“ ผมคิดว่า เวลานี้เหมาะสมสุดครับนาย ” เทพที่คิดว่าตอนนี้น่าจะเป็นเวลาที่สมควรแล้ว เขาจึงต่อสายหานายของตัวเองทันที
“ อืม ที่เหลือกูจะจัดการต่อเอง ” ทั้งสองพูดคุยกันเพียงไม่กี่ประโยคก็วางสายจากกัน
มาร์คเกอร์ที่ได้รับข่าวดีจากเทพ หลังจากที่เขาวางสายลูกน้องของตัวเอง มาเฟียหนุ่มที่นั่งดื่มอยู่กับผู้หญิงที่เคเดนจัดหามาให้ในตอนนี้ เขาก็ยิ้มออกกมาอย่างอารมณ์ดี อีกไม่กี่วัน เด็กน้อยของเขาก็จะต้องมาอยู่กับเขาอย่างเเน่นอน
“ คุณมาร์คเกอร์อารมณ์ดีจังเลยนะคะ ” หญิงสาวที่ถูกจ้างมาบำเรอกามให้กับเขาถามเขา แต่เธอก็ไม่ได้รับคำตอบจากเขา
“ ทำหน้าที่ของเธอสะ ” มาเฟียหนุ่มพุดเพียงเท่านี้ และคืนนี้เขาก็ถูกผู้หญิงคนนี้สนองความต้องการให้เขาอย่างถึงใจ
สามวันต่อมา
บริษัท มาคินสันต์ กรุ๊ป
สองผัวเมียคนที่เขารอ มาขอพบเขา ซึ่งเขาไม่ปฏิเสธ เพราะประธานหนุ่มที่นั่งตรงโต๊ะทำงานได้รออยู่แล้ว เพียงเพ็ญและเทพ ถูกคนของเขาไปเชิญเมื่อวันก่อน แต่สองคนนี้เพิ่งจะมาขอพบเขาวันนี้
“ สวัสดีค่ะ คุณมาร์คเกอร์ ”
“ สวัสดีครับ ”
แม่ขององุ่นและสามีใหม่ของเธอยกมือไหว้ผม ทั้งๆที่มีอายุมากกว่า ทำให้ผมต้องยกมือไหว้แม่ของเธอกลับ
“ ครับ ” มาร์คเกอร์ไหว้แม่ขององุ่นพอเป็นพิธี แล้วแม่ของเธอก็พูดเข้าประเด็นทันที
“ คุณมาร์คเกอร์ต้องการคุยกับฉันเรื่องหนี้สินใช่มั้ยคะ ” คงไม่พ้นเรื่องนี้ เพียงเพ็ญเลยเข้าประเด็นทันที
“ ครับ เข้าเรื่องเลยละกันนะครับ ” ในเมื่อแม่ของเธอพูดเข้าประเด็นมาขนาดนี้แล้ว ตัวเขาเองคงไม่อ้อมค้อม
“ ตอนนี้คุณเป็นหนี้ผมมากกว่าร้อยล้าน ไม่รวมที่กู้จากบ่อน ผมต้องการทราบว่าคุณทั้งสองคนจะสามารถชำระหนี้ก้อนนี้ให้ผมได้ช่วงไหน ผมเป็นนักธุรกิจคงจะต้องขอความชัดเจน ”
ประธานหนุ่มพูดในส่วนของบริษัทขึ้นมาก่อน แค่ก็ทำให้เพียงเพ็ญถึงกับหน้าชีดเพราะเธอไม่สามรถตอบได้ ความเงียบของอีกฝ่ายทำให้ประธานหนุ่มถึง
กับต้องยกยิ้มที่มุมปาก เพราะคิดว่าทางนั้นน่าจะปฏิเสธเขาอีกไม่ได้
“ ว่าไงครับ คุณเพียงเพ็ญ คุณเทพ ”
น้ำเสียงที่ออกจากปากประธานหนุ่มคนนี้ถึงแม้จะเป็นน้ำเสียงนิ่งๆ แต่มันก็แอบแฝงความกดดันให้กับเพียงเพ็ญได้เป็นอย่างมาก
“ คือ ฉันขอเวลาสักหน่อยได้มั้ยค่ะ ”
หญิงวัยกลางคนตรงหน้ากำลังพูดขอความเห็นใจจากเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ในตำแหน่งประธานหนุ่ม
“ ขอเวลา ผมคงรอนานไม่ได้หรอกครับ แต่ผมคิดว่า ผมมีข้อเสนอ และคิดว่า ข้อเสนอนี้ของผมคงดีต่อคุณ ”
ประธานหนุ่มพูดทางออกให้กับคนตรงหน้า และดูท่าทางอีกฝ่ายว่าให้ความสนใจขนาดไหน แต่เท่าที่เขาประเมินดูแล้ว คนตรงหน้าดูจะสนใจในข้อเสนอที่เขากำลังจะพูดต่อ ทำให้ประธานหนุ่มได้พูดประโยคต่อมา
“ ผมจะไม่อ้อมค้อมนะครับ ผมต้องการลูกสาวของคุณ ให้เธอหมั้นกับผม แล้วปัญหาทางธุรกิจที่คุณกำลังเจออยู่ ผมจะช่วยเอง “
นี้คือคำพูดที่ออกมาจากปากของประธานหนุ่ม ซึ่งเพียงเพ็ญก็ดูตกใจพอสมควร เธอนิ่งไปจน ผู้ชายที่นั่งด้านข้างเธอ ในฐานะสามีคนใหม่ ต้องเรียกและพูดกล่อมเธอ
” คุณ คุณ ผมว่าข้อเสนอนี้ก็ดีนะครับ เราสองคนคงทำอะไรไม่ได้แล้ว ในบริษัท ยกหนูองุ่นให้เป็นคู่หมั้นคุณมาร์คเกอร์เพื่อช่วยบริษัทเราให้อยู่รอดดีมั้ยครับ เรามีแต่ได้กับได้ “
เทพที่มองหน้าผู้เป็นนายของตัวเอง เขาจึงรีบพุดกล่อมเพียงเพ็ญทันที
” เรื่องนี้ฉันขอปรึกษาลูกก่อนได้มั้ยค่ะ “
เพียงเพ็ญที่ไม่อยากให้ชีวิตของลูกสาวตัวเองต้องมาผูกมัดอะไรเเบบนี้ เธอเลยต้องไปปรึกษาองุ่นก่อน เพราะนั้นคือชีวิตของลูกสาวเธอ ถึงแม้ว่าข้อเสนอนี้มันจะทำให้ทางเธอมีแต่ได้กับได้ก็ตาม
” ผมคงไม่มีเวลารออะไรขนาดนั้น คุณก็น่าจะรู้ดี ผมไม่มีทางยอมอะไรมากขนาดนี้ แต่ที่ผมยื่นข้อเสนอนี้ให้กับทางคุณ เพราะเห็นแกลูกสาว ของคุณ หากเธอหมั้นกับผม บริษัทก็ยังเป็นของครอบครัวคุณอยู่ ผมอยากให้คุณคิดเเละตัดสินใจดีๆ เพราะบางทีผมอาจจะไม่ต้องการมันก็ได้ หากมันช้าเกินไป “
ก็ผมคือประธานใหญ่และมาเฟีย จึงรู้ดีว่า ดีลนี้มันจะจบแบบไหน แน่นอนความคำพูดของผมมันทำให้อีกฝ่ายคิดหนักมากพอสมควร หากแม่ของเธออยากรักษาบริษัทก็ต้องทำอย่างที่ผมคิดไว้
” ค่ะ ฉันตกลงจะให้องุ่นหมันกับคุณ แต่ฉันขอพูดอะไรสักอย่างในฐานะ แม่ได้มั้ยค่ะ “
ในเมื่อทุกอย่าง ตอนนี้ ทำให้เธอต้องตัดสินใจ เพียงเพ็ญจึงต้องตัดสินใจ เพราะคิดว่า วิธีนี้ จะทำให้ครอบครัวของเธอยังมีสิทธิในการทำงานนี้อยู่
” ครับ “ คำตอบที่ออกมาจากปากของ ว่าที่แม่เมียขอองเขา ช่างเป็นคำตอบที่พึงพอใจมากสำหรับเขา
” องุ่นยังเด็กเกินไป หากวันหนึ่งที่เธอทำอะไร ที่ไม่ถูกไม่ควร คุณอย่าถือโทษโกรธเธอเลยนะคะ ฉันขอแค่นี้ “
เพียงเพ็ญที่พอจะรู้นิสัยของลูกสาวตัวเองเป็นอย่างดี และรู้ดีว่า องุ่น คงไม่เห็นด้วยแน่ๆที่เธอทำเเบบนี้ แต่ในเมื่อตอนนี้เพียงเพ็ญไม่ได้มีทางเลือก เธอก็ได้แต่หวังว่าลูกสาวจะยอม
” ครับ ผมรู้ “ ก็เขาตามดูเด็กน้อยของเขามานานพอสมควร ทำไมจะไม่รู้ว่า เธอแก่นขนาดไหน
” ค่ะ ขอบคุณ นะคะที่ช่วยทางเรา ส่วนหนี้สินที่บ่อน ฉันจะรีบหามาใช้และอยากจะขอไม่ให้คุณมาร์คเกอร์พูดเรื่องนี้กับลูกสาวของฉันได้มั้ยค่ะ “
เธอคงต้องรีบหาเงินมาปิดหนี้ที่ก่อขึ้นมา เพราะไม่อยากให้องุ่น ต้องมารับรู้อะไรในส่วนนี้ แค่เรื่องที่องุ่นต้องเป็นคู่หมั้น คุณมาร์คเกอร์คนเป็นแม่อย่างเพียงเพ็ญก็รู้สึกผิดต่อองุ่นมากๆแล้ว
“ ครับ ผมรับปาก เอาตามที่คุณเพียงเพ็ญสบายใจได้เลย แต่ผมมีเรื่องที่จะต้องพูด เพื่อความชัดเจน “
ในเมื่อเขาให้แม่เธอได้ สิ่งที่เขาขอ แม่ขององุ่น ก็ต้องให้เขาได้เหมือนกัน เพราะเขาไม่มีทางที่จะโดนเอาเปรียบได้อย่างเเน่นอน
” น้องจะต้องย้ายมาอยู่กับผมเลย ทุกอย่างของน้องหลังจากนี้ ผมจะเป็นคนดูเเลต่อเอง “
ในเมื่อเธอก็จะมาหมั้นกับผมแล้ว ผมแค่อยากทำความรู้จักกับเธอให้สนิทกันก่อน
” เอ่อ เรื่องนี้ “
เพียงเพ็ญลำบากใจที่จะต้องตอบรับความต้องการของชายหนุ่มตรงหน้าเธอ มันเลยทำให้เธออึกอักใจที่จะตอบ มาร์คเกอร์ที่เห็นอีกฝ่าย ไม่อยากที่จะตอบ เขาจึงรวบรัดเอาสะเลย
” หวังว่าคุณคงไม่ปฏิเสธ แล้วผมจะส่งคนไปขนของน้อง ภายในอาทิตย์นี้ “
ใจจริงเขาอยากจะขนของเธอมาตั้งแต่วันนี้เลยด้วยซ้ำ แต่คงต้องรอให้แม่ลูกไปคุยกันก่อน เพราะฉะนั้นเขาเลยต้องให้เวลา เพราะอีกแค่อาทิตย์เดียว ผมจะมีพวงองุ่นมาเด็ดกินเเล้ว
” ค่ะ งั้นฉันขอตัวเลยนะคะ “
เธอคงต้องกลับไปเริ่มคุยกับลูกสาวของเธอ และคิดว่า หากอยู่ต่อมันอาจจะมีข้อตกลงเพิ่มขึ้น เพราะมาร์คเกอร์อาจจะมีอะไรอีกก็ได้
” ครับ “
หลังจากที่แม่ของเธอกลับไปแล้ว มาร์คเกอร์ที่ไม่ค่อยจะเห่อการมีเมียเด็กเท่าไหร่ เขาก็ให้ลูกน้องและเลขาหน้าห้องของเขาไปจัดการซื้อข้าวของสำหรับเด็กน้อยของเขา ไปไว้ที่เพนท์เฮ้าส์ของเขา