หลังจากที่องุ่น ลูกสาวคู่ค้าของบริษัทของผมออกไปจากห้องทำงานของผมแล้ว ผมก็เกิดความคิดเข้ามาในหัวของผมทันที นั้นก็คือ “ ผมอยากได้เด็กคนนี้ “ และแน่นอน อะไรที่ผมอยากได้คือจะต้องได้ ไม่ว่าจะเลวแค่ไหนก็ตาม ผมไม่ใช่อยากได้เธอมาเป็นแค่ที่ระบายความต้องการเหมือนผู้หญิงคนอื่นนะ ผมอยากได้เธอมาเป็นคู่ชีวิต นีคือความคิดในหัวของผม
” คุณองุ่นและคนที่มากับเธอ กลับไปแล้วครับ “ เคเดนที่ทำหน้าที่ลงไปส่งทั้งสี่สาว ขึ้นมารายงานผู้เป็นนาย
” อืม เคเดน มึงว่า ลูกสาวคู่ค้าของกูเป็นไงบ้างว่ะ “
ประธานหนุ่ม เขาเพียงแค่อยากฟังความคิดเห็นจากมือขวาของตัวเอง จะว่าไป เขาและเคเดนก็โตขึ้นมาด้วยกัน เพราะพ่อของเคเดนเป็นมือขวาของพ่อผม
“ นายสนใจเธอเหรอครับ ”
เพียวแค่ประธานหนุ่มถามออกมาเพียงเท่านั้น เคเดนที่อยู่ดูแลมาร์คเกอร์มานาน เขาก็รู้ทันความคิดของผู้เป็นนายทันที
“ กูคิดว่า มึงน่าจะรู้ใจกูดี ” มาเฟียหนุ่มที่นั่งอยู่บนโต๊ะทำงานถึงกับยกยิ้มให้กับความรู้ใจของมือขวาตัวเอง
“ แต่เธอยังเด็กนะครับ ”
ที่เคเดนต้องพูดคำนี้ออกมา เพราะประวัติที่สืบรู้มา เด็กสาวคนนี้อายุเพียงแค่ 17 ปี คงจะไม่ดีแน่ถ้านายเขาอยากได้เธอตอนนี้
“ เด็กสิดี น่าจะเด็ด ” มาเฟียหนุ่มพูดจบก็หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
“ ส่งคนตามดูเธอหน่อย เพราะต่อไปเธอจะมาเป็นนายหญิงของพวกมึง ”
มาร์คเกอร์สั่งเคเดน ซึ่งคำสั่งที่เขาสั่งออกมาในครั้งนี้ ทำให้เคเดนไม่อยากจะเชื่อ ว่านายของเขาจะคิดกับเธอถึงชั้นพูดคำนี้ออกมา แต่เอาเถอะ ถ้านายเขาจะล็อกมงขนาดนี้ ก็คงไม่พลาดหรอก
“ ได้ครับ ”
แล้วลูกน้องอย่างเคเดนก็พร้อมจะส่งลูกน้องฝีมือดีตามคอยดู ว่าที่นายหญิงล็อกมงของตัวเองทันที จากนั้นก็รายงานนายของตัวเอง เกี่ยวกับงานในส่วนของวันนี้ต่อ
ด้านองุ่น
หลังจากที่เธอออกมาจากห้องทำงานของประธานหนุ่มคนหล่อแล้ว เธอก็กลับมาที่บ้านของเธอทันที พร้อมกับพี่อารียาและเพื่อนรักของเธอทั้งสองคน
“ แก มีอะไรรึป่าว ฉันเห็นแกกเงียบมาตลอดทาง ” ลียาที่เห็นเพื่อนของตัวเองไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่ที่ ออกมาจากบริษัทนั้น
“ ป่าวแก คุณมาร์คเกอร์อะไรนั้นแค่กลัวว่าทางบริษัทของพ่อฉันจะทำบริษัทเขาเสียหายอะ ” เท่าที่เธอจับใจความได้ อีกฝ่ายน่าจะกลัวบริษัทของครอบครัวฉันทำเขาเดือดร้อน
“ ฉันว่า ตาลุงมาร์คเกอร์นี้น่าจะเขี้ยวน่าดูอะ ขนาดพ่อแกเพิ่งเสีย แถมแม่เเกก็ยังรักษาตัวอยู่ ตัวจริงเป็นไงอะ เป็นลุงแก่ขี้งกป่ะ ”
มิวนิสที่คิดว่า คนที่เพื่อนของตัวเองไปพบ อาจจะเป็นพวกลุงแก่ที่ขี้เหนียวกลัวเสียผลประโยชน์เลยถามเพื่อนออกมา เพราะคิดว่า คนที่ขึ้นเป็นประธานได้ คงจะมีอายุที่เยอะพอสมควร
“ หล่อ ” พอนึกไปถึงใบหน้าของคนที่เธอเพิ่งเคยเจอมาเมื่อกี้นี้ คำเดียวที่ออกมาจากปากของเธอก็คือคำนี้
“ ห๊ะ / หมายถึง อายุเยอะแต่ก็ยังหล่อเหรอ ” สองสาวที่นั่งอยู่ ถึงกับต้องถามองุ่นออกมาอีกครั้ง
“ ไม่ได้ แก่อย่างที่ทั้งสองคนคิดค่ะ คูณมาร์คเกอร์เพิ่งจะอายุ 28 ปีเองค่ะ ยังหนุ่มแล้วก็หล่อมากๆอย่างที่คุณองุ่นบอกเลย ”
เป็นอารียาที่พูดแทนองุ่นด้วยรอยยิ้มเอ็นดูเพื่อนๆคุณองุ่น เพรากลัวว่า ทั้งสองสาวจะเข้าใจผิดไปใหญ่
“ จริงเหรอคะ พวกเราก็คิดว่า เป็นลุงสะอีก เป็นประธานที่อายุน้อยมากอะ ”
มิวนิสพูดออกมา ทำไมช่างต่างจากที่เธอคิดไว้เยอะจริงๆ แต่ในเมื่ออเพื่อนรักของเธอพูดชมอีกฝ่ายว่า หล่อ ออกมาเป็นคำแรก แสดงว่า คุณมาร์คเกอร์อะไรนั้น น่าจะหล่อจริงๆ เพราะเป็นเพื่อนกันมานานมากๆ ไม่เคยเห็นองุ่นพุดชมใครเลย
“ ใช่ค่ะ คุณมาร์คเกอร์ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อย ”
ที่อารียารู้เพราะทั้งสองบริษัททำงานร่วมกันมานานเป็นสิบๆปี ตั้งแต่รุ่น คุณพ่อของคุณมาร์คเกอร์จนกระทั้งมาถึงรุ่นคุณมาร์คเกอร์
“ คงจะเก่งน่าดู แต่เขาดูเหมือนไม่ใช่ประธานหนุ่มธรรมดาเลยนะคะ แอบแฝงความน่ากลัว ” เธอสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวที่ออกมาจากตัวของผู้ชายคนนี้ยังไงก้บอกไม่ถูก
“ อันนี้พี่ก็ไม่รู้นะคะ คุณองุ่น ”
เท่าที่เธอได้ยินชื่อเสียงของคุณมาร์คเกอร์ก็เป็นประธานธรรมดาๆ ที่เก่งเกินอายุ เรื่องอื่นๆอารียาก็ไม่รู้ได้ แต่ทุกครั้ง รอบตัวคุณมาร์คเกอร์จะมีบอดีการ์ดตามตลอด อาจจะเพราะเขาประสบความสำเร็จเร็ว เลยกลัววคู่แข่งรอบทำร้าย เพราะวงการธุรกิจมันน่ากลัวพอสมควร
“ งั้นพี่อารียาช่วยเอางานที่เรากับเขาจะต้องทำร่วมกันในอีกสองวันมาให้องุ่นศึกษาทีนะคะ ”
ในเมื่อตอนนี้เธอเองก็ต้องทำหน้าที่ตรงนี้แทนครอบครัว เลยทำให้เด็กน้อยที่อายุเพียงแค่นี้ต้องเริ่มศึกษางานไปก่อน ทำได้ไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที
“ ได้ค่ะ คุณองุ่น แต่งานนี้คุณท่านทั้งสองทำไว้เรียบร้อยแล้ว น่าจะไม่มีอะไรน่าเป็นนห่วงนะคะ “ เพราะก่อนหน้าที่คุณท่านทั้งสองจะประสบอุบัติเหตุงานนี้วางไว้เสร็จแล้ว
“ โอเคค่ะ แต่หนูคงต้องศึกษาไว้ เผื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ทางนั้นคงจะไม่โอเคแน่นๆ ดูเหมือนจะเป๊ะมากๆเลย ” ที่เธอคิดไม่ผิด เพราะประธานรูปหล่อคนนี้ เป๊ะและเขี้ยวมาก
สองวันต่อมา
เด็กสาวที่ตอนนี้เธอศึกษาเกี่ยวกับงานในพาสนี้จนพอรู้เรื่องบ้างแล้ว และงานในส่วนนี้ก็ราบรื่นไปด้วยดี โชคดีที่พ่อและแม่ของเธอนั้น ดีลงานไปเรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีปัญหาอะไรตามมา
โรงพยาบาลเอกชน
หลังจากเรียนเสร็จ องุ่นก็ได้รีบมาที่โรงพยาบาลทันที เพราะเธอได้รับข่าวดีจากพี่อารียา ว่าแม่ของเธอฟื้นแล้ว
แกร๊ก!! เด็กสาวเปิดประตูเข้ามาภายในนห้องพักผู้ป่วยวีไอพี ที่แม่ของเธอพักรักษาอยู่ ทันทีที่เห็นว่าแม่เธอฟื้นแล้ว คนตัวเล็กถึงกับน้ำตาไหลออกมาด้วยความดีใจ
“ แม่ขา ฮื่อ ” องุ่นเดินเข้ามาสวมกอดแม่ของเธอด้วยความดีใจมาก เพียงเพ็ญที่เห็นลูกสาวของตัวเองร้องไห้อย่างหนัก เธอก็ลูบหัวลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอด้วยความเอ็นดู
“ ไม่ร้องนะลูก ไม่ร้อง ” ถึงเเม้เพียงเพ็ญจะรู้ข่าวการจากไปของสามี แต่เธอก็ยังดีใจที่ตัวเองได้กลับมาเจอหน้าลูกสาวอีกครั้ง
“ หนูดีใจ ”
เสียงหวานของเด็กน้องที่มีความสะอื่น กอดแม่ของเธอแน่น ภาพสองแม่ลูกที่กอดกัน อยู่ในสายตาของอารียา เลขาสาวของเพียงเพ็ญ มันทำให้เลขาสาวที่ทำงานกับครอบครัวนี้มานาน ถึงกับกั้นน้ำตาไม่อยู่
“ แม่เป็นไงบ้างคะ ยังเจ็บตรงไหนรึป่าวค่ะ ” องุ่นถามแม่ของเธอหลังจากที่สองแม่ลูกกอดกันจนพอแล้ว
“ ไม่เจ็บตรงไหนแล้วลูก แม่น่าจะดีขึ้นมากแล้ว ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ในตอนที่ลูกต้องอยู่กับความเศร้าเพียงลำพัง ”
หากเป็นไปได้ เพียงเพ็ญก็ไม่อยากให้มีเหตุการณ์ที่ต้องสูญเสียนี้ขึ้น เธอต้องเสียสามีอันเป็นที่รักไป ทั้งๆที่เธอนอนหลับไปไม่ได้อยู่ในวันที่ลูกสาวต้องเสียใจหนัก
“ มันผ่านมาแล้วนะคะ แม่อย่าคิดมากเลยค่ะ ”
เธอรู้ว่า เหตุการณ์แบบนี้ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอก แต่ในเมื่อมันผ่านไปแล้ว เธอก็ไม่อยากให้ แม่ของเธอต้องคิดมาก
“ ต่อจากนี้แม่จะดูแลหนูให้ดีที่สุดนะลูก ”
ต่อจากนี้เพียงเพ็ญเองก็สัญญากับตัวเองว่า เธอจะดูเเลลูกสาวและทุกอย่าง ให้ดีที่สุด เท่าที่เธอจะทำได้ ถึงแม้เธอจะไม่ได้เก่งเท่าวายุ แต่เธอก็จะเป็นหัวเรือที่ดี รึป่าวอันนี้คงต้องรอดู