วันต่อมา...
"สวัสดีครับแม่นม น้องตื่นยัง" 'ราชา' เอ่ยสอบถามไปยังแม่นมของตัวเองพร้อมกับเดินไปกอดท่านด้วยความคิดถึง หลังจากที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้าน โดยปกติแล้วชายหนุ่มจะอยู่ที่คอนโดเป็นส่วนใหญ่ นาน ๆ ทีถึงจะได้กลับบ้าน แต่วันนี้ต้องกลับบ้านมารับน้องสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องไปเรียนด้วยกันวันแรก
เนื่องจากน้องสาวตัวแสบคนนี้ เลือกที่จะมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเขาที่ประเทศไทย
"ตื่นแล้วค่ะคุณหนู เมื่อกี้นมเพิ่งให้ยัยรสขึ้นไปตาม แล้วนี่กินข้าวมาหรือยังคะ"
"ยังเลยครับ"
"งั้นก็มานั่งกินรอคุณหนูก่อนค่ะ"
ชายหนุ่มก็พยักหน้าตอบแม่นม แล้วเดินมานั่งลงที่ประจำของตัวเอง พร้อมกับนั่งกินข้าวต้มตรงหน้า
"เฮียขา มาเร็วจังเลย"
และในตอนที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่นะ ก็ได้ยินเสียงสดใสของน้องสาว ที่กำลังเดินลงบันไดมาอย่างอารมณ์ดี
"ก็รีบมาไง เผื่อรถติด"
"แต่ก็เร็วเกิ๊น เพิ่งเจ็ดโมงเช้าเองนะ"
"พูดมาก"
"ชิ! ไม่คุยด้วยแล้วอารมณ์เสีย วันนี้มีอะไรกินบ้างคะแม่นมคนสวยของหนู" วิเวียนเอ่ยต่อว่าเขาเล็กน้อย แล้วก็หันไปพูดกับแม่นมเขาแทน ถึงท่านจะไม่ได้เลี้ยงวิเวียนมา แต่น้องสาวเขาก็ให้เกียรติเรียกท่านว่าแม่นม
"ข้าวต้มปลาค่ะคุณหนู จะกินเลยไหม เดี๋ยวนมให้แม่บ้านตักให้เลย"
"กินเลยสิคะ หอมขนาดนี้ใครจะอดไหว" 'วิเวียน' ตอบกลับ แล้วเดินมานั่งลงด้านข้างพี่ชายตัวเอง ไม่นานป้าแม่บ้านก็เดินถือถ้วยข้าวต้มมาเสิร์ฟให้กับเธอ ซึ่งเธอก็เอ่ยขอบคุณไป
"ขอบคุณนะคะคุณป้าแหม่ม"
"ไม่เป็นไรค่ะคุณหนู" ป้าแม่บ้านก็เดินออกไป เธอก็รีบลงมือทานข้าวต้มตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย
ทางด้านเวียงพิงค์
หลังจากที่นั่งรถประจำทางมาลงที่หน้ามหาวิทยาลัยเรียบร้อยแล้ว เวียงพิงค์ก็รีบเดินตามทางมาเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่หน้าคณะของตัวเอง
เธอยืนมองนักศึกษาหลายสิบคนที่กำลังเดินขวักไขว่กันไปมา และจะมีบางกลุ่มที่กำลังพูดคุยกันอยู่อย่างสนุกสนาน แต่หญิงสาวนั้นไม่กล้าเอ่ยทักใครเลยแม้แต่คนเดียว เธอเลือกที่จะเดินเข้ามาในอาคารเรียนเงียบ ๆ คนเดียว เพื่อไปสำรวจอาคารเรียนที่เธอต้องเรียนในระยะสี่ปีข้างหน้า
ก่อนอื่นเลยที่เธอสามารถเข้าเรียนที่นี่ได้ก็เป็นเพราะว่าคุณอาของเธอ ท่านค่อนข้างมีฐานะ เพราะทำธุรกิจหลายอย่าง ท่านเป็นคนแนะนำให้เธอมาเรียนที่นี่ พร้อมกับรับปากว่าจะจัดการเอกสารให้ทุกอย่างเอง ซึ่งเธอก็เห็นว่าที่มหาวิทยาลัยนี้ค่อนข้างดีเลย จึงได้ตัดสินใจมาเรียนตามที่คุณอาแนะนำ และเอกสารทุกอย่างคุณอาก็ได้ให้คนสนิทของท่านจัดการให้ตามที่รับปากไว้
พอเดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปสักพักก็สะบัดหน้าไปมา พร้อมกับก้มหน้าดูโบรชัวร์ในมือที่เคยเก็บเอาไว้ตอนมาปฐมนิเทศ
โดยพอเดินดูแต่ละห้องจนเกือบจะครบแล้ว ก็เดินกลับลงมามานั่งที่บริเวณตรงโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าคณะ
"คนเยอะจัง" หญิงสาวนั่งบ่นพึมพำคนเดียว พร้อมกับหยิบหนังสือนวนิยายขึ้นมาอ่านเล่นฆ่าเวลา เพราะเหลือเวลาอีกเกือบครึ่งชั่วโมงเลยกว่าจะถึงคาบเรียนแรกที่ต้องเข้า
"แก ๆ ไปกันเถอะ ถึงคาบเรียนแรกแล้วเนี่ย"
"ถึงเวลาแล้วเหรอ"
"ใช่ ไปกันเถอะ"
"แกจะตื่นเต้นอะไรนักหนา"
"จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไงล่ะ นี่เป็นการมาเรียนมหาลัยวันแรกของฉันนะ"
"เธอนี่นะ ไปกันเถอะ"
ระหว่างที่เธอกำลังนั่งอ่านหนังสือนวนิยายอยู่มาสักพักนั้น ก็ได้ยินเสียงนักศึกษาที่นั่งอยู่โต๊ะด้านข้างพูดกันกับเพื่อน หญิงสาวจึงวางหนังสือลงแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นไปดูเวลา พบว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เธอต้องเข้าเรียนคาบแรกแล้ว
เวียงพิงค์จึงรีบเก็บหนังสือใส่กระเป๋า ลุกขึ้นแล้วสะพายกระเป๋าเดินเข้ามาในอาคารเรียนอีกครั้ง พร้อมกับเดินขึ้นบันไดมายังชั้นที่เธอเรียน
โดยระหว่างที่เดินมาที่ห้องเรียนนั้นเธอก็สังเกตเห็นนักศึกษาสาวคนหนึ่งที่กำลังเดินไปมาเหมือนกับกำลังหาห้องเรียนตัวเองอยู่ หญิงสาวจึงเดินเข้าไปทัก
"เธอ" เวียงพิงค์ใช้นิ้วสะกิดบริเวณแขนของคนตรงหน้า ซึ่งหญิงสาวก็รีบหันกลับมาจ้องมองเธอทันทีโดยที่ไม่ได้พูดอะไร เธอจึงเลือกที่จะเอ่ยสอบถามไปแทน
"หาอะไรเหรอ ฉันเห็นเธอเดินวนกลับไปกลับมาหลายรอบแล้ว" เธอถามออกไปด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
"ก็หาห้องเรียนน่ะสิ อยู่ชั้นไหนก็ไม่รู้เดินหลายรอบแล้วเนี่ย"
"เธอไม่รู้ห้อง แสดงว่าอยู่ปีหนึ่งใช่ไหม"
"ใช่ ฉันอยู่ปีหนึ่ง"
"ดีใจจังที่เจอเพื่อนรุ่นเดียวกัน ฉันชื่อเวียงพิงค์นะเธอชื่ออะไรเหรอ" หญิงสาวแนะนำพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างดีใจ เนื่องจากคนตรงหน้ารุ่นเดียวกันกับเธอ
"ชื่อวิเวียน"
"ชื่อเพราะจัง แล้วเธอเรียนสาขาอะไร"
"วารสารศาสตร์น่ะ"
"เหมือนกันเลย ฉันก็เรียนสาขานี้เหมือนกัน" เธอยิ่งดีใจมากกว่าเก่า ที่คนด้านหน้าเรียนสาขาเดียวกันกับเธออีก
“…..”
"ดีจัง คิดถูกจริง ๆ ที่เข้ามาทักเธอ รู้ไหม ฉันนั่งอยู่หน้าคณะตั้งนาน แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปทักใครเลย เธอเป็นคนแรก"
"ฉันก็ดีใจเหมือนกันที่เธอเข้ามาทัก เพราะถ้าเธอไม่ทักฉันก่อน ฉันก็ไม่มีทางทักเธอก่อนแน่นอน"
"....."
"แล้วนี่เธอรู้จักห้อง xx ไหม ว่ามันอยู่ตรงไหน"
"รู้สิ พอดีเมื่อเช้าขึ้นมาสำรวจแล้ว"
"เธอก็เรียนห้องนี้ใช่ไหม"
"ใช่"
"โอเค งั้นเดินนำฉันไปเลย"
"ได้ ๆ" เวียงพิงค์ตอบรับอย่างดีใจ พร้อมกับเดินนำมายังห้องเรียน
พอเดินเข้ามาด้านในแล้วก็มีนักศึกษาหลายคนที่กำลังนั่งพูดคุยกันอยู่อย่างสนุกสนานก็เงียบลงทันที พร้อมกับหันมาจ้องมองพวกเธอเป็นสายตาเดียวกัน ซึ่งเธอก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยโดนจ้องขนาดนี้ จึงรีบหันไปจ้องมองวิเวียนที่กำลังแสดงสีหน้าเรียบนิ่ง ว่าเราจะนั่งตรงไหนกันดี
"เราไปนั่งกันข้างหน้ากันดีกว่าไหม เวลาอาจารย์พูดอะไรเราจะได้ยินอะไรชัด ๆ"
"ไม่เอา ฉันไม่ชอบนั่งข้างหน้า มันเด่นเกินไป"
"อ้าวเหรอ งั้นเธออยากนั่งตรงไหนล่ะ" เพราะวิเวียนไม่อยากนั่งข้างหน้า เธอเลยให้เพื่อนสาวเป็นคนเลือกว่าจะนั่งตรงไหนดี
"ตรงนี้" วิเวียนชี้ไปยังบริเวณตรงกลาง พร้อมกับเดินลงมานั่ง ส่วนเธอเห็นแบบนั้นก็รีบเดินลงมานั่งด้านข้างเพื่อนทันที
"ตื่นเต้นจัง" หลังจากที่ลงมานั่งบนเก้าอี้แล้วเธอก็รู้สึกประหม่าตื่นเต้นแปลก ๆ เพราะห่างหายจากการเรียนไปนาน
"ตื่นเต้นอะไร"
"ก็ที่ได้กลับมาเรียนอีกครั้งไง"
"คือยังไง เธอจะบอกว่าเคยมาเรียนที่นี่แล้ว แต่ได้ลาออกไปแบบนี้เหรอ"
"ไม่ใช่เรียนที่นี่หรอก แต่เมื่อสามปีก่อนฉันเคยเรียนที่มหาวิทยาลัยอื่นน่ะ แล้วพอดีมีปัญหา ก็เลยได้ลาออกไป พอเคลียร์ธุระอะไรเรียบร้อยแล้ว ก็เลยกลับมาเรียนอีกครั้ง" เพราะสามปีก่อน หลังจากที่ตัดสินใจกลับไปอยู่ที่นั่นแล้ว หญิงสาวก็ได้ไปสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยใกล้บ้าน ซึ่งพอไปเรียนได้แค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น เธอก็พบว่าตัวเองกำลังตั้งท้องอยู่ จึงตัดสินใจลาออก
"งั้นแสดงว่าเธอก็เป็นรุ่นพี่ฉันหลายปีเลยน่ะสิ ฉันต้องเรียกเธอว่าพี่"
"ไม่เป็นไรหรอก เรียกเหมือนเก่าก็ได้ ฉันไม่ถือ" เพราะถึงเธอจะอายุมากกว่า แต่เธอก็ไม่ได้ถืออะไรมากมาย พูดคุยกันธรรมดาดีกว่า
"โอเค งั้นฉันเรียกแบบสนิทสนมเลยนะ"
"ได้ ๆ"
"แล้วตอนไหนอาจารย์จะมาเนี่ย เลยเวลามาห้านาทีแล้ว" วิเวียนบ่นพึมพำพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น ซึ่งเธอเห็นเพื่อนเป็นแบบนั้นก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา
"สวัสดีพวกเธอ"
แต่ในระหว่างที่เธอกำลังนั่งนิ่งรออาจารย์อยู่นั้นก็ได้ยินเสียงทักทายจากด้านข้าง หญิงสาวจึงรีบหันไปมองพบว่าเป็นนักศึกษาสาวคนหนึ่งที่กำลังโบกมือให้กับเธอ
"อะไรเหรอ"
"เราขออยู่กับพวกเธอได้ไหม คือเราไม่มีเพื่อนมาเรียนที่นี่ด้วยเลย พอดีเป็นเด็กนักเรียนทุนจากต่างจังหวัด"
"ได้สิ" เธอพยักหน้าเพื่อบอกว่าสามารถอยู่กับพวกเธอได้
"ขอบคุณนะ"
"เด็กนักเรียนทุนต้องเรียนเก่งมากแน่ ๆ เลย"
"ก็ไม่ได้ขนาดนั้นหรอก เราฟลุ๊คน่ะ"
"ฟลุ๊คอะไรกัน จะสอบได้ทุนของมหาวิทยาลัยเอกชนอันดับต้น ๆ ของประเทศเลยนะ"
"....."
"แล้วนี่ชื่ออะไร ฉันชื่อเวียงพิงค์นะ ส่วนคนที่นั่งอยู่ด้านข้างเราชื่อวิเวียน" เธอแนะนำชื่อของตัวเองพร้อมกับแนะนำชื่อของวิเวียนที่นั่งอยู่ด้านข้างด้วย
"เราชื่อ 'พิมพ์สุข' "
"ชื่อแปลกจัง ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลย" เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอได้ยินว่ามีคนที่ชื่อนี้ด้วย ชื่อแปลกแล้วก็เพราะมาก
"ใครที่เราบอกชื่อก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชื่อเราแปลก แต่ชื่อนี้พ่อเราเป็นคนตั้งให้ โดยเอาชื่อของพ่อกับแม่มารวมกันเป็นชื่อของเราน่ะ"
"คุณพ่อเธอครีเอตชื่อได้ดีมากเลย"
"ใช่ ๆ เราก็ชอบชื่อนี้มาก แต่เสียดายคนตั้งดันไม่อยู่แล้ว"
"พ่อเธอเสียแล้วเหรอ"
"ใช่ และไม่ใช่แค่พ่อนะ แม่ก็เสียแล้ว เสียด้วยอุบัติเหตุตอนที่เรายังเด็ก"
"เสียใจด้วยนะ"
"อืม"
"แล้วนี่เธอพักอยู่ที่ไหนเหรอ"
"ห้องเช่าแถวนี้แหละ"
"อ๋อ"
"ไม่เห็นวิเวียนพูดเลย หรือรำคาญที่เราพูดหรือเปล่า ขอโทษด้วยนะ พอดีเราชอบพูดมากไปหน่อย"
"ไม่ได้รำคาญ เธอไม่ต้องคิดมาก คือพอดีฉันไม่ค่อยชอบพูดน่ะ ชอบฟังมากกว่า "
"อ๋อ งั้นต่อไปเราจะเป็นผู้พูดที่ดีแล้วกัน"
ซึ่งพอพิมพ์สุขพูดออกมาแบบนั้นเธอก็หันไปจ้องมองวิเวียนพร้อมกับหลุดขำออกมาเสียงดัง จนเพื่อนที่นั่งอยู่ร่วมห้องต่างมองมาที่เราทั้งสามคน เธอจึงรีบเอ่ยขอโทษออกไปด้วยความเกรงใจ