ความเย็นชา 3

2165 คำ
ความเย็นชา “หาเวลาพักผ่อน ดูแลตัวเองบ้าง” ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงห่าม ๆ ทว่าเต็มไปด้วยความห่วงใย ก่อนจะเอ่ยต่อตามประสาคนปากเสีย “ตาคล้ำอย่างกับหมีแพนด้า” “คล้ำมากเลยเหรอ” ณิชาขมวดคิ้ว เปิดกระเป๋าผ้า หยิบมือถือออกมาเปิดกล้องหน้าเพื่อส่องดูขอบตาตัวเองว่าดำอย่างที่เพื่อนพูดหรือเปล่า “คล้ำมากเถอะ แล้วดูผิวหน้าดิ” ชายหนุ่มยื่นมือข้ามฝั่งไปจับใบหน้ารูปไข่ของหญิงสาวพลิกไปพลิกมา พิศมองอย่างสำรวจแล้ววิจารณ์ออกมาตรง ๆ อย่างไม่เกรงใจ “แห้งอย่างกับอะไร เป็นผู้หญิงจริงปะวะเนี่ย” “ก็เราไม่ค่อยมีเวลา” หญิงสาวยู่ปากเซ็ง ๆ เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า ไม่ได้ถือสาเรื่องที่โดนทักท้วงเรื่องผิวหน้าอย่างรุนแรงและอาจจะค่อนข้างหยาบคายสำหรับคนอื่น แต่สำหรับณิชา การที่โดนกันตยศทักอย่างนี้ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะตอนที่เรียนด้วยกัน เขาพูดแรงกว่านี้หลายเท่า นี่จึงถือว่าซอฟต์ที่สุดแล้ว “เออจริงด้วย ตอนที่ได้ข่าวว่าเธอจะแต่งงาน เราตกใจมากเลยนะเว้ย” ชายหนุ่มได้ยินข่าวเรื่องการแต่งงานของณิชาจากกลุ่มเพื่อนสมัยเรียนมหา’ลัย ที่ส่งต่อ ๆ กันมาเป็นทอด ๆ ซึ่งตอนที่รู้ เขาก็รู้สึกงง ๆ ด้วยคิดไม่ถึงว่าหญิงสาวจะแต่งงานเร็วขนาดนี้ มิหนำซ้ำยังแต่งกับ...คนที่เธอแอบชอบมานานแสนนาน “ถึงเธอจะไม่ได้ชวนเราไปร่วมงาน แต่ก็ยินดีด้วยนะเว้ย” เขาเอ่ยอย่างติดตลก กึ่งประชดกึ่งยินดี ไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก “มันกะทันหันน่ะ ไม่คิดว่าจะได้แต่งเหมือนกัน” ณิชาบอกพลางยิ้มเหย ๆ ไปให้แทนคำขอโทษที่ไม่ได้เชิญไปร่วมงาน การที่ได้แต่งงานกับวินทร์เป็นอะไรที่เธอไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นจริง หากเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมานั้น มีเรื่องเกิดขึ้นกับเธอมากมายจนเธอตั้งตัวไม่ทัน และเรื่องราวทั้งหมดนั้นก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของเธอ “ได้ข่าวว่าท้องด้วย เรื่องจริงปะ” กันตยศถามต่อด้วยความสงสัยใคร่รู้ ข่าวลือที่ได้ยินมานั้นยังคาใจ “จริง” ชายหนุ่มตาโตขึ้นด้วยรู้สึกอึ้งนิด ๆ ลากสายตาจากใบหน้าลงมาที่หน้าท้องแบนราบ คำนวณระยะเวลาคร่าว ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปถาม “อย่าบอกว่าคลอดแล้ว ?” “อือ คลอดแล้ว ได้สามเดือน” ณิชาพยักหน้าอีกครั้งพร้อมชูสามนิ้วโชว์เพื่อนชายที่ยังมีสีหน้าตื่นตะลึงไม่หาย “ชื่ออะไร ผู้หญิงหรือผู้ชาย แล้วออกมาแบบนี้ใครเลี้ยงลูกให้เธอ” “ชื่อหนูณิ เป็นผู้หญิง วันนี้พี่วินทร์อยู่บ้าน ก็เลยอยู่กับพี่วินทร์น่ะ” “อ๋อ...” กันตยศพยักหน้ารับรู้ แล้วหลุบตามองแก้วน้ำตรงหน้า จมอยู่กับความคิดของตัวเองครู่หนึ่ง ทว่าไม่นานก็เงยหน้าขึ้นเมื่อระบบเรียกคิวของทางร้านสั่นสะเทือน บ่งบอกว่าขนมที่สั่งไปพร้อมเสิร์ฟแล้ว “เดี๋ยวเราไปเอาให้เอง” “ไปด้วยกันดีกว่า เราสั่งไปสามอย่างแน่ะ นายยกมาคนเดียวไม่ไหวหรอก” ณิชาบอกแล้วรีบลุกขึ้นยืน ขณะที่กันตยศยังคงอึ้งกับประโยคที่หญิงสาวบอกว่าสั่งขนมไปสามอย่าง เท่าที่จำได้ ขนมร้านนี้มีแต่ไซซ์ใหญ่ สั่งมาอย่างเดียวแล้วแบ่งกันกินสองคนก็ไม่หมด “เธอสั่งเยอะไปปะวะ จะกินหมดเหรอ” เขาถามระหว่างเดินไปที่เคาน์เตอร์ด้วยกัน “ก็มันเลือกไม่ได้ว่าจะกินอะไร เราเลยสั่งมาทั้งหมดเลย” หญิงสาวยิ้มขำ พลางยื่นระบบเรียกคิวคืนให้พนักงาน แล้วรับถาดขนมมาถือ ก่อนจะเดินนำกันตยศกลับไปที่โต๊ะ “พนันกันไหมว่าเธอกินไม่หมดแน่นอน” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อยกขนมมาวางบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เขากวาดตามองขนมหวานตรงหน้า ก่อนจะนิ่วหน้าด้วยรู้สึกเลี่ยนลิ้นไว้รอ ถ้าเดาไม่ผิด ก็คงไม่พ้นเขาที่ต้องเป็นคนจัดการขนมที่เหลือแทนเธอ “ไม่พนัน เพราะไม่หมดอยู่แล้ว” ณิชาตอบอย่างไม่สะทกสะท้านใด ๆ เธอรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าอย่างไรก็กินไม่หมด แต่เพราะร้านนี้เป็นร้านที่เธอโปรดปรานมาก ๆ อันที่จริงเธออยากสั่งมากินทุกเมนู หากก็รู้ดีว่าทำอย่างนั้นไม่ได้ จึงตัดใจเลือกที่ชอบที่สุดมาเพียงแค่สามเมนู “เรากินไม่หมด นายก็กินช่วยสิ นี่เราสั่งเผื่อนายหรอก” “เธอก็เป็นแบบนี้ตลอดแหละ” คิดเอาไว้ไม่มีผิด ไม่ว่าจะอะไรก็ตามที่ณิชากินไม่หมด ก็ต้องกลายเป็นเขาซึ่งมีนิสัยชอบเสียดายของจัดการให้เธอทุกครั้ง กันตยศได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ก่อนจะหยิบมีดกับส้อมขึ้นมาหั่นฮันนี่โทสเข้าปากคำโต ๆ ณิชายิ้มขำกับสีหน้าแหยะ ๆ ของเพื่อน ส่ายหน้าเบา ๆ แล้วเริ่มตักไอศกรีมรสโปรดเข้าปากทันที นานแล้วเหมือนกันที่เธอไม่ได้กินของหวานร้านนี้ พอวันนี้มีโอกาสออกมาข้างนอก เธอก็เลยแวะเสียหน่อย กอปรกับรู้มาว่ากันตยศทำงานที่นี่พอดี เลยติดต่อไปเพื่อนัดให้ออกมากินขนมด้วยกันและถามไถ่ถึงความเป็นไปของอีกฝ่าย กินเสร็จก็เป็นเวลาบ่ายโมงพอดี ณิชาจึงเดินไปสั่งขนมปังกลับบ้านอีกสองชุด เอาไปฝากดวงใจหนึ่งชุด ส่วนอีกชุดเธอตั้งใจจะเอาไปฝากคนที่เป็นพ่อของลูก เพราะจำได้ว่าเมื่อก่อนเขาก็ชอบขนมร้านนี้เหมือนกัน แต่ถ้าเขาไม่กินหรือเลิกชอบไปแล้ว เธอก็จะเก็บไว้กินเองตอนเช้าของวันถัดไป “เจอกันที่หน้าร้าน...ทางออกชั้นสี่นะ รถเราจอดอยู่ที่นั่น เดี๋ยวแวบไปหยิบเอกสารแป๊บเดียว” กันตยศเอ่ยบอกหญิงสาวที่ยืนข้าง ๆ เมื่อเดินมาถึงทางแยกไปสำนักงาน ชายหนุ่มมีธุระออกไปข้างนอกพอดี ส่วนณิชาเองก็ไม่ได้ขับรถมา เขาจึงอาสาไปส่งเธอที่บ้าน จะได้แวะเข้าไปเล่นกับหลานน้อยด้วย จากนั้นถึงจะไปคุยกับลูกค้าที่นัดไว้ ซึ่งสถานที่นัดก็อยู่ห่างจากบ้านเธอไม่มากเท่าไร “โอเค” ณิชาพยักหน้ารับแล้วยื่นมือไปรับถุงของใช้ที่อีกฝ่ายถือให้ “เอาถุงมา เดี๋ยวเราถือเอง” “ไม่เป็นไร เธอเดินไปเลย เดี๋ยวเราถือไปให้ ไม่รู้ซื้ออะไรเยอะแยะ หนักฉิบ” ชายหนุ่มอดบ่นขึ้นมาไม่ได้ตามประสาคนปากไว แต่กระนั้นก็ไม่ยอมยื่นให้เธอเอาไปถือเองอยู่ดี “เนี่ย แล้วก็บ่นเรา” ณิชาย่นจมูกนิด ๆ เธอรู้ดีว่าเขาเป็นคนปากร้ายแต่ใจดี บ่นทุกเรื่องที่เธอทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ เขาก็มักจะบ่นเธอก่อนอันดับแรก แต่สุดท้ายก็ยอมช่วยเธอทุกที “เออน่า ไป ๆ เดินไปรอเลย สิบนาทีเดี๋ยวตามไป” ณิชาพยักหน้ารับ ก่อนที่กันตยศจะเดินแยกออกไปทางสำนักงาน ส่วนเธอก็เดินดูของไปเรื่อย ๆ กระทั่งถึงร้านอาหารใกล้ทางออกที่ชายหนุ่มบอก เธอยืนรออยู่ตรงนั้นราว ๆ สิบนาที ก็เห็นเพื่อนสนิทสะพายกระเป๋าเป้และหอบหิ้วถุงพะรุงพะรังของเธอมา “ปะ” เขาพยักหน้า เมื่อเห็นเธอพยักหน้าตอบจึงเดินนำออกไปยังอาคารจอดรถเลยทันที “ผ่อนหมดยังเนี่ย” ณิชาแกล้งถามเย้าแหย่เมื่อรถคันหรูขนาดสี่ที่นั่งของกันตยศแล่นออกสู่ถนนใหญ่มาได้สักพัก “โห ดูถูกว่ะ ระดับนี้แล้ว” ชายหนุ่มว่าอย่างโอ่ ๆ ยืดอกออกมานิด ๆ แล้วทำหน้าภูมิใจหน่อย ๆ คนที่นั่งข้าง ๆ เลยรับมุกด้วยการถามกลับ “จะบอกซื้อสด ?” “เปล่า เหลือผ่อนอีกสองปี” กันตยศตอบกลับเสียงเบาด้วยสีหน้าหงอย ๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะระเบิดหัวเราะออกมา ด้วยคิดถึงวันวานที่คอยตบมุกเฮฮาแบบนี้กันอยู่บ่อย ๆ ตอนแรกที่รู้จักกันณิชาก็ตามมุกของเพื่อนชายไม่ทัน ทว่าพอได้รู้จักกันมากขึ้น เธอก็เริ่มเรียนรู้และคอยส่งมุกให้เพื่อนเล่นเป็นประจำ “เอ้อ กลับมาเรื่องพี่วินทร์ของเธอ ตอนเรียนเราจำได้ว่าพี่เขามีแฟนไม่ใช่เหรอ พี่เปียวอะไรนั่นอะ เห็นรักกันดีนี่ แล้วเลิกกันไปตั้งแต่เมื่อไร” ชายหนุ่มถามอย่างเพิ่งนึกขึ้นมาได้ ทำเอาคนถูกถามนิ่งไปด้วยรู้สึกจุกในอกจนพูดอะไรไม่ออก มันจะแปลกไหม หากเธอจะตอบว่าวินทร์แต่งงานกับเธอโดยที่ยังไม่เลิกกับคนรัก มิหนำซ้ำทั้งคู่ยังดูรักกันดีมาจนถึงทุกวันนี้... สำหรับณิชา...มันเป็นเรื่องน่าอายเกินกว่าจะตอบออกไปตรง ๆ “ทำไมเงียบไปเลย มีอะไรหรือเปล่า” กันตยศถามขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ยอมตอบ ทั้งยังเงียบนานเกินไป ครั้นหันไปมอง เขาก็สัมผัสได้ถึงความหม่นเศร้าที่เธอแสดงออกมาทางแววตา พลันนั้นชายหนุ่มก็เริ่มรู้สึกเอะใจขึ้นมา ก่อนจะถามออกไปทันที “หรือว่าสองคนนั้นยังไม่เลิกกัน ?” เมื่อถูกยิงคำถามมาตรง ๆ ณิชาที่โกหกไม่เก่งก็ไม่มีทางเลือก จึงพยักหน้าลงช้า ๆ เพื่อตอบคำถามของอีกฝ่าย “เชี่ย! นี่มันเรื่องเหี้ยอะไรวะเนี่ย” กันตยศสบถออกมาด้วยถ้อยคำหยาบคาย ยกมือขึ้นเสยผมไปข้างหลังอย่างหัวเสียกับเรื่องที่เพิ่งได้รับรู้ พลันนึกถึงหนูน้อยอีกคนที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่นาน “ไม่เลิกกัน แต่มาทำเธอท้องเนี่ยนะ” “มันเป็นอุบัติเหตุน่ะ พอดีตอนนั้นเกิดเรื่องนิดหน่อย” ณิชาเล่าแบบคร่าว ๆ ไม่ลงรายละเอียดมากนัก ด้วยเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าอายไม่ต่างจากเรื่องก่อนหน้านี้ “มันไม่เรื่องนิดหน่อยแล้วนะชา นี่มันเรื่องใหญ่มาก” ชายหนุ่มว่าอย่างเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเพื่อน “แล้วยังไง ที่แต่งงานกันก็เพื่อรับผิดชอบที่ทำเธอท้องใช่ไหม” “จะว่าอย่างนั้นก็ได้” “หมายความว่าไง” คิ้วหนาของกันตยศขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินคำตอบที่คลุมเครือของหญิงสาว “ที่พี่วินทร์ยอมแต่งงานกับเรา ก็เพราะว่าต้องการรับผิดชอบลูก” “แปลว่ามันไม่ได้รักเธอ” ชายหนุ่มสรุป “แล้วเธอล่ะ อยากแต่งไหม” “ไม่” ณิชาตอบไปตามตรง เธอยอมรับว่ารักวินทร์มาก รักมาตลอด จนถึงตอนนี้ก็ยังรักอยู่ และแน่นอนว่าเธออยากแต่งงานกับเขา แต่มันต้องไม่ใช่การแต่งเพื่อรับผิดชอบลูก หากเธอก็ไม่มีทางเลือกมากนัก สุดท้ายก็ต้องยอมแต่งกับเขาไปตามที่บิดาและมารดาจัดแจงให้ “ไม่อยากแต่ง แล้วแต่งทำไมวะ” กันตยศยังคงถามต่อ ในใจเขามีเรื่องสงสัยอีกมากมายที่อยากจะถาม “เราก็ไม่อยากยอมหรอก แต่ว่า...กันต์ เบรก ๆ เราอยู่หมู่บ้านนี้” หญิงสาวกำลังจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เพื่อนสนิทฟัง ทว่าก็เป็นจังหวะที่รถใกล้จะแล่นถึงทางเข้าหมู่บ้านพอดี เธอจึงหยุดการเล่าเอาไว้แค่นั้น แล้วตั้งใจบอกทางคนที่ทำหน้าที่ขับรถแทน “หลังนี้แหละ” กันตยศจอดรถที่หน้ารั้วบ้านหลังใหญ่ขนาดสองชั้น ก่อนจะมองเข้าไปอย่างสำรวจ ไม่นานก็หันกลับมาถามหญิงสาวที่กำลังจะปลดเข็มขัดนิรภัยเพื่อลงจากรถ “บ้านใคร” ณิชาเข้าใจทันทีว่าเพื่อนหมายถึงอะไร “บ้านพี่วินทร์ พี่วินทร์เป็นคนซื้อ” “อืม ลงรถเถอะ เธอเอาแค่พวกที่อยู่ในรถลงไปก็พอ ส่วนที่อยู่ข้างหลังเดี๋ยวเราถือเข้าไปให้” ชายหนุ่มบอกก่อนจะกดเปิดกระโปรงหลังรถ แล้วลงไปหิ้วถุงทั้งข้าวของที่เอาไว้ในนั้นออกมา พร้อมกับณิชาที่รีบเดินไปเปิดประตูรั้วให้ จากนั้นก็เดินนำเข้าไปในบ้านทันที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม