เพียงเพ็ญและสามีใหม่ของเธอกลับมาที่บ้านหลังจากที่ไปพบมาร์คเกอร์ เป็นช่วงเวลาบ่ายพอดี เธอมีอาการคิดหนักมากๆเพราะไม่รู้ว่าเธอจะคุยเรื่องนี้กับลูกสาวของตัวเองยังไง
“ อย่าเพิ่งคิดมากไปเลยครับ คุณเพ็ญ ผมว่าหนูองุ่นเธอจะต้องเข้าใจกับสถานการณ์ตอนนี้ ”
เทพ พยายามพูดเพื่อเกลี้ยกล่อมให้แม่ขององุ่น ทำให้สำเร็จ เพราะเขามั่นใจว่า ยังไงองุ่นก็ต้องยอม แต่ถึงแม้องุ่นไม่ยอม เธอก็ปฏิเสธในการหมั้นกับผู้เป็นนายของเขาไม่ได้เเล้ว
“ ฉันก็หวังว่าลูกจะตกลง ”
เธอก็คงทำได้แค่พยายามให้องุ่นเห็นด้วยและตกลงง่ายๆ ถึงแม้ความเป็นไปได้จะน้อยมาก เพราะองุ่นเป็นเด็กที่มีความคิดเป็นของตัวเอง
ช่วงเย็น
องุ่นกลับมาจากโรงเรียนในช่วงเย็นก็พบกับ แม่ของเธอ ที่นั่งอยู่ภายในห้องรับแขก เด็กสาวร่างเล็กจึงเดินเข้าไปยกมือไหว้ผู้เป็นแม่ของตัวเองทันที
“ คุณแม่สวัสดีค่ะ ” เด็กสาวเดินเข้ามาแล้ว ก็ยกมือไหว้แม่ของตัวเองทันที
“ จ๊ะ องุ่นแม่มีเรื่องอยากคุยกับเราสักหน่อยจะได้มั้ย ”
เพียงเพ็ญที่นั่งรอลูกสาวของตัวเองอยู่สักพักแล้ว อองุ่นเดินทางกลับมาถึง เธอจึงรวบรวมความกล้าที่จะพูดคุยกับลูกสาวของตัวเอง
“ ได้ค่ะ ”
เด็กสาวนั่งลงที่โชฟาตรงที่ข้างๆผู้เป็นแม่ของตัวเอง แล้วมองไปที่ใบหน้าของผู้เป็นแม่ เพื่อรอฟังเรื่องที่แม่ของเธอจะคุยด้วย ต้องบอกเลยว่าตั้งแต่แม่ของเธอมีสามีใหม่ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่ค่อยเหมือนเดิม เนื่องจากแม่ของเธองานเยอะ
“ คือ ตอนนี้ที่บริษัทของเรามีปัญหามาสักพักเเล้ว และแม่ก็ประคองมาจนตอนนี้ไม่ไหว ทำให้บริษัทของเราเป็นหนี้จำนวนมาก ”
เพียงเพ็ญเริ่มพูดเกี่ยวกับปัญหาให้ลูกของเธอได้ฟัง แล้วดูเหมือนว่า องุ่นก็เข้าใจในปัญหานี้ เธอนั่งเงียบและฟัง ในสิ่งที่ผู้เป็นแม่พูด ทำให้เพียงเพ็ญที่เห็นในความเข้าใจของลูกสาว เธอจึงพูดต่อ
“ แม่อยากขอร้องให้ลูกหมั้นกับ คุณมาร์คเกอร์เพื่อประคอง ธุรกิจของครอบครัวเราได้มั้งลูก ”
คำพูดที่ออกมาจากปากแม่ของเธอ ทำให้องุ่นถึงกับเงียบไป เพราะเธออายุเพียงเท่านี้ เเม่ของเธอจะให้เธอหมั้นแล้วเหรอ
“ เราไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอคะ ”
แน่นอนเธอไม่มีทางเห็นด้วย ในสิ่งที่แม่ของเธอพูดมา ถึงแม้ว่าเธอจะเคยเจอ คุณมาร์คเกอร์มาแล้ว และรู้ว่าเขาหล่อและรวยมากขนาดไหน แต่เธอยังไม่พร้อมที่จะเอาชีวิตเธอไปผูกอยู่กับใคร
“ ข้อเสนออื่น คงไม่มีแล้ว ทางนั้นยื่นข้อเสนอนี้มาเพียงแค่ข้อเสนอเดียว และตอนนี้บริษัทของเราก็เป็นหนี้ทางนั้นมากอยู่ ” นี้คืออีกหนึ่งเหตุผลที่เพียงเพ็ญต้องพูดเพื่อให้ลูกสาวยอมหมั้น
“ เท่าไหร่คะ เราเป็นหนี้เขาอยู่เท่าไหร่ ” มาถึงขนาดนี้แล้ว เธอเองก็คงจะต้องรู้ และไม่ว่ายังไง เรื่องนี้เธอก็ไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน เพราะเธอคิดว่า มันต้องมีทางออกที่ดีกว่านี้
“ เกือบ ร้อยห้าสิบล้าน ” เพียงเพ็ญพูดแบบไม่เต็มเสียง เพราะเงินจำนวนนี้มันเยอะมาก
“ งั้นหนูจะไปคุยกับเขา ”
องุ่นอึ้งไปกับจำนวนเงินหนี้เป็นอย่างมาก เธอพูดกับแม่ของเธอจบ เด็กสาวก็ลุกออกจากตรงนี้ไปทันที และสถานที่ ที่องุ่นจะไปคงไม่พ้น บริษัทของมาร์คเกอร์ เธอไม่รู้หรอกว่า อีกฝ่ายจะอยู่ที่นั้นรึป่าว แต่ที่เดียวที่เธอรู้ คือที่นั้น
บริษัท มาคินสันต์ กรุ๊ป
องุ่นเดินทางมาที่บิษัทของมาร์คเกอร์ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เธอเดินเข้ามาที่บริษัทของเขาก็เจอกับพนักงานที่อยู่ตรงจุดต้อนรับ เธอจึงเดินเข้าไปที่ตรงนั้นทันที
“ สวัสดีค่ะ มาติดต่อเรื่องอะไรค่ะ ” พนักงานสาวคนนี้ ทักทายคนที่มาใหม่ตามมารยาทและถามเด็กผู้หญิงคนนี้
“ หนูมาขอพบ คุณมาร์คเกอร์ค่ะ ” เธอพูดความต้องการของตัวเองออกมาทันที
“ ท่านประธานเหรอคะ ได้ทำการนัดไว้รึป่าวคะ ” พนักงานคนนี้ถามเธอ
“ ป่าวค่ะ ” ใครจะไปนัดกัน เธอไม่อยากมาที่นี้ด้วยซ้ำ หากไม่มีเรื่อง
“ ถ้าไม่นัดเกรงว่า จะเข้าพบไม่ได้วันนี้นะคะ ” เท่าที่รู้คนที่มาขอพบท่านประธานของบริษัทจะต้องนัดก่อน
“ ถ้างั้น ช่วยติดต่อลูกน้องของเขาก็ได้ค่ะ ว่าหนูองุ่น มาขอพบ มีธุระด่วนมากๆอยากจะคุย ” เธอจำได้ว่ามาเฟียหนุ่มคนนี้มีลูกน้องมากมาย ในเมื่อพบคนเป็นนายไม่ได้ ก็ฝากเรื่องกับลูกน้องของเขาแล้วกัน
“ ได้ค่ะ ถ้างั้นหนูรอสักครู่นะคะ ”
ดูท่าเด็กคนนี้ น่าจะมีเรื่องสำคัญมากจริง พนักงานตรงนี้เลยทำตามความต้องการของเด็กสาวคนนี้ โดยการติดต่อไปที่ เคเดน ลูกน้องที่ตัวติดกับท่านประธาน
“ คุณองุ่นรอสักพักนะคะ เดี๋ยวคุณเคเดนลงมารับ ”
หลังจากที่พนักงานคนนี้วางสายไป เธอก็หันมาพูดกับองุ่นดีกว่าเดิม องุ่นไม่รู้หรอกว่าทำไม เธอไม่มีเวลามาสนใจอะไรอยู่แล้ว เพราะคนที่เธอต้งการพบ คือ มาร์คเกอร์เพียวเท่านั้น
องุ่นรอคนของมาร์คเกอร์เพียงไม่นาน ลูกน้องของเขาคนนี้ก็เดินออกจากลิฟต์มาที่เธอยืนอยู่
“ คุณองุ่น สวัสดีครับ ท่านประธานรอคุณอยู่ที่ห้องทำงานครับ ” เคเดนที่ได้รับสายจากพนักงานด้านล่างว่า เธอมา เขาก็รายงานเจ้านายของตัวเองทันที
“ ค่ะ สวัสดีค่ะ ” เธอรู้ดีว่า คนตรงหน้าเธอมีอายุมากกว่าเธอ ทำให้องุ่นทักทายเขาด้วยความสุภาพร เเล้วเด็กสาวก็เดินตาม คนของเขาเข้าลิฟต์ไป เพื่อขึ้นมาที่ห้องทำงานของเขา เธอเคยมาที่นี่แล้วครั้งหนึ่ง เลยรุ้ว่า ห้องไหนคือห้องของเขา องุ่นเดินตามคนของเขามาจนถึงหน้าห้อง
“ เชิญคุณองุ่นด้านในครับ นายรออยู่แล้ว ” เคเดนเปิดประตูห้องทำงานของนายตัวเองแล้ววผายมือให้กับ ว่าที่นายหญิงของตัวเอง
“ ขอบคุณค่ะ ” เธอบอกกับลูกน้องของเขา ครั้งที่แล้วที่เธอมาที่นี้ เธอยอมรับว่าเธอมีความกลัวมากพอสมควร แต่ครั้งนี้บอกเลยว่า เธอไม่มีความกลัวอะไรเลย องุ่นเดินเข้ามาภายในห้องทำงานของเขา ดวงตากลมสวยก็มองไปที่ชายหนุ่มที่ท่าทางจะชิลมาก นั่งดื่มไวน์อย่างอารมณ์ดีอยู่ที่โซฟาตัวสีดำตัวใหญ่ ที่อยู่มุมห้อง เธอเลยเดินมาที่ตรงหน้าเขา โดยที่ครั้งนี้ตัวเขาไม่ต้องบอกหรือเชิญเธอแต่อย่างใด เพราะองุ่นอยากที่จะรีบมาคุยแล้วรีบกลับ
“ คุณมาร์คเกอร์คะ ฉันจะมาคุยเรื่อง ” ยังไม่ทันที่องุ่นจะพูดเข้าเรื่องที่เธอต้องการจะคุยเลย มาร์คเกอร์ก็พูดขึ้นมาสะก่อน
“ เธอควรเรียกฉันว่า เฮียมาร์คนะ และควรแทนตัวเธอว่า หนูเหมือนครั้งก่อน ”
ที่ผมต้องพูดขึ้นมาก่อน เพราะสรรพนามที่เธอเรียกนั้นไม่เพราะหูเลยยังไงละ ยัยเด็กนี้ ทำเหมือนว่าเราจะไม่ใช่ผัวเมียกัน
“ หนูว่าคงไม่ดีหรอกคะ ”
เธอยอมแทนตัวว่า หนูได้ เพราะเธอมีอายุที่น้อยกว่าชายตรงหน้าหลายปี แต่ถ้าจะให้แทนตัวเขาว่า เฮียมาร์คอย่างที่เขาต้องการ เธอว่ามันน่าจะไม่เหมาะสม
“ เรียกว่าที่ คู่หมั้นยังเหมาะสมเลย แค่คำว่าเฮียคงไม่เป็นไรหรอก ”
ผมรู้อยู่แล้วว่าที่เธอมาขอพบผมเพราะอะไร คงจะไม่พ้นเรื่อง เธอจะต้องหมั้นกับผมและย้ายมาอยู่ด้วยกันอย่างเเน่นอน
“ ไม่มีทาง ที่หนูมาวันนี้ หนูแค่จะมาบอกว่า หนูไม่เห็นด้วย เรื่องนี้และก็จะไม่หมั้นเด็ดขาด เงินที่ทางครอบครัวของหนูเป็นหนี้ หนูขอเวลา แล้วจะรีบหามาใช้คุณให้ไวที่สุด ”
เธอไม่รู้หรอกว่าจะเอาเงินจำนวนมากๆขนาดนี้มาจากไหน ก็คนมันไม่อยากหมั้น คนไม่รักไม่ชอบกันจะมาหมั้นกันได้ไง
“ เธอคิดดีแล้ววที่จะทำแบบนี้ “
ในเมื่อเด็กมันต่อต้าน ผมก็จะต้องแสดงบทโหดกับเธอ ประธานหนุ่มพูดจบเขาก็ลุกขึ้นแล้วไปประชิดตัวเธอทันที แขนของมาร์คเกอร์รั้งไปที่เอวบางของเด็กน้อยในชุดนักเรียนตรงหน้าเขาหาตัวเขาทันที
” คุณ “ องุ่นที่ตกใจกับการกระทำของเขาเป็นอย่างมาก ดวงตากลมสวยถึงกับเบิกกว้างและเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม