บทที่ 15 เจ็บ

1511 คำ
“เอ้า !! ชนนนนน” แกร๊ง ! เสียงแก้วกระทบกันหลายใบ ก่อนจะมีเสียงร้องเพลงอย่างสนุกสนานลั่นอู่ซ่อมรถขนาดกลางที่ถูกเหมาด้วยฝีมือของประธานสาวแห่งหยางกรูป ก่อนหน้านี้ 30 นาทีได้ ธีมพาพรีมมาถึงอู่ ตอนแรกที่ยังไม่มีคนมาซ่อมเธอก็นั่งคุยกับเขา พอเขารับงาน หน้าตาก็เริ่มไม่สบอารมณ์ ก่อนจะเริ่มเอาเงินให้พนักงานด้วยกันมาเอารถที่เขากำลังซ่อมไปทำแทน หนักข้อเข้าคือเอาเงินให้เจ้าของอู่ปิดร้าน และสุดท้ายก็มานั่งตั้งวงเหล้ากับพนักงานที่ดีใจได้เลิกงานเร็วแถมยังได้เงินจากเธอกันคนละ 1,000-2,000 ตอนนี้เขาปวดหัวกับผู้หญิงคนนี้มาก อยากจะเตือนมากว่าเธอคือประธานบริษัทใหญ่ ควรรักษาภาพลักษณ์ของตัวเอง “คุณพรีมกลับกันเถอะ” “ม่ายยย ขอดื่มอีกนิด ฉันยังไม่เมาเลย” พรีมสะบัดแขนธีมออก “พอแล้วครับ ถ้าคุณไม่กลับกับผม ผมจะโทร.หาเลขาฯ คุณให้มาพาคุณกลับบ้าน” “ไม่ได้ อึก !! โทร.หาเขาไม่ได้” คำขู่ของธีมทำเอาพรีมแทบสร่างเมา เธอรีบจับแขนเขาไว้ ท่าทางของเธอทำเอาให้คนที่เพิ่งขู่ไปสงสัยมาก แต่ก็เลือกที่จะไม่ถามเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย “งั้นเรากลับกันเถอะครับ” “อือ” “ไว้มาอีกนะครับ” เสียงพนักงานในร้านพูดตามเมื่อเห็นทั้ง 2 คนกำลังจะกลับ คนที่เป็นแขกไม่ได้รับเชิญตอนแรกหันไปยิ้มให้และโบกมือลา “เราอยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอ” หลังจากเงียบกันมาสักพัก คนตัวเล็กก็พูดขึ้นระหว่างที่กำลังอยู่ในลิฟต์กลับขึ้นห้องชายหนุ่ม ทำไมกันนะ พออยู่กับผู้ชายคนนี้แล้วเธอลืมความผิดชอบชั่วดี ไม่หรอก เธอไม่ได้ลืม เพียงแค่อยากให้ใครสักคนสามารถรับเธอในแบบที่เธอเป็นได้ต่างหาก “ไม่ครับ ถ้ามีใครรู้ฐานะของคุณพรีมแล้วเอาไปพูดต่อมันจะเสียเอาได้นะครับ” “มันมีอะไรต้องเสียด้วยเหรอ แค่นี้พวกนายที่เป็นพนักงานของฉันยังคิดต่อฉันแย่ ๆ เลย แล้วคนอื่นคงไม่ต้องพูดถึง” ตอนนี้พรีมแทบจะทรงตัวไม่อยู่และเกือบจะเซล้ม แต่ดีที่ธีมดึงตัวเธอไว้ทำให้ไปอยู่ในอ้อมกอดของธีม ผู้ชายคนนี้มีหุ่นดีจริง ๆ ร่างกายสูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้าม พรีมอดคิดไม่ได้ก่อนผลักตัวออกเล็กน้อย แต่จู่ ๆ ก็มีภาพบางอย่างโผล่ขึ้นมาในหัว จูบ ! เมื่อคืนเธอจูบกับผู้ชายคนนี้อย่างนั้นเหรอ แถมยังเป็นจูบที่เร่าร้อนมาก ความทรงจำที่เด่นชัดในหัวทำให้เธอเผลอเอานิ้วแตะที่ริมฝีปากตัวเองราวกับจูบนั้นมันยังติดตราตรึงอยู่ เธอไม่ได้จูบกับใครมานานแค่ไหนแล้วนะ “คุณพรีม คุณพรีม” “อ๊ะ... เอ่อ... ว่าไง” พรีมตอบอย่างตะกุกตะกัก “ลิฟต์เปิดแล้วครับ” ธีมบอก คนที่เพิ่งได้สติมองไปหาคนที่ยืนรอตัวเองอยู่ด้านนอกของลิฟต์ก็รีบเดินตามไป นี่เธอเมาแล้วจริง ๆ สินะ “เอ่อ... ฉันว่าฉันควรกลับแล้ว” จู่ ๆ หญิงสาวก็พูดขึ้นหลังจากเดินเข้ามาในห้อง ทำเอาเจ้าของห้องถึงกับขมวดคิ้ว ถ้าเธอไม่ดื่ม เขาคงจะปล่อยไปง่าย ๆ แต่นี่เธอเพิ่งดื่มมา แล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นหรือมีด่านตำรวจจะทำอย่างไร “ผมไปส่งนะครับ” “ไม่เป็นไร ฉันขับกลับเองได้” “ไม่ครับ เดี๋ยวผมขับไปส่ง” พูดจบเขาก็แย่งกุญแจในมือเธอมาถือเอง แล้วก็เดินเข้าไปหยิบกระเป๋าเงินของตัวเองที่มีบัตรประชนใส่ไว้มาด้วย เผื่อจะมีเหตุฉุกเฉิน หลังจากขับรถ ธีมมองบ้านตรงหน้า... ไม่สิ ต้องเรียกว่าคฤหาสน์เลยดีกว่าเพราะมันอลังการมาก บ้านที่เขาเคยอยู่คงจะใหญ่ไม่เท่าห้องน้ำของที่นี่เลยมั้ง “เอารถฉันขับกลับก่อนก็ได้นะ วันจันทร์ค่อยเอาไปคืนที่บริษัท” เจ้าของรถที่นั่งข้างคนขับพูดเสนอ “ไม่ครับ เดี๋ยวผมโทร.เรียกบริการรับส่งผ่านแอปเองก็ได้ครับ” ธีมยิ้มตอบรับในความหวังดีของพรีม แต่เขาขอรับแค่ด้วยใจก็พอ ขืนเอาไปเฉี่ยวหรือชนที่ไหนเข้า ค่าซ่อมคงไม่น้อยแน่ ๆ “ถ้างั้นฉันให้คนไปส่งไว้ที่หน้าบ้าน หรือจะให้ไปส่งที่คอนโดฯ เลยก็ได้นะ” “แค่ด้านหน้าก็พอครับ” ธีมตอบรับ เพราะถ้าให้เขาเดินไปจนถึงหน้าบ้านตอนแดดช่วงบ่ายร้อน ๆ แบบนี้คงได้เป็นลมแน่ เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะสั่งให้คนขับรถไปส่งเขา ส่วนเธอก็เดินเข้าไปในบ้าน ทำไมบ้านมันถึงดูใหญ่โตจนรู้สึกกลัวแบบนี้ ความรู้สึกช่างต่างจากตอนที่ตัวเองอยู่ห้องของธีม “คุณพรีมจะรับอาหารกลางวันเลยไหมคะ” แม่บ้านเดินมาถามเธอ “ไม่ ฉันยังไม่หิว... แล้วมีใครอยู่บ้านหรือเปล่า” “คุณผู้ชายอยู่ในห้องทำงานค่ะ” คุณพ่อไม่ได้ออกไปข้างนอกสินะ “รู้แล้ว เธอกลับไปทำงานของตัวเองเถอะ” “ค่ะ” แม่บ้านบ้านรับคำเจ้านายแล้วเดินออกไป พรีมเดินขึ้นไปบนชั้น 2 และไปหยุดยืนที่ตรงประตูห้องทำงานของพ่อ กำลังจะเคาะ แต่ก็ได้ยินเสียงพูดลอยมาก่อน “ผมคิดถึงคุณกับลูกจะแย่” ลูก !! พ่อเธอคงจะกำลังคุยกับผู้หญิงคนนั้นอยู่สินะ “ผมอยากหย่าและไปหาคุณกับลูกมาก แต่ผมต้องเอาบริษัทที่ผมอุตส่าห์บริหารมาตั้งหลายปีคืน อีกไม่นานหรอกครับ ตอนนี้ผมกำลังกวาดซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นได้หลายคนแล้ว ถ้าตามคาด ผมคิดว่าจะได้หุ้นมากกว่าฝั่งของลูกสาวทางนี้รวมกันกับภรรยา... ไม่หรอก ก่อนที่คนพวกนี้จะรู้ แผนเราคงสำเร็จ ถ้าเป็นแบบนั้น ผมจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุดและมีสิทธิ์นั่งตำแหน่งประธานเหมือนเดิม” นี่มันเรื่องบ้าอะไร คุณพ่ออยากได้บริษัทของคุณตาที่ตั้งใจยกให้เธอแต่แรกอย่างนั้นเหรอ คุณพ่อทำเรื่องแบบนี้ลับหลังเธอที่เป็นลูกสาวแท้ ๆ ท่านทำได้อย่างไร “ที่จริง ถ้ายัยลูกสาวหน้าโง่ของผมมันปฏิเสธการรับสืบทอดตำแหน่งตั้งแต่แรก ผมคงไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้ ผมอุตส่าห์คิดไว้ว่าถ้ามันปฏิเสธ 1-2 ปีผมจะหย่ากับแม่มัน แล้วพาคุณกับลูกมาอยู่ด้วยกัน ฮ่า ๆ ใช่ ก็ต้องเป็นบ้านหลังนี้อยู่แล้ว ผมมีแผนที่จะทำให้เธอหย่าดี ๆ โดยที่ไม่ต้องพึ่งกฎหมาย แถมยังได้ทรัพย์สมบัติอีกด้วย” พรีมกำมือแน่น หัวใจเต้นรัว เธอไม่คิดเลยว่าพ่อจะชั่วได้ขนาดนี้ “ผมก็ต้องรักคุณสิครับ คุณเป็นเมียของผมนี่ ถ้าไม่ติดว่าเธอรวย มีทรัพย์สินมากมาย ผมก็ไม่สนใจ... ฮ่า ๆ ผมแค่ได้แลกเปลี่ยนประโยชน์กับพ่อของเธอ ในเมื่อพวกเขาอยากได้ชื่อเสียงของผมในการทำธุรกิจผมก็ให้ แล้วทำไมไม่ตอบแทนผมบ้าง อะไรก็ยกให้แต่หลาน เด็กผู้หญิงอ่อนแอที่คอยแต่พึ่งอำนาจของตาแบบเธอจะทำอะไรได้” นี่คือความคิดของพ่อที่มีต่อเธอเหรอ พูดเหมือนเธอเป็นลูกที่ท่านไม่ต้องการ แล้วตลอดเวลารอยยิ้มที่พ่อมอบให้มันคืออะไร ไม่รู้ว่าทำไมหัวใจของเธอมันถึงแบกรับอะไรไว้มากมายขนาดนี้ ปรี๊ดดดด !!! เสียงบีบแตรรถลั่นถนน ตอนนี้ไฟจราจรบ่งบอกว่าเป็นไฟเขียวให้ออกรถได้ พรีมไม่รู้ว่าตัวเองขับรถมาถึงตรงนี้ได้อย่างไรด้วยซ้ำ พอหลังจากที่ได้สติ เธอก็ประคองรถคันหรูมาจอดด้านหน้าบริษัท เพราะสิ่งนี้เหรอ พ่อถึงได้เกลียดเธอ ที่นี่น่ะเหรอที่ทำให้เธอเสียชายที่รักไป เธอไม่อยากกลับบ้าน... ควรไปที่ไหนดี พี่เอก... แต่แล้วจิตใต้สำนึกของเธอกลับบอกว่าห้ามไป ถ้าไปแล้วเธอเจอเอกอยู่กับน้ำหนึ่ง เธอจะทำอย่างไร แต่จู่ ๆ ใบหน้าของคนที่ตัวเองแยกด้วยไม่ถึงชั่วโมงก็ลอยเข้ามา ถ้าไปตอนนี้ เขาจะยังต้อนรับเธออยู่หรือเปล่านะ แม้ในหัวจะคิดแบบนั้น แต่ร่างกายเธอกลับขยับแล้วบังคับรถให้ไปที่จุดหมาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม