K1NG CLUB
ร่างบอบบางเดินเข้ามาภายในไนต์คลับสุดหรูที่มองไปทางไหนก็มีแต่คนแต่งตัวดูดี แบรนด์เนมทั้งตัว ออร่าความรวยของแต่ละคนแผ่ซ่านออกมา ทำให้เซลีนรู้สึกว่ากำลังหลุดมาอยู่อีกโลก กลิ่นแอลกอฮอล์ปนน้ำหอมทำเอาคนที่เคยมาสถานบันเทิงแบบเพลงดังกระหึ่มอย่างนี้ครั้งแรกรู้สึกมึนหัว
วันก่อนเธอกรอกใบสมัครอีกร้านที่คนละสไตล์กับที่นี่เอาไว้ วันนี้ผู้จัดการร้านนั้นโทรมาบอกว่าร้านคนเต็มแล้ว ถ้าต้องการงานจริงๆ แนะนำให้มาที่นี่ ‘K1NG CLUB’ เป็นไนต์คลับของเพื่อนเจ้าของร้านนั้น
ด้วยความที่เธอต้องการงานและเงินจึงลองมาสมัครดูเผื่อฟลุกโดนรับเข้าทำงาน เธอไม่เคยทำงานสถานบันเทิงมาก่อน แต่เพราะความจำเป็นเลยทำให้เธอตัดสินใจมาทำงานในที่แบบนี้ ถึงเงินน้อยแต่หากเลือกไนต์คลับดีๆ หน่อยอาจได้ทิปเยอะ เพื่อนเธอบอกแบบนั้น
“เซลีนใช่ไหม” เสียงนั้นดังขึ้นจากด้านข้าง ชายหนุ่มร่างสูงชุดสีดำทั้งตัว เสื้อเชิ้ตปลดกระดุมลงมาสามเม็ดเผยให้เห็นแผงอก ใบหน้าหล่อเหลา หากแต่ดูน่ากลัวจนหญิงสาวทำตัวไม่ถูก “พี่เดย์นะ เป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้าน ไอ้ก้องผู้จัดการร้านที่เราไปหรอกใบสมัครเอาไว้วันก่อน มันบอกพี่ว่าเราสนใจมาทำงานที่นี่ใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ” เซลีนรีบรับคำเสียงเบา เธอไม่ได้มั่นใจนัก แต่ก็พยายามไม่ทำให้ตัวเองดูประหม่า
“งั้นตามพี่มาทางนี้”
เซลีนเดินตามผู้จัดการร้านไปติดๆ ในตอนเดินผ่านโต๊ะหนึ่งเดาว่าคงเป็นของพวก VIP ที่มีชายหนุ่มในชุดแบรนด์เนมนั่งกันเป็นกลุ่ม เธออดไม่ได้ที่จะเหลือบมอง สายตาของบางคนกวาดมาทางเธอชั่วครู่ แต่เธอก็รีบหันหน้าหนี เธอไม่ชินกับสายตาแบบนั้นเลย
“ถ้าวันนี้พี่ให้เราเริ่มเทรนงานก่อนสะดวกไหม ยังไม่ต้องเสิร์ฟเต็มระบบ แค่ลองดูบรรยากาศ ทำความรู้จักกับพื้นที่บาร์ กับโต๊ะต่างๆ เอาไว้ แล้วพรุ่งนี้ค่อยเริ่มงานจริงจัง”
“ได้ค่ะ”
“โอเค ส่วนรายละเอียดอื่นๆ พี่เห็นในประวัติเราหมดแล้ว ตามนั้นเลยใช่ไหม”
เธอพยักหน้า ในใบสมัครก็ระบุไว้ชัดว่าไม่รับงานเอนฯ ไม่ดื่ม และไม่เต้น มีแต่เสิร์ฟและดูแลลูกค้าเท่านั้น ซึ่งเดย์ก็รับทราบดี
เชาพาเธอไปนั่งเทรนกับพนักงานผู้หญิงอีกคนชื่อ ‘แพมมี่’ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นรุ่นพี่ในไนต์คลับแห่งนี้
“ไม่ต้องเครียดนะ มาทำงานแบบนี้ครั้งแรกก็ไม่แปลกที่จะตื่นเต้น” แพมมี่พูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายพลางยื่นเมนูให้เธอดู “จำพวกนี้ไว้ให้ได้ก่อน พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องถามบ่อย มันจะดูมืออาชีพกว่า”
ระหว่างที่เซลีนตั้งใจจำเมนู มองเครื่องดื่มราคาแรงลิบ แล้วพยายามเก็บข้อมูลในหัวให้ได้มากที่สุด เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นใกล้ๆ ทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ครั้งแรกเหรอที่มาทำงานในที่แบบนี้?”
“ค่ะ ครั้งแรก…”
“ผ่อนคลายๆ ที่นี่อยู่กันเหมือนครอบครัว” แพมมี่พูดด้วยรอยยิ้มเอ็นดูเซลีน
ทางด้านเดย์ ร่างสูงเดินเข้ามาภายในห้องทำงานของเจ้านายหนุ่ม หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพ ครินทร์กำลังยืนล้วงกระเป๋ากางเกง ในมือคีบบุหรี่มวนโปรด ก่อนจะยกขึ้นดูดตรงปลายกระบอกแล้วพ่นควันสีเทาออกมาอย่างใจเย็น
“เรียบร้อยแล้วครับ”
“จับตาดูเอาไว้ อย่าให้ลูกค้าคนไหนเข้าใกล้เซลีน เพราะเธอ…จะเป็นของกู”
“ได้ครับคุณครินทร์” เดย์ไม่แม้แต่จะคิดสงสัย เพราะรู้คร่าวๆ มาแล้วว่าเซลีนเป็นน้องสาวเซนต์ ศัตรูหมายเลขหนึ่งของเจ้านาย การให้ผู้หญิงคนนั้นอยู่ใกล้ตัว นั่นก็เป็นเพราะอยาก ‘เอาคืน’ อีกคนให้สาแก่ใจ
ครินทร์ขยี้บุหรี่ลงจานเขี่ย ก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินออกไปด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ชายหนุ่มออกมายืนกวาดสายตามองลงไปข้างล่างของไนต์คลับจากชั้นสอง มือหนาวางลงราวกระจกใส แต่แล้วสายตากลับสะดุดเข้ากับเป้าหมายที่กำลังทดลองงานด้วยความตั้งใจ มุมปากหยักเหยียดยิ้มอย่างร้ายกาจ
ไอ้เซนต์มันรักอะไร…เขาจะทำลายสิ่งนั้น!
เซลีนที่รู้สึกเหมือนมีใครมองมาจากข้างบนก็เงยหน้าขึ้นไปดู แต่ก็เป็นจังหวะที่เขาคนนั้นถอยหลังและหายในความมืดและไฟสลัวข้างใน
“คิดไปเองมั้ง” เธอพึมพำคนเดียว ก่อนจะกลับไปตั้งใจทดลองงานต่อ
“น้องเซย์ เอาเครื่องดื่มชุดนี้ไปเสิร์ฟข้างบนโต๊ะV1ที”
“ได้ค่ะๆ” เธอรับถาดเครื่องดื่มมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองเพื่อเสิร์ฟเครื่องดื่ม ข้างบนดูสงบและไม่ค่อยวุ่นวายเหมือนข้างล่าง
ดวงตาคู่สวยมองหา ‘V1’ ก่อนจะเหลือบเห็นแสงไฟชื่อโต๊ะมาแต่ไกล เธอเดินตรงเข้าไปยังโต๊ะดังกล่าวที่ไม่มีคนอยู่ มองซ้ายและมองขวาเพราะไม่เจอใคร แต่คำพูดแพมมี่ที่บอกให้มาเสิร์ฟโต๊ะนี้ทำให้เธอต้องนำเครื่องดื่มออกจากถาดมาวาง
ในขณะนั้นเองรองเท้าจากแบรนด์ดังหยุดลงข้างๆ หญิงสาวรู้สึกได้จากหางตา กลิ่นน้ำหอมเจือด้วยกลิ่นบุหรี่ทำหัวใจดวงน้อยสั่นคลอน
แต่…กลิ่นน้ำหอมคุ้นจัง
เธอคิดในใจ แต่ก็ไม่ได้เงยหน้ามองเพราะยังจัดของไม่เสร็จ หากให้เดาคงเป็นเจ้าของโต๊ะ
“เจอกันอีกแล้ว”
กึกกก
เสียงนี้มัน…
เธอเงยหน้าขึ้นไปมองทันที ม่านตาขยายกว้างเมื่อเห็นเจ้าของน้ำเสียงเมื่อครู่
“พี่ครินทร์…” โลกกลมเกินไปหรือเปล่าที่มาเจอเขาอีกแล้ว เธอลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว จังหวะนั้นขาเกิดอ่อนอย่างช่วยไม่ได้จนล้มลงกับพื้นแต่ไม่แรงมาก
“มาดื่มที่นี่เหรอคะ” หลังจากลุกขึ้นก็หาเรื่องชวนคุยแก้เขินอายกับเหตุการณ์เมื่อครู่
“อืม” เขารู้ว่าเหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้เซลีนอับอายจึงไม่ได้พูดถึง แต่ตอบคำถามเมื่อครู่ของเธอแทน “นั่งดื่มด้วยกันก่อนไหม?”
“เอ่อ ไม่ดีกว่าค่ะ เซย์ยังอยู่ช่วงเทรนงาน ถ้ามีใครมาเห็นเข้า อาจจะ…”
“แล้วถ้าฉันบอกว่า…ฉันเป็นเจ้าของที่นี่ล่ะ?”
“คะ?” เธอมองหน้าเขาอย่างไม่อยากเชื่อ ครินทร์ยังเรียนอยู่แต่เป็นถึงเจ้าของไนต์คลับ เธออึ้งจนพูดไม่ออกเลย “เป็น…เจ้าของที่นี่เหรอคะ”
ครินทร์ยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะหยิบแก้วเหล้าวางลงตรงหน้าเธอ
“แล้วแบบนี้จะปฏิเสธดื่มกับเจ้านายอยู่อีกไหม?”
เซลีนยังคงนิ่ง มือเล็กกำถาดแน่นกว่าเดิม หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ทั้งจากความตกใจ ทั้งจากแรงกดดัน และอะไรบางอย่างที่เธอไม่กล้าอธิบาย
“ฉันไม่บังคับ” ครินทร์พูดเสียงเรียบ อยากรู้เหมือนกันว่าเซลีนรู้ว่าเขาเป็นเจ้าของที่นี่แล้วจะกล้าปฏิเสธไหม
หญิงสาวนิ่งเงียบสักพัก คนที่อ้างตัวเองว่าเป็นเจ้าของที่นี่บอก ‘ไม่บังคับ’ หากแต่สายตาที่มองมากำลังกดดันเธออยู่
“เซย์จะเชื่อได้ยังไงว่าพี่ครินทร์เป็นเจ้าของที่นี่จริงๆ”
“ไม่เชื่อ?”
“ค่ะ ไม่เชื่อ เซย์ขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะคะ วันนี้เทรนงานซึ่งมันสำคัญมาก ถ้าผู้จัดการรู้คงให้เซย์ไม่ผ่าน ขอโทษด้วยนะคะ” เธอขอโทษทิ้งท้ายอย่างไม่ให้ดูน่าเกลียดเกินไป โค้งศีรษะให้เล็กน้อย และยิ้มบางๆ ก่อนจะเดินออกไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ
ครินทร์กระตุกยิ้มมุมปาก เอี่ยวตัวกลับไปมองเซลีน ปฏิเสธไม่พอแถมยังไม่เชื่ออีกว่าเขา คือ เจ้าของ K1NG CLUB
“น้องมึงก็เล่นตัวเก่งเหมือนกันนี่เซนต์…”