ติ๊ง~~~ ต่อง~~
“ขวัญ มีคนมา เดี๋ยวพี่ไปเปิดประตูก่อนนะ”
คนที่กำลังคุยโทรศัพท์กับหญิงที่ตัวเองรักขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัยกับแขกที่มาเยือน
(จะวางเหรอคะ)
“ไม่ครับ ขวัญรอแป๊บนะ เดี๋ยวพี่ขอไปก่อน”
(ค่ะ... รีบมานะ)
ธีมวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะแล้วเดินออกไปตรงหน้าประตู
แกรก !!!
ทันทีประตูเปิดออก เขาก็พบกับคนที่เขาเพิ่งไปส่งมา ประธานกลับมาทำไม แม้ใจเขาอยากจะถามออกไปแบบนั้น แต่ดวงตาที่ดูอิดโรยของเธอต่างจากตอนที่เขาไปส่งที่มันยังดูสดใส เขาเลยเลือกที่จะไม่ถาม
“เข้ามาก่อนสิครับ”
พอออกปากเรียก เขาก็หลีกทางให้เธอเดินเข้าไป พรีมไม่ได้พูดหรือบอกอะไรเขาเลยแม้แต่น้อย เอาแต่เงียบจนเขาอดเป็นห่วงไม่ได้
“นั่งรอตรงนี้นะครับ ผมขอไปคุยโทรศัพท์ที่ค้างไว้ก่อน”
พรีมไม่ตอบแต่พยักหน้าตอบรับแทน เขาเลยเดินกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง ก่อนจะบอกขวัญว่ามีธุระด่วนแล้ววางสายไป
“มีเรื่องอะไรจะเล่าไหมครับ” ธีมนั่งลงข้าง ๆ คนที่นั่งซึมบน โซฟา ในห้องนี้ถูกจัดไว้ให้มันเป็นโซฟาเดี่ยว ถ้าเขาจะนั่งที่พื้นมันก็ไม่ใช่สมัยละครเรื่องนางทาสนี่
“ฉันขออยู่ด้วยสักพักได้ไหม เดี๋ยวฉันจะจ่ายค่ากินค่าอยู่ให้”
“ทำไมถึงอยากมาอยู่ที่นี่ครับ”
“...” พรีมไม่รู้ว่าจะตอบอะไรจริง ๆ ตัวเธอตอนนี้แค่ไม่อยากอยู่คนเดียว ถ้าจะไปหาเพื่อนสนิทก็ไม่ได้เพราะอีกฝ่ายบินไปต่างประเทศ คนที่เธอนึกถึงอีกคนก็คือเขา ตอนนี้เขาคงจะรำคาญเธอจะแย่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะตำแหน่งประธานบริษัทที่เขาทำงานอยู่ คงจะไล่เธอไปตั้งนาน
“ถ้าเงียบ ผมก็ไม่รู้หรอกนะครับว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แล้วที่บอกว่าขออยู่ด้วย คุณพรีมลืมไปหรือเปล่าว่าผมเป็นผู้ชาย แต่ถ้าคุณอยากอยู่ที่นี่ ผมจะออกไปหาที่อยู่อื่น เพราะยังไงมันก็เป็นของประธานทั้งหมดอยู่แล้ว”
“ฉันไม่อยากให้นายคิดแบบนั้น ไม่อยากให้นายคิดว่าฉันมาใช้อำนาจของประธานจะมายึดที่นายเลย... ฉันแค่ไม่อยากอยู่คนเดียว”
“ช่วยบอกผมได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นที่บ้าน แต่ถ้าคุณพรีมไม่อยากเล่าก็ได้นะครับ” ธีมตัดสินใจถามขึ้น
“นายเคยรู้สึกว่าพ่อไม่เคยต้องการนายหรือเปล่า”
“เอาความจริงนะครับ ผมไม่เคยเห็นหน้าพ่อกับแม่เลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่จำความได้ ผมอยู่กับลุงป้ามาตลอด ผมไม่รู้หรอกนะว่าพวกเขาต้องการผมหรือเปล่า ผมคิดแค่ว่าอย่างน้อยพวกท่านก็ให้กำเนิดผมและให้ผมได้ใช้ชีวิตในแบบที่คนสามารถใช้ได้”
“นายเป็นคนดีเหมือนที่ฉันคิดจริง ๆ” พรีมเอียงคอพูดแล้วมองไปที่ธีม
ไม่รู้ตอนไหนที่ร่างกายของทั้ง 2 คนดึงดูดเข้าหากัน ธีมมองดวงตาคู่สวยที่ฉายแววเศร้า เขาก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้ พอมองจ้องกันนานก็เหมือนเขาตกอยู่ในภวังค์ที่หาทางขึ้นไม่เจอ จนในที่สุดริมฝีปากของทั้ง 2 คนสัมผัสกันอย่างแผ่วเบา จากที่แตะกันธรรมดาก็เริ่มเป็นขยับหยอกเย้ากับริมฝีปากของอีกฝ่าย
พรีมเปิดปากของตัวเองรับลิ้นร้อนที่เข้ามาดูดดื่มและกวาดทั่วโพรงปาก เธอรู้ตัวเองดีว่าทำอะไรอยู่ ทั้งที่เธอรู้จักเขาเพียงแค่ผิวเผิน ไม่สิ ไม่รู้เลยด้วยซ้ำ เธอรู้แค่เพียงว่าเขาเป็นหนึ่งในพนักงานที่เธอปกครอง แต่ทำไมกันนะ ทำไมเราถึงได้ปล่อยเนื้อปล่อยตัวกับเขามากขนาดนี้
“อือ... อืมมมม” ถึงแม้สมองของเธอจะคิดแบบนั้น แต่ร่างกายเธอกลับตอบรับเขาด้วยการยกขึ้นโอบรอบคอแกร่งไว้
ธีมกำลังรู้สึกเคลิ้มกับรสจูบที่แปลกใหม่ที่ตื่นเต้นกับคนตรงหน้า มันช่างหอมหวานและรุนแรงเร่าร้อนจนเขาไม่อยากหยุด ธีมใช้แขนแกร่งจับเอวเล็กให้ลุกจากโซฟา ก่อนจะวางไว้ที่ตักของเองโดยที่ปากไม่หยุดจูบแลกลิ้นกันเลย ลิ้นเล็กของเธอเกี่ยวตวัดตอบกับจูบของเขา มือเริ่มสอดแทรกขยุ้มกลุ่มผมดำหนาเพื่อระบายความเสียวซ่าน
“จ๊วบ... อืม... แฮ่ก ! แฮ่ก !”
เสียงหอบหายใจอย่างแรงของหญิงสาวดังขึ้น เมื่อคนที่กำลังรุกจูบเธอเมื่อกี้ยอมถอนริมฝีปากออก ธีมตั้งสติสักพักก่อนจะมองคนที่หอบหายใจซบอยู่บนบ่าเขา เมื่อกี้เขาจูบกับเธอที่เป็นถึงประธานอีกแล้ว คราวนี้ไม่ใช่อีกฝ่ายเริ่มก่อน แต่เป็นเขาที่เริ่มก่อน
“ผมขอโทษ” ธีมเอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบกันไปนาน
หัวเล็กของคนที่ซบอยู่ยกหัวขึ้นจากบ่าแกร่ง ก่อนจะมองไปที่ชายตรงหน้าที่ทำตาเหมือนรู้สึกผิดมาก
“นายจะขอโทษทำไม”
“แต่ผมทำแบบนั้นกับท่านประธาน”
“ถ้าไม่คิดว่าฉันเป็นเจ้านายของนาย นายจะอยากทำต่อแบบเมื่อกี้หรือเปล่า หรือว่านายรังเกียจเหรอ” พรีมถามและมองตาของอีกฝ่าย
“ไม่ครับ ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้น ต่อให้คุณไม่ใช่เจ้านายผมก็ตาม ผมไม่รู้สึกรังเกียจมันเลย” เขาจะรู้สึกรังเกียจได้อย่างไร แม้แต่ตอนนี้เขายังนึกอยากจะสัมผัสมันอีกครั้ง ไอ้ธีม แกมีขวัญอยู่แล้วนะเว้ย
“ฉันเหมือนกัน ฉันไม่ได้รังเกียจมัน แถมยังรู้สึกดีมากด้วยซ้ำ” พรีมพูดจากใจจริง
“รู้สึกดี” ธีมพูดอย่างละเมอก่อนจะมองไปที่ริมฝีปากเล็กที่บวมเล็กน้อยหลังจากที่ถูกเขาขบเม้มอย่างแรง
“อือ รู้สึกดีจนอยากทำอีก” พรีมยกมือขึ้นโอบรอบคอของธีมอีกครั้ง เธออยากปล่อยตัวปล่อยใจไปกับคนตรงหน้ามากกว่าจะคิดถึงความผิดชอบชั่วดี เมื่อกี้เธอบอกอยากทำมันอีกเหมือนที่เขาอยากทำอย่างนั้นเหรอ
พอได้ยินสิ่งที่พรีมพูด สติความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเขาเองก็หายไปทันที เขาโน้มคอของคนตรงหน้าให้เข้ามาใกล้ตัวเองก่อนจะฉกริมฝีปากสวยได้รูปนั้นมาเป็นของตัวเองอีกครั้ง
“อ๊ะ... อืมมม... อ่า... อือออ”
พรีมตอบรับจูบของอีกฝ่ายอย่างเร้าร้อน ธีมถอนจูบออกและมองที่หน้าแดงก่ำของคนตรงหน้า
“ยะ... อย่าหยุดนะ ฉันขอร้อง... ชะ... ช่วยทำให้ฉันลืมเรื่องวันนี้ที”
พรีมพูดพร้อมกับทำแววตาเว้าวอน เพียงแค่นั้นธีมก็ไม่ต้องคิดอะไร เขาลุกขึ้นยืนทันทีโดยที่มือข้างหนึ่งก็โอบรอบเอวบางไว้ เธอที่กลัวตกก็ใช้ขาเกี่ยวรัดเอวแกร่งไว้ เขาใช้มือข้างหนึ่งอุ้มร่างเล็กไว้ไม่ให้เธอตก อีกข้างก็เปิดประตู ความแข็งแกร่งของธีมที่แบกเหมือนตัวเธอเบาราวกับปุยนุ่นทำให้เธออดเขินไม่ได้เลยได้แต่ซบหน้าลงบนบ่ากว้าง
ธีมวางพรีมลงอย่างเบามือ เขามองเธอที่ยังอยู่ในชุดเสื้อผ้าเดิมก่อนจะออกไปจากที่นี่ จนกลับเข้ามาแล้วนอนที่บนเตียงเขาอีกครั้ง ดูเหมือนความคิดของเขาจะหยุดลงเมื่อตอนนี้เธอดึงเขาลงไปจูบแลกลิ้นอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง จนเขาอยากสัมผัสคนตรงหน้ามากกว่านี้