คนรัก

1642 คำ
บทที่ 2 คนรัก ณิชาที่กำลังจะก้าวขาเข้าไปในบ้านหยุดชะงัก เมื่อหางตาเหลือบไปเห็นรองเท้าสีสันสดใสแปลกตาคู่หนึ่งที่ถอดเอาไว้ข้าง ๆ เฉลียงบ้าน จำได้ว่าเมื่อเช้าก่อนจะออกไปซื้อของข้างนอก ไม่มีรองเท้าคู่นี้อยู่ในบ้านและไม่ใช่ของดวงใจอย่างแน่นอน กันตยศที่เดินตามหลังมาติด ๆ ก็หยุดชะงักตาม ก่อนจะเอ่ยถามแกมบ่นเมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ข้างหน้าหยุดยืนนานเกินไป “มีอะไร รีบ ๆ เดินเข้าไปสิ มันหนักนะเนี่ย” ครั้นยังไม่เห็นเพื่อนสาวไหวติง กันตยศก็เดินไปส่องหน้า แล้วหันไปมองตามสายตาของณิชาที่จ้องอะไรบางอย่างอยู่ “รองเท้าใครวะ สีโคตรแจ่ม...” ชายหนุ่มรีบหุบปากฉับ เมื่อเห็นสีหน้าหม่นเศร้าของเพื่อน พอจะเดาได้ลาง ๆ ว่ารองเท้าส้นสูงคู่นี้เป็นของใคร “โอเคปะเนี่ย” กันตยศยื่นมือไปแตะไหล่หญิงสาวเบา ๆ พร้อมถามด้วยความเป็นห่วง “โอเคสิ” ณิชาหันมาพยักหน้าพลางฝืนส่งยิ้มให้ แต่มีหรือที่อีกฝ่ายจะดูไม่ออกว่าเธอไม่ได้รู้สึกโอเคอย่างที่พูด “เขามาบ่อยไหม” ถามพร้อมบุ้ยใบหน้าลงไปยังรองเท้าสีสันสดใส เพื่อให้เธอรู้ว่าเขาหมายถึงใคร พลันนึกหงุดหงิดให้คนที่เป็นสามีของณิชา ทำไมถึงได้พาผู้หญิงอื่นเข้ามาในบ้านซึ่งเป็นการหยามศักดิ์ศรีของภรรยาขนาดนี้ เรื่องไม่รักก็พอจะเข้าใจ แต่ก็น่าจะถนอมน้ำใจกันบ้าง อย่างน้อย ๆ ครั้งหนึ่งทั้งคู่ก็เคยมีมิตรภาพดี ๆ ให้แก่กัน “ไม่บ่อย” ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันในบ้านหลังนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เปียวดีมาหาวินทร์ถึงบ้าน แน่นอนว่าณิชาไม่มีสิทธิ์พูดอะไร เพราะนี่คือบ้านของเขา เธอจึงทำได้เพียงปั้นหน้ายิ้มและต้อนรับอีกฝ่ายด้วยความยินดี “รีบเข้าบ้านกันดีกว่า เดี๋ยวนายจะไปพบลูกค้าสาย” กันตยศพยักหน้า ถอดรองเท้าแล้วเดินตามเพื่อนสาวเข้าไปในบ้าน วินทร์ที่กำลังนั่งคุยกับเปียวดีบนโซฟาในห้องรับแขกหันมามอง คิ้วเข้มขยับเข้าหากันเมื่อเห็นว่ามีชายอีกคนเดินเข้ามากับภรรยาของตนด้วย “พี่วินทร์ พี่เปียว หวัดดีฮะ” กันตยศยกมือไหว้หนุ่มสาวซึ่งเป็นรุ่นพี่ทั้งสองคนด้วยท่าทางเป็นกันเอง เพราะเคยเรียนมหา’ลัยที่เดียวกัน และตอนที่วินทร์ขับรถมารับณิชาที่คณะ เขาก็มักจะได้รับอานิสงส์ติดรถไปลงป้ายรถเมล์ใกล้บ้านเป็นประจำ บ่อยครั้งที่มีเปียวดีติดรถมาด้วย จึงทำให้เขาสนิทสนมกับรุ่นพี่ทั้งสองคน และถึงแม้ว่าตอนนี้ในใจเขาจะมีความขุ่นเคืองเพราะเรื่องราวที่เพิ่งได้รับรู้จากณิชาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ หากแต่เขาก็รู้ว่าควรวางตัวอย่างไร ที่จะทำให้เพื่อนสาวซึ่งเป็นคนกลางไม่รู้สึกอึดอัด ครั้นเห็นว่าวินทร์กับเปียวดีมองกันตยศคล้ายจำไม่ได้ ณิชาจึงรีบแนะนำ “กันต์ค่ะ กันต์เพื่อนของชาตอนเรียนมหา’ลัย” “อ๋อ...จำได้ละ ดูดีขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย” เปียวดีลากเสียงยาวแล้วเอ่ยขึ้น ส่วนวินทร์นั้นยังคงนิ่ง สายตาจดจ้องไปที่กันตยศ ไม่มีใครรู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ไม่นานเขาก็ละสายตาจากชายหนุ่มรุ่นน้อง หันไปพูดกับคนรักของตน “ไปกันเลยไหม” “ก็ได้ หิวแล้วเหมือนกัน ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าเลย” เปียวดีว่าพลางลูบท้องของตัวเองไปด้วย เธอตั้งใจจะมาชวนวินทร์ออกไปกินข้าวข้างนอก และมาโดยไม่ได้บอกเจ้าของบ้านก่อน หากพอมาถึงแล้วกลับพบว่าเขาไม่สามารถออกไปได้เพราะต้องอยู่กับลูกน้อย ถึงแม้จะมีแม่บ้านอยู่ด้วย แต่ชายหนุ่มก็ไม่สบายใจ ถ้าต้องทิ้งลูกไว้บ้านแล้วตนออกไปกินข้าวข้างนอก เขาจึงบอกคนรักว่ารอให้ณิชากลับมาเสียก่อน วินทร์พยักหน้าเบา ๆ แล้วบอกต่อ “นั่งรอวินทร์อยู่นี่แป๊บนึงนะ ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน” “เปียวขึ้นไปด้วยได้ไหม” เปียวดีเอ่ยขอ ด้วยอยากเห็นห้องนอนเขาสักครั้ง เพราะตั้งแต่ที่เขาย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้ เธอยังไม่เคยได้เหยียบย่ำขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านเลย ณิชาเผลอกำสายสะพายกระเป๋าตัวเองเมื่อได้ยินคำขอนั้น สายตาล่อกแล่กด้วยไม่รู้จะวางสีหน้าอย่างไร และคิดว่าควรพาตัวเองออกไปจากตรงนี้ได้แล้ว กันตยศที่มองออกว่าเพื่อนสาวรู้สึกอย่างไรรีบเอ่ยขึ้น “ให้เอาวางไว้ไหนเนี่ย หนักนะเว้ย” ถามพร้อมเอียงไหล่กระทบกับไหล่หญิงสาวเบา ๆ เพื่อให้เธอได้สติ “นะ...ในครัว เอาเข้าไปในครัวเลย” ณิชาบอกเสียงติด ๆ ขัด ๆ พลางรีบตั้งสติ “ครัวอยู่ไหน เดินนำไปสิ” “ทางนี้ ๆ” บอกจบ หญิงสาวก็รีบเดินนำกันตยศเข้าไปในห้องครัวทันที ก่อนจะยกมือไหว้แม่บ้านวัยกลางคนที่กำลังนั่งซักผ้าอ้อมอยู่ลานซักล้างหลังบ้าน พร้อมแนะนำให้ดวงใจได้รู้จักเพื่อนของตน “ขนมเอาเข้าตู้เลย ส่วนขอใช้อื่น ๆ เดี๋ยวเราถือขึ้นข้างบนเอง” “ใช้เก่ง” กันตยศแขวะเพื่อนที่ได้ทีก็สั่งเอา ๆ หากแต่มือก็ทำตามที่หญิงสาวบอกแต่โดยดี ก่อนจะนิ่วหน้าด้วยความสงสัยเกี่ยวกับของใช้ส่วนตัวของผู้หญิงสองชิ้นที่อยู่ในถุง แล้วถามออกไปทันที เพราะไม่อยากเก็บความสงสัยเอาไว้นาน “ชา เราข้องใจว่ะ ไอ้ผ้าอนามัยสองสีนี่มันต่างกันยังไง” ถามพร้อมชูห่อผ้าอนามัยให้อีกฝ่ายดู ณิชาหน้าแดงแปร๊ด ถึงเธอจะสนิทกับกันตยศมาก แต่ก็ไม่เคยถึงขั้นหยิบจับของใช้ส่วนตัวที่มันส่วนตัวจริง ๆ อย่างนี้ หากเธอก็ไม่ได้โกรธ เพียงแค่รู้สึกเขินอายเท่านั้น “สงสัยอะไรของนายเนี่ย” “เอ๊า ก็คนมันสงสัยนี่หว่า ตอบมาดิ” ชายหนุ่มเร่งเอาคำตอบ “กะ...ก็กลางวันกับกลางคืนไง มันต้องใช้ต่างกัน” “ทำไมอะ” เขายังคงถามต่อ อันที่จริงก็พอเข้าใจแล้วว่าขนาดและความหนามันต่างกัน แต่พอเห็นแก้มแดง ๆ ของเพื่อนสนิท หากมันพอจะช่วยให้เธอลืมเรื่องหมองเศร้าก่อนหน้านี้ได้ เขาก็อยากแกล้งต่ออีกสักหน่อย “ทำไมต้องใช้ต่างกันอะ กลางวันมันจะมาน้อย กลางคืนมันจะมามากงี้เหรอ” “ชา” เสียงเข้มที่ดังมาจากประตูห้องครัว ทำให้ณิชาละความสนใจจากคำถามของเพื่อนสนิทแล้วหันไปมอง “คะ ?” วินทร์ปรายตามองกันตยศที่หันมามองเขาเหมือนกันแวบหนึ่ง ก่อนจะเบนสายตากลับไปมองคนที่เขาเรียกอีกครั้ง แล้วเอ่ยขึ้นเสียงนิ่งเรียบ “ฉันจะออกไปข้างนอก เสร็จจากตรงนี้แล้วรีบออกไปดูลูกด้วย” “อ๋อ...ได้ค่ะ” ณิชารับคำ แล้วเบียดริมฝีปากเข้าหากันนิด ๆ ด้วยไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อ เธออยากถามว่าเขาจะไปไหน หรือจะกลับกี่โมง หากแล้วเธอก็เลือกที่จะไม่เอ่ยถาม เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา วินทร์ไม่พูดอะไรไปมากกว่านั้น เขาปรายตามองเพื่อนสนิทของภรรยาอีกครั้ง เพียงครู่เดียวเขาก็เดินออกไปเลยทันที ไม่นานก็ได้ยินเสียงเปิดรั้วบ้าน ก่อนจะตามด้วยเสียงรถยนต์ที่ขับออกไป “ไม่ไหวก็อย่าฝืน” กันตยศเอ่ยขึ้นคล้ายพูดลอย ๆ เมื่อเห็นแววตาหม่นเศร้าของเพื่อน พร้อมเก็บห่อผ้าอนามัยเข้าถุงตามเดิม เมื่อก่อนณิชาเคยสดใสมากกว่านี้ เขาไม่ชินและไม่ชอบเลยที่เห็นเธอไร้ความสดใสแบบนี้ “ขอบคุณนะ” ณิชาฝืนยิ้มให้ กล่าวคำขอบคุณออกมาอย่างจริงใจ ถึงแม้ว่ากันตยศจะปากเสียและทำตัวห่ามไปบ้าง แต่เธอสัมผัสได้ถึงความจริงใจที่เขามีให้เธอเสมอมา “ชา” จู่ ๆ เขาก็เรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น “หือ ?” “เราขอถามอะไรเธอหน่อยได้ไหม” “ได้สิ” หญิงสาวพยักหน้า มองหน้าอีกฝ่ายเพื่อรอว่าเขาจะถามอะไร “คิดจะอยู่แบบนี้ไปถึงเมื่อไร” ณิชาถึงกับนิ่งไปเมื่อได้ยินคำถามของเพื่อนสนิท ซึ่งเป็นคำถามที่เธอเฝ้าถามตัวเองอยู่เหมือนกัน ไม่มีใครชอบและไม่อึดอัดหรอกที่ต้องอยู่ในสภาวะแบบนี้ เธอรู้ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้แล้วว่าที่นี่มันไม่ใช่ที่ของเธอ ไม่มีอะไรที่เป็นของเธอสักอย่าง ทว่าเธอก็ไม่สามารถตอบได้ว่าจะทนอยู่แบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน วินทร์ไม่ได้ใจร้ายกับเธอก็จริง แต่สายตาและความเย็นชาที่เขามอบให้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนคนใกล้จะขาดอากาศหายใจ หากเธอกลับมีลูกน้อยที่เปรียบเสมือนออกซิเจนถังเล็ก พอให้เธอได้มีอากาศหล่อเลี้ยงหัวใจตัวเองให้มีแรงอยู่ที่นี่ต่อไป...เพื่อลูก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม