ตระกูลไกรวณิชคุณ
ครินทร์ก้าวลงจากรถหรูสีดำขลับเงาวับ ขาเรียวยาวก้าวเข้าไปในงานแต่งพี่ชายที่ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่บ้านหลังใหญ่
เสียงดนตรีคลาสสิกบรรเลงคลอเบาๆ ภายในงานตกแต่งด้วยโทนขาวทอง ห้องโถงกว้างถูกเนรมิตเป็นงานแต่งหรูหราสมฐานะ แสงไฟอบอุ่นสะท้อนเข้ากับผ้าซาตินและลูกไม้ของโต๊ะจัดเลี้ยงที่ประดับดอกไม้สดนับพันจากต่างประเทศ
งานเริ่มขึ้นจนเกือบเสร็จพอดี อันที่จริงเขาบอกพ่อแม่ไว้แล้วว่าอาจมาช้าเพราะชินเวลาที่ฝรั่งเศส ต้องปรับเวลานอนใหม่ ซึ่งพ่อแม่เข้าใจและไม่ได้กดดันให้ต้องรีบมา
เขาเดินเข้าไปหาพี่ชายที่กำลังเดินทักทายแขกในงาน ที่เขามองออกตั้งแต่แรกว่ากำลังฝืน การแต่งงานครั้งนี้ถูกจัดขึ้นอย่างมีเหตุผลจำเป็น
“ใส่ชุดนี้ขึ้นเหมือนกันนะเฮีย” เขาเข้าไปทักทายพี่ชายด้วยรอยยิ้มกริ่ม
“เพิ่งมาถึงเหรอ” เสียงทุ้มของพี่ชาย ‘คิรัน’ เอ่ยถามน้องชาย
“อือ ว่าแต่พี่สะใภ้ผมล่ะไปไหนแล้ว”
“ยืนยิ้มกว้างปากถึงหูอยู่นั่นไง”
เขามองตามสายตาพี่ชายไปยังนาเนียร์ที่กำลังยืนพูดคุยกับแขกด้วยท่าทีเกร็งๆ แต่ก็รับมือได้ดี รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏขึ้นมาบนมุมปากหยัก
“นาเนียร์โตเป็นสาวแล้วสวยดีนะเฮีย ดูคนละคนกับตอนนั้นเลย แปลกใจทำไมเฮียไม่ชอบ” นาเนียร์ตรงสเปกเขาเหมือนกัน ตอนเด็กๆ ช่วงหนึ่งเคยชอบ แต่พอรู้ว่าโตขึ้นนาเนียร์ต้องแต่งงานกับพี่ชายเลยถอยบวกกับตอนนั้นยังเด็กเลยเลิกคิดเรื่องความรักไปง่ายๆ
“แล้วทำไมมึงถึงไม่มาแต่งเอง”
“ดวงเฮียเป็นดวงของคนมีเมีย ไม่ใช่ผม”
“ถ้าจะกวนส้นตีนกูก็กลับฝรั่งเศสไป”
เขาไม่ตอบเพียงแค่ขำเบาๆ ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางสบายๆ สายตาจับจ้องไปยังนาเนียร์ที่เคยเจอกันตั้งแต่ยังเป็นเด็กอ้วน ทว่าตอนนี้…โตเป็นสาวสวยสะพรั่งไปแล้ว
สวยขนาดพี่ชายเขายังไม่เลิกเกลียดอีก
“แต่จะว่าไปนาเนียร์ก็มีบางมุมที่เหมือน…” เขาเหลือบมองพี่ชาย เมื่อเจอสายตาคมกริบที่มองมาอย่างเอาเรื่อง หลังจากเกือบเผลอหลุดปากพูดชื่อต้องห้ามออกมา “ผมไปหาพ่อแม่ก่อนนะ”
ไม่รอให้โดนไล่ตะเพิดรีบชิงเพ่นหนีก่อน เดินมาก็เห็นแม่ที่ยิ้มหน้าบานและอ้าแขนรอกอดมาแต่ไกล
“ลูกชายแม่กลับมาแล้ววว” คนเป็นแม่อย่าง ‘คาร์เทียร์’ สวมกอดลูกชายด้วยความคิดถึงแถมยังกอดแน่นจนครินทร์ทำหน้าตาเหมือนจะขาดใจ
“แน่นไปคุณนาย”
“โอ๊ะ! ซอรี่จ้ะลูกเทวดา” คาร์เทียร์หัวเราะอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับลูบหัวลูกชายคนเล็กที่ไม่ได้เจอกันนานเป็นเดือน
“พ่อล่ะครับ”
“นั่นไง” คาร์เทียร์ชี้ไปยังสามีที่กำลังยืนคุยกับกลุ่มเพื่อนอยู่ “เป็นไงบ้างไปอยู่ฝรั่งเศส ได้สาวผมทองกลับมาสักคนไหม”
“ผมไม่ชอบฝรั่ง ไปอยู่นู่นเหมือนถูกส่งไปขังคุกยังไงก็ไม่รู้ เพื่อนก็ไม่มี คิดถึงอาหารไทยแทบบ้า”
“ก็ลูกทำตัวไม่ดี พ่อทำแบบนั้นถูกต้องแล้ว ดีแล้วที่ได้กลับมาก่อนกำหนด”
“แม่ว่าเฮียกับนาเนียร์จะเป็นยังไงต่อ” เขาไม่พูดถึงเรื่องนั้นแต่พาแม่พูดเรื่องอื่นแทน
“คงสงสารหนูนาเนียร์มากกว่า แม่รู้นิสัยพี่เราดีว่าเป็นคนยังไง คิรันเกลียดนาเนียร์ตั้งแต่เด็กแล้ว ยิ่งมาแต่งงานกันแบบนี้แม่ว่าคงหนักเลย”
เขาไม่พูดอะไรต่อ เพียงแค่ยืนมองพี่ชายและนาเนียร์ที่กำลังยืนต้อนรับแขกตามคำสั่งของพ่อ
หลังจากครินทร์ร่วมงานแต่งของพี่ชายเสร็จสรรพก็ออกจากงานทันที ชายหนุ่มขับรถมาเพื่อนที่ร้านนั่งชิวแถมทองหล่อที่ชอบมาสิงสถิต
ปึก!
ในขณะที่กำลังเดินเข้าร้านดันชนเข้ากับใครบางคนที่เดินสวนออกมา
“ขะ…ขอโทษค่ะ” คนตัวเล็กที่ชนโดยไม่ตั้งใจเพราะรีบเกินไป รีบยกมือไหว้ขอโทษอย่างไม่รีรอ แล้วพอเงยหน้าขึ้นกลับพบว่าเป็น…เขาคนนั้น รุ่นพี่ที่มหา’ลัยและคนที่ซื้อขนมกับเธอไปเมื่อวาน
“เจอกันอีกแล้วนะ”
แบบนี้เข้าทางเขาเลย…
“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ เมื่อกี้เซย์ไม่ได้ตั้งใจ รีบไปหน่อย…”
“แล้วถ้าบอกว่าเป็นล่ะ” เขายักคิ้วแล้วเอ่ยถามกลับ สายตาจ้องมองเซลีนอย่างร้ายกาจ
“จะให้เซย์ทำยังไงคะ ในเมื่อขอโทษไปแล้ว” เธอตอบกลับ พลางหลุบตาต่ำมามองแผงอกแกร่งของเขา มือเล็กจิกขาแน่นด้วยความกังวล เธอยิ่งเป็นพวกไม่ชอบมีปัญหากับใคร แล้วครินทร์ก็ดูเหมือนจะไม่ยอมง่ายๆ
“เข้าไปดื่มด้วยกันก่อนไหม แล้วจะให้อภัย”
“เซย์ไม่ว่างค่ะ ขอตัวนะคะ” เธอเดินออกไปโดยไม่รอให้เขาตอบอะไรกลับ ขอโทษไปแล้วบวกกับเมื่อกี้ไม่ได้ชนแรงเลยด้วยซ้ำ อีกอย่างวันนี้เธอรีบไปหาแม่ที่อยู่โรงพยาบาล
ครินทร์มองตามแผ่นหลังด้วยนัยน์ตาที่ดำมืดลง เป็นครั้งแรกที่โดนผู้หญิงปฏิเสธ แถมยังเป็นน้องสาวอริอีกต่างหาก ชายหนุ่มส่งเสียงเบาๆ ในลำคอก่อนจะเดินเข้าไปในร้านอย่างไม่คิดตื้อเพราะไม่ใช่นิสัยของตัวเอง
“เมื่อกี้น้องสาวไอ้เซนต์มาที่นี่ เห็นเดินออกไปก่อนมึงมาแป๊บเดียวเอง” เมื่อตรีภพเห็นเพื่อนจึงเอ่ยบอก
“เดินชนกูเมื่อกี้” เขาตอบพลางหย่อนตัวนั่งลง “ชวนมาดื่มแต่ยัยนั่นปฏิเสธ”
“น้องเขากลัวมึงเปล่า” จอมทัพเสริม
“กูหล่อขนาดนี้เอาไรมาให้ผู้หญิงกลัว”
“แถวบ้านกูเรียกมั่นหน้า”
เขาไม่ได้สนใจคำพูดกระแนะกระแหนของจอมทัพ สักพักพนักงานก็เดินมาชงเหล้าให้
“น้องไอ้เซนต์มาทำไรที่นี่” คนแบบนั้นดูไม่ค่อยชอบดื่มชอบเที่ยว เลยอดสงสัยที่จะถามไม่ได้
“เห็นไอ้นิกซ์บอกว่าน้องไอ้เซนต์มาสมัครพาร์ทไทม์ แต่ไอ้นิกซ์มันรับอีกคนที่มาก่อนไปแล้ว มันเลยให้กรอกใบสมัครทิ้งเอาไว้ก่อน”
ครินทร์เอนหลังพิงโซฟาหนังแท้ ปลายนิ้วเรียวแตะขอบแก้วเหล้าแกว่งวนเบาๆ ราวกับมีความคิดบางอย่างวนในหัว
“สมัครพาร์ทไทม์งั้นเหรอ…” เขาพูดทวน ก่อนจะเหยียดยิ้มมุมปากแล้วยกเหล้าขึ้นดื่ม
“คราวนี้มึงคิดอะไรไม่ดีอยู่อีก”
“กูเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าร้านกูกำลังขาดคนอยู่พอดี”
“ไอ้ครินทร์” จอมทัพเรียกชื่อเพื่อนเสียงต่ำ ราวกับรู้ทันความคิดไม่ดีบางอย่าง ถึงพวกเขาจะไม่ชอบขี้หน้าเซนต์แต่ก็ใช่ว่าจะพานเกลียดคนรอบข้างที่ไม่รู้อิโน่อิเหน่ ผิดกับครินทร์โดยสิ้นเชิง
“มึงจะทำแบบนี้จริงๆ?” ตรีภพพูดเสริม
“แค่รับพนักงานเพิ่ม”
“มึงคิดว่าน้องเขาจะยอม?”
“ไอ้นิกซ์บอกน้องไอ้เซนต์กำลังหางานพาร์ทไทม์ทำ ถ้ากล้าเดินเข้ามากรอกใบสมัครร้านเหล้า มากรอกใบสมัครที่ผับกูก็คงไม่ยาก”
ตรีภพและจอมทัพหันหน้ามองกัน ลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่มีครั้งไหนเลยที่ครินทร์จะมีความคิดไม่ดี พวกเขาชักสงสารเซลีนรอแล้วสิ…