข้างนอกและเห็นพนักงานหลายคนกำลังขะมักเขม้นทำงาน
บางคนก็กำลังคุยกับโทรศัพท์กับครอบครัว นั่นทำให้เขาถอนหายใจยาว เขาลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไร
อาจจะเพราะตัวเขาเองอยู่คนเดียวที่กรุงเทพฯ มานาน
เลยลืมไปแล้วว่าการมีคนรอตัวเองเป็นอย่างไร
“ผมเข้าใจแล้วครับ เดี๋ยวผมจะให้พวกเขากลับบ้านกันก่อน แล้วเราค่อยไปกัน”
พูดจบธีมก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปหาลูกน้องทันที
เพียงแค่เขาบอกว่าให้ทุกคนกลับบ้าน สีหน้าที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าก็ดูสดใสขึ้น
นั่นทำให้เขาอดยิ้มตามไม่ได้