#เฮียไคอย่าร้าย(6)
หญิงสาวที่ได้ยินคำพูดของชายหนุ่มก็ถลึงตาใส่ชายหนุ่มด้วยความไม่พอใจแต่ถึงกระนั้นหญิงสาวก็ไม่คิดเอ่ยพูดสิ่งใดออกไปนอกจากใช้แววตามองเขา
“เฮียพูดจริง ๆ นะ ถ้าหนูคบกับเฮีย หนูจะได้ทุกอย่างที่หนูต้องการเลย”
“แต่หนูไม่ได้ต้องการอะไร”
“แต่เฮียต้องการหนู” ไม่ว่าเปล่าไคยังขยิบตาใส่หญิงสาว พลางยิ้มโปรยเสน่ห์ที่ใครได้เห็นก็ต่างพากันหลงใหล แต่มันน่าเสียดายที่หนึ่งคนในคนพวกนั้นไม่มีอีเค้กคนนี้อยู่ด้วย
เฮียไคหล่อ เค้กไม่เถียง แต่เค้กไม่เอา
“พี่เค้กครับ เรากลับกันเลยไหม” เค้กหันไปมองคนมาใหม่ที่เดินเข้ามาหาเธอเช่นเดียวกับไคที่หันไปมองยังวินเหมือนกัน ไคเค้นหัวเราะเมื่อเห็นท่าทีออดอ้อนของเด็กหนุ่มคนนั้นพลางคิดในใจว่า ‘อ้อนหลอกแดกนะสิไม่ว่า”
“อืม แต่วินกลับเองนะพี่คงไม่ได้ไปส่ง” เค้กหันไปพูดกับวินโดยไม่คิดสนใจไคที่นั่งอยู่ตรงนี้เลยสักนิด เธอทำราวกับเขาเป็นเพียงอากาศ เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นยังไงอย่างนั้น
“ได้ครับ” วินพยักหน้าหงึกหงักอย่างไม่คิดทักท้วงเรื่องที่เค้กไม่ได้ไปส่ง เพราะเขาจะไปต่อกับเพื่อนและเพื่อนของเขาก็ได้มารอที่ห้างแห่งนี้แล้ว
เค้กพูดกับวินจบก็เดินออกไป ตรงนี้เลยเหลือเพียงไคกับวินสองคนเท่านั้น วินปรายตามองไคเล็กน้อย
“เดี๋ยว” เสียงของไคดังขึ้นมารั้งให้วินที่กำลังเดินออกจากร้านนาฬิกาไปชะงัก
“ครับ มีอะไรกับผมเหรอ” วินหันมาถามด้วยสีหน้าฉงน
“เปล่า จะเรียกมาดูหน้าปลิงชัด ๆ ก็เท่านั้น” พูดจบไคก็ไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระก่อนจะสาวเท้าเดินออกมาจากตรงนั้น ทิ้งให้วินยืนหน้าชากับคำพูดดูถูกของไค มองตามแผ่นหลังหนาของไคด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ
กลับจากห้างเค้กก็ตรงกลับบ้านมาทันทีไม่ได้เถลไถลไปไหนต่อ หญิงสาวเดินเข้าบ้านมาก็ต้องหรี่ตาลงมองด้วยความแปลกใจ เมื่อวันนี้เห็นน้องสาวตัวดีอยู่บ้าน
“ไม่ออกไปไหนเหรอวันนี้” เค้กจึงเดินเข้าไปหาน้องสาวที่นั่งกินขนมดูทีวีด้วยท่าทีสบายอารมณ์
“ไม่อะ”
“ไปเรียนรึเปล่าวันนี้”
“ไม่ได้ไป”
“อย่าเกเรนักสิ” เคทหันมามองพี่สาวอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อได้ยินในสิ่งที่เค้กเอ่ยออกมา
“วันนี้ไม่มีเรียน” ก่อนจะเอ่ยตอบกลับเค้กเสียงเรียบนิ่ง มองพี่สาวด้วยแววตาไม่พอใจ “จะไปไหนก็ไป” ไม่ว่าเปล่าเคทยังโบกมือไล่ให้หญิงสาวออกไปจากตรงนี้
ท่าทีของเคททำให้พี่สาวอย่างเค้กถึงขั้นพ่นลมหายใจออกมาด้วยความหนักใจ ‘เฮ้อ’ เพราะไม่มีวันไหนเลยสักวันที่เธอกับน้องสาวจะพูดคุยกันดี ๆ จากที่เคยเป็นพี่น้องที่รักกันมากก็ห่างเหินกันซะจนคิดว่าเราไม่เคยรู้จักกัน ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ความเป็นพี่เป็นน้องของเธอกับเคทเปลี่ยนไป รู้ตัวอีกทีมันก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้ว
แม้จะโดนน้องสาวเอ่ยไล่ด้วยท่าทีที่ไม่สบอารมณ์แค่ไหน เค้กก็ไม่คิดจะลุกหนีออกไป เธอนั่งมองเสี้ยวหน้าสวยของคนเป็นน้องด้วยความรู้สึกหลากหลายราวกับคนละเมอรู้ตัวอีกก็เผลอยกมือลูบศีรษะคนเป็นน้องเสียอย่างลืมตัว
เคทแอบชะงักกับสัมผัสคล้ายกับกำลังปลอบประโลมกันของพี่สาว ในขณะที่เค้กเองก็แอบชะงักเหมือนกัน ก่อนที่เธอจะรีบชักมือกลับ
เคทนิ่ง หัวใจเธอเต้นตึกตักให้กับการกระทำเมื่อครู่ของพี่สาว ชั่วครู่ขอบตาของเธอก็ร้อนผ่าว
“เคทขอตัว” จนต้องเป็นฝ่ายลุกหนีออกไปแทน
“เฮ้อ” เป็นอีกครั้งที่เค้กพ่นลมหายใจออกมาลับหลังที่เคทเดินออกไป
ติ้ง!
เสียงแจ้งเตือนไลน์ปลุกให้เค้กหลุดออกจากภวังค์ ล้วงมือหยิบโทรในกระเป๋าออกมาดูข้อความ เธอแอบเบะปากเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนส่งข้อความมาหา
แก๊งสามสหายนางฟ้า
ชื่อแก๊งที่บ่งบอกถึงความมั่นหน้านี้ไม่ต้องเดาให้ยากเลยค่ะว่าใครเป็นคนตั้ง นอกจากยัยวันใหม่ผู้ที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก ก็ไม่มีใครกล้าตั้งชื่อแก๊งแบบนี้อีกแล้ว
วันใหม่: หวานใจฉันนัดปาร์ตี้ พวกแกไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม
เค้กขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้อ่านข้อความของวันใหม่ ‘หวานใจ’ มันไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่กันทำไมเธอถึงไม่รู้เลย
เค้ก: ไม่ไปอะ
วันใหม่: ได้ไงอะอีเค้ก เพื่อนจะมีผัวทั้งทีไปเป็นเพื่อนหน่อยไม่ได้หรือไง
เค้ก: มึงรู้จักกับเขานานยัง
วันใหม่: อาทิตย์หนึ่งได้แล้ว
เค้ก: นั่นไง ไว้ใจได้รึเปล่าก็ไม่รู้
วันใหม่: ไว้ใจได้กว่าเด็ก ๆ ที่มึงเลี้ยงไว้ก็แล้วกัน
เค้กสะอึก
ก่อนจะพิมพ์คำว่า’อี’ พร้อมอิโมจิดอกไม้ส่งให้วันใหม่
วันใหม่: ขอบคุณที่ชมเพื่อนรัก
เค้ก: แล้วกันตาไปไหน
กันตา: อยู่กับอีใหม่นี่แหละ
วันใหม่: ตกลงไปนะเพื่อนรัก เดี๋ยวไปรับที่บ้าน
เค้ก: ไม่รับปากนะ
วันใหม่: ต้องไปเท่านั้น
เค้กกลอกตามองบนอย่างเอือมระอาให้กับวันใหม่ ก่อนจะเอื้อมมือคว้ากระเป๋าหยัดตัวลุกขึ้นยืนเดินขึ้นห้องนอนมา
ดวงตาเฉี่ยวเหลือบมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียงพลางทิ้งตัวลงนอนคว่ำหน้าไปกับที่นอนอย่างหมดสภาพ หยิบมือถือขึ้นมาตั้งนาฬิกาปลุกเพื่อลุกขึ้นมาแต่งตัวตามเวลาที่เพื่อนสาวได้นัดเธอไว้ จากนั้นหญิงสาวก็เขวี้ยงโทรศัพท์ออกไปไกลตัวเข้าสู่โหมดนอนพักอย่างจริงจังและเพียงไม่นานหญิงสาวก็ผล็อยหลับเข้าสู้ห้วงนิทราไป
สามชั่วโมงผ่านไป
เสียงนาฬิกาปลุกที่เค้กตั้งไว้ก็ส่งเสียงร้องดังสนั่นปลุกให้หญิงสาวที่กำลังนอนหลับตื่นจากนิทรา มือเรียวควานหาโทรศัพท์มือถือที่ส่งเสียงมาปิด ก่อนจะค่อย ๆ หยัดตัวลุกขึ้นนั่ง เค้กลุกขึ้นมานั่งอึนอยู่ปลายเตียงพลางเหลือบสายตามองเวลาที่นัดกับเพื่อนไว้ เมื่อเห็นว่านี่ใกล้เวลานัดเข้ามาทุกทีหญิงสาวไม่รอช้าลุกไปเข้าห้องน้ำจัดการตัวเอง
เค้กแต่งตัวเสร็จเป็นเวลาเดียวกันที่รถของเพื่อนมาจอดที่หน้าบ้าน เมื่อเค้กขึ้นรถมาได้สามสาวก็ตรงมายังบ้านของหวานใจวันใหม่ทันที
“แฟนมึงนี่รวยน่าดูเลยเนอะ” เค้กหันไปพูดกับวันใหม่เมื่อรถเลี้ยวเข้าสู้บริเวณบ้านหลังใหญ่โตโอ่อ่าแห่งนี้ เสียงเพลงจากด้านนอกดังกระหึ่มเข้ามาถึงในรถกันเลยทีเดียว
“แน่นอนสิ ระดับคุณหนูวันใหม่ก็ต้องเลือกคนที่สมฐานะกับตัวเองหน่อย” วันใหม่เชิ่ดหน้าตอบด้วยความภูมิใจ
“จ้า แม่คนรวย” เธอจึงโดนเค้กเอ่ยกระแหนะกระแหนใส่ด้วยความหมั่นไส้
จากนั้นสามสาวก็เดินเข้ามายังบริเวณที่จัดปาร์ตี้ วันใหม่โบกมือเรียกหวานใจของเธอให้เดินมาทางนี้ เช่นเดียวกับกันตาที่โบกมือเรียกใครบางคน
“มึงโบกมือเรียกใคร” เค้กจึงถามด้วยความสงสัย
“แฟนกูสิ”
“แฟนมึงกับแฟนไอ้ใหม่รู้จักกัน” เค้กเลิกคิ้วถาม
“อะฮะ”
แล้วจะให้เธอมาเป็นเพื่อนพวกมันทำซากอะไร
“นี่เฮียกันต์แฟนกู” วันใหม่แนะนำผู้ชายข้างกายให้เค้กรู้จัก
“สวัสดีครับ”
“นี่เฮียพีแฟนกู” เช่นเดียวกับกันตาที่เอ่ยแนะนำผู้ชายข้างกายให้เค้กรู้จักบ้าง
“สวัสดีครับ”
“เค้กค่ะ” เค้กแนะนำตัวให้แฟนของเพื่อนรู้จักบ้าง ก่อนที่คนสวยจะชะงักเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นใครบางคนกำลังเดินตรงมาทางนี้ และในที่สุดเขาก็เดินมาหยุดตรงหน้าเธอ
“นี่ไอ้ไคเพื่อนเฮียเองครับ มันโสดมาก ไม่มีหวานใจมีแต่ตังค์ในบัญชี” กันต์รีบโปรโมตเพื่อนทันทีที่ไคเดินเข้ามาพลางลอบสังเกตสีหน้าเค้กเป็นระยะ “ไม่ทราบว่าน้องเค้กสนใจรับเพื่อนเฮียไปพิจารณาไหมครับ”
เค้กอยากจะร้องกรี๊ดออกมาดัง ๆ ใส่คนพวกนี้ และเมื่อได้เห็นสีหน้าและแววตาของเพื่อนที่ส่งมาเค้กอยากหยุมหัวเพื่อนตัวดีของเธอมาก ๆ ‘รู้เห็นเป็นใจกับเขาสินะอีพวกบ้า’
“เพื่อนหนูก็มีเฮีย ๆ ดูแลกันหมดแล้ว หนูไม่สนใจรับเฮียไปพิจารณาหน่อยเหรอคะ” ไคพูดพลางกระหยิ่มยิ้มมองหญิงสาวตรงหน้า พลางขยิบตาโปรยเสน่ห์ให้เธอไปหนึ่งที “แต่หนูไม่ชอบคนแก่นี่ เฮียลืมไปหนูชอบปลิง” ไคพูดพลางหัวเราะยิ้ม
เค้กกัดฟันมองไคตาเขียวปั้ด
‘ปลิงหน้ามึงสิบักปอบ’ พลางก่นด่าไคในใจ