หลายวันต่อมา
หลังจากเสร็จงานศพของพ่อเธอ เด็กสาวที่ตอนนี้ยังคงมีอาการเศร้าเเละเสียใจอยู่ตลอดเวลา โชคดีที่เธอยังมีเพื่อนรักอย่าง มิวนิส เเละ ลียา มาอยู่เป็นเพื่อนของเธอ ถึงเเม้ว่าตอนนี้เธอจะเสียผู้เป็นพ่อไปตลอดกาล เเต่อาการของแม่เธอกลับดีวันดีคืน
“ คุณองุ่นคะ คือทางคู้ค้าต้องการคุยงานกับเราค่ะ ” อารีรัตน์ เลขาของผู้เป็นเเม่เธอ เข้ามารายงาน เพราะได้รับเรื่องจากทางฝั่งคู่ค้า
“ เขาคือใครเหรอคะ ”
องุ่น เธอไม่เคยรู้เรื่องงานของพ่อเเละเเม่เธอเลย เเล้วก็ไม่รู้ด้วยว่า พ่อเเละเเม่ของเธอมีคู่ค้ากี่คน เเต่ในเมื่อตอนนี้ ทั้งพ่อเเละเเม่ของเธอไม่อยู่เเล้ว เธอเองถึงเเม้จะอายุเพียงเท่านี้ก็คงจะต้องไปพูดคุยกับคู่ค้าคนนี้เเทนไปก่อน
“ คุณ มาร์คเกอร์ค่ะ เป็นคู่ค้าหลักของทางบริษัท ”
อารียารายงานออกไป ถึงเเม้ว่า เธอจะรู้ดีว่า ลูกสาวของคุณท่านทั้งสองไม่รู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับงาน เเต่ทางนั้นยืนยันต้องการที่จะคุยกับทายาท เธอเองที่เป็นเลข ก็ต้องมารายงานตามนี้
“ ค่ะ องุ่นจะไปพบเขา “
ถึงเเม้เธอจะไม่รู้เรื่องงาน ในเมื่อคู้ค้าของบริษัทเธอต้องการที่จะเจอทายาท องุ่นเองถึงเเม้ว่าจะไม่พร้อมไปเจอกับใครเลยในตอนนี้ เเต่เธอก็คงต้องไป
” พวกฉันไปเป็นเพื่อนนะเเก “
ลียา ที่มาอยู่กับองุ่นตั้งเเต่วันที่เกิดเรื่องจน ตอนนี้ เธอก็ยังอยู่กับเพื่อนไม่ไปไหน เเละไม่ใช่ลียาเพียงคนเดียว มิวนิสเองก็เหมือนกัน
” ขอบใจพวกเเกมากนะ ฉันรักพวกเเก “ ถึงเเม้ว่า เธอจะเจอเรื่องราวที่ไม่ดีมา เเต่เธอก็มีเพื่อนที่ดี
บริษัท มาคินสันต์ กรุ๊ป
องุ่นเเละเพื่อนรักของเธอทั้งสองคนพร้อมทั้งเลขาของเเม่เธอ เดินทางมาจนถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ ที่เป็นบริษัทของคุณ มาร์คเกอร์ คู่ค้าของครอบครัวเธอ ด้วยความไม่พร้อม เเต่ก็เลี่ยงไม่ได้ ตลอดทางที่เธอเเละเพื่อนเธอเดินก้าวเข้ามาภายในบริษัทนี้ เธอก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายบางอย่าง ที่น่ากลัวเเละดุดัน แล้วตั้งเเต่เธอก้าวเข้ามา มองไปทางไหนก็พบกับชายชุดดำที่ยืนอยู่ตามจุด เธอพยายามจะไม่สนใจ เเละเดินตามคนของคุณมาร์คเกอร์ขึ้นมาถึงชั้นบนสุด
” เชิญคุณ องุ่น เข้าไปได้ในเเค่คนเดียวครับ “
ผู้ชายชุดดำที่ยืนอยู่ด้านหน้าทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ได้พูดขึ้นมา ทำให้ทั้งสี่สาวถึงกับต้องมองหน้ากันทันที แต่องุ่น เธอเองถึงเเม้จะมีความกลัวอยู่ภายในใจ เเต่ในเมื่อเธอมาถึงที่นี้เเล้ว ก็คงจะถอยไม่ได้
“ ไม่เป็นไรพวกเเก ฉันเข้าไปได้ ” องุ่นหันไปพูดกับทุกคนที่มากับเธอ
“ อืมๆ มีอะไรเเกรีบวิ่งออกมาเลยนะ ” มิวนิสกระซิบกับเพื่อนรักของเธอ
“ เชิญคุณองุ่นตามผมมาได้เลยครับ ส่วนอีกสามคน เดี๋ยวผมให้คนไปรอที่ห้องรับรอง ”
เคเดน ลูกน้องมือขวาคนสนิทของมาเฟียหนุ่มพูดกับทั้งสี่สาว เขาเดินนำหน้าเด็กสาวคนนี้มาจนถึงห้องขนาดใหญ่ ที่ด้านหน้าห้องมีผู้หญิงสาวสวยมานั่งอยู่ คงจะเป็นเลขาของคนด้านในนั้นเเหละ
แกร๊ก!!! ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกด้วยฝีมือของชายตัวใหญ่ชุดดำที่เดินนำหน้าเธอ องุ่นเดินตามชายคนนี้เข้ามาอย่างไม่ได้คิดอะไร แต่แล้วพอเธอได้เห็นบุคคลที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ เด็กสาวร่างเล็กถึงกับต้องตาโตขึ้นมาเพราะว่าคนตรงหน้าเธอนั้นมีรูปร่างหน้าตาที่หล่อและไม่ใช่แค่หล่อแต่เขาเหมือนกับเทพบุตรที่หลุดออกมาจากนิยายก็ว่าได้ ทั้งคิ้วทั้งตาทั้งจมูกและปากเรียกได้ว่าไม่มีที่ติใดๆเลย ขนาดเธอเป็นผู้หญิงเธอยังสู้ชายหนุ่มตรงหน้านี้ไม่ได้
“ นายครับ นี่คุณองุ่นลูกสาวของคุณวายุและคุณเพียงเพ็ญครับ ”
เคเดนลูกน้องของมาเฟียเอ่ยบอกผู้เป็นนาย ทำให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานขนาดใหญ่นี้มองมายังเด็กสาวคนนี้และพยักหน้าให้กับลูกน้องของตัวเอง ทำให้เคเดนนั้นก้มหัวให้ผู้เป็นนายและเดินออกไปจากห้องทำงานขนาดอย่างนี้ ทั้งห้องจึงเหลือเพียงแค่ มาร์คเกอร์ และองุ่นเพียงแค่สองคน
“ จะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม ”
น้ำเสียง ที่เรียบนิ่งของผู้ชายใบหน้าหล่อคนนี้พูดออกมาทำให้เธอถึงกับต้องดึงสติตัวเองกลับมาและเดินมาที่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของเขา
“ ค ค่ะ ” เสียงหวานเอยเอยออกมาพอเห็นสายตาของอีกฝ่ายเหมือนกับให้เธอนั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าได้ทำให้หญิงสาวตัวเล็กถือวิสาสะนั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าของเขา
“ เธอคือลูกสาว ของคุณวายุใช่มั้ย “ ชายคนตรงหน้าพูดถามเธอทั้งที่เขายังจ้องใบหน้าของเธออย่างไม่ลดละ
” ค่ะ “ องุ่นตอบอีกฝ่ายด้วยความประมาทเพราะไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ต้องการคุย เรื่องอะไรกับเธอ
” เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับงานในบริษัทของพ่อตัวเองหรือเปล่า “ นี่คือประโยคคำถามจากผู้ชายคนตรงหน้าเอ่ยถามเด็กสาว
” ไม่ทราบค่ะ “ เพราะเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลยภายในบริษัท รู้เพียงแค่ว่าบ้านของเธอทำธุรกิจส่งออกสินค้าทางเรือเพียงเท่านั้น เป็นบริษัทขนส่ง
” ถ้าคุณเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของบริษัท หนูขอให้คุณรอคุณแม่หายดีก่อนได้ไหมคะ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วเเต่ ที่คุณต้องการพบหนูในวันนี้ หนูขอให้คุณแม่ฟื้นและหายดีก่อนได้มั้ย “
เธอไม่รู้ว่าคนตรงหน้าต้องการจะพูดเรื่องใดกับเธอหากเป็นทางธุรกิจเธอคงต้องขอให้เขารอให้แม่ของเธอหายดีเสียก่อน ที่เธอมาวันนี้ก็เพราะต้องการให้คนตรงหน้ารับรู้
” ฉันคงรอให้แม่ของเธอขายดีไม่ได้หรอกนะเพราะธุรกิจของเรามันรอไม่ได้ ถ้าไม่งั้นความเสียหายที่จะตามมามันไม่ใช่แค่บาทสองบาท และฉันก็ไม่มีเวลามานั่งเล่นขายของกับใครหากเธอเป็นลูกสาวเธอก็ควรจะศึกษางานในส่วนของบริษัทไว้ฉันรู้ว่ามันไม่ง่ายแต่ในเมื่อพ่อและแม่ของเธอเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ทายาทสายตรงอย่างเธอก็ต้องรับรู้และสานต่อ “ เพราะคนอย่างเขาไม่มีทางเห็นใจใครอย่างแน่นอน ธุรกิจสำหรับเขาจะไม่มีวันขาดทุนอย่างแน่นอนเช่นกัน
” ค่ะ คุณต้องการพบฉันแค่นี้หรอคะ “
เท่าที่ฟังดูแล้วเค้าคงอยากให้ฉันตัดสินใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการทำงานที่ร่วมกันกับบริษัทของเขา แต่จะทำยังไงได้ฉันเพิ่งอายุเพียงเท่านี้ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลย แล้วคุณแม่ก็ยังไม่หายดีด้วย แต่ถ้ามัน เลี่ยงไม่ได้เธอก็คงจะต้องยอมรับและ ศึกษางานในส่วนนี้
” อืม ฉันหวังว่างานของเราในอีกสองวันวันที่ตกลงกันไว้ ทางเธอจะไม่มีข้อผิดพลาดอะไรนะ “
นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่เขาต้องการพบลูกสาวของวายุเพราะว่าอีกสองวันทางเราทั้งสองบริษัทจะมีการขนส่งสินค้าซึ่งผมไม่ต้องการให้มันผิดพลาด จึงต้องคุยกับทางทายาทของฝ่ายนั้นก่อน
” ค่ะ “ ก็เธอเรื่องราวอะไรเลย องุ่นจึงได้ตอบอีกฝ่ายเพียงแค่คำนี้
” เธอตอบเป็นแต่คำนี้หรือไง หรือว่าตะลึงในความหล่อของฉันถึงได้พูดแต่คำนี้ ฮะเด็กน้อย “
แทนที่เธอจะถามผมในเรื่องอื่นๆ ผมจะได้ตอบเธอแต่เด็กน้อยตรงหน้าผมคนนี้ได้แต่ตอบผม ว่าค่ะๆ น่ารำคาญชะมัดถ้าไม่ติดว่าสวยจนผมไม่อยากละสายตาไปไหน ผมไล่ตะเพิดออกนอกห้องไปแล้วครั
” ค่ะ เอ้ย ป่าวค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วหนูขอตัวนะคะ แล้วงานอีกสองวันหนูจะรีบศึกษา “
เขารู้ทันฉันหรือเปล่าเนี่ยว่าฉันมองเขาตะลึงในความหล่ออย่างที่เขาว่านั่นเองในเมื่อเธอเหมือนคนที่ถูกจับได้ก็ต้องรีบหาทางออกจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด
” อืม แล้วพบกันเด็กน้อย “ ประธานหนุ่มต่อไปเพียงเท่านั้นแหละเขาก็ลุกขึ้นพายมือให้กับเด็กน้อยคนนี้แล้วเธอก็รีบออกจากห้องของผมไป