ไม่มีใครรู้ว่าภายใต้ดวงตานิ่งลึกเฝ้ามองแต่ภรรยาตั้งแต่เดินลงมาจากบันไดแล้ว วันนี้ภัคพิงค์ใส่กางเกงยีนส์เดนิมอวดเอวบางและช่วงขาเรียวยาว ทำให้อดหวนนึกถึงเรื่องคืนนั้นไม่ได้ ร่างกายก็พลันความรุ่มร้อน ความหวั่นไหวแวบผ่านดวงตาราวกับได้เห็นนักศึกษาแพทย์ภัคพิงค์อีกครั้ง ก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็วราวกับไม่เคยเกิดขึ้น ที่ยังนั่งแช่อยู่ในรถจนถึงตอนนี้ก็เพราะรอใครบางคนนี่ละ
แล้วดูเธอสิ...เหยียบคันเร่งหนีเขาไปหน้าตาเฉย!
นเรนทร์เหลือบมองคนข้างๆ แล้วยิ่งหงุดหงิด คนที่อยากให้ไปด้วยกันก็ดันไม่ยอม แต่คนที่ไม่ได้เชิญนี่สิกลับโผล่มาเป็นมารผจญตั้งแต่เช้า ทั้งที่เขาอุตส่าห์ย่องออกจากห้องทำงานที่ใช้แทนห้องนอนชั่วคราวมานั่งรอภัคพิงค์ตั้งแต่ไก่โห่ เพราะกลัวเธอจะหนีออกไปก่อนเหมือนทุกวัน ใครจะคิดว่าจู่ๆ คนที่นอนก้นโด่งจนตะวันส่องอยู่ทุกวันจะเกิดผีเข้า ตื่นแต่เช้าลุกขึ้นมาออดอ้อนขอติดรถเขาไปด้วย อ้างว่าจะไปทำหน้า เขาอยากจะปฏิเสธ แต่หล่อนก็เกาะแขนเขาไม่ปล่อยเหมือนกับปลิงไม่มีผิด ทำให้รำคาญจนต้องเออออตอบไปส่งๆ ส่วนเมื่อกี้ที่ไม่แย้งคำพูดของโบว์วี่ ก็เพราะอยากรู้ว่าภรรยาเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
แต่เธอก็ยังคงเป็นเธอ... เป็นภัคพิงค์ที่เฉยเมยไม่เคยแยแสเขา ต่อให้เขาจะไปหัวหกก้นขวิดกับผู้หญิงคนไหนก็ตาม
สุดท้ายมีแค่เขาที่ ‘บ้า’ ไปเองคนเดียว!
เสียงลมหายใจเบื่อหน่ายถูกพ่นออกมาหนักๆ ก่อนที่ชายหนุ่มจะขับรถตามหลังภรรยาออกไป โดยไม่พูดอะไรกับคนนั่งข้างเลยสักคำ
“พิงค์... ทางนี้”
ภัคพิงค์หันไปตามเสียงเรียกของศัลยแพทย์หนุ่มรุ่นพี่ที่นั่งควักมือเรียก ภายในคาเฟของโรงพยาบาลราษฎร์นรากูล ก่อนจะส่งยิ้มเดินเข้าไปหา วันนี้เป็นวันหยุดของเธอ แต่ที่มาโรงพยาบาลก็เพราะนัดกับรักษ์การไว้
“ดื่มอะไรดี” รักษ์การเอ่ยถามพลางเรียกพนักงาน
“เอาเป็น...คาราเมลลาเต้เย็นก็แล้วกันค่ะ” ภัคพิงค์สั่งโดยไม่ดูเมนู เพราะเป็นเมนูโปรดและร้านโปรดของเธอ รอจนพนักงานที่รับเมนูออกไปแล้วจึงหันมาถามรุ่นพี่คนสนิทว่า “พี่รักษ์นัดพิงค์มา มีอะไรเหรอคะ”
รักษ์การถอนหายใจแผ่วๆ เขารับคำสั่งแกมขอร้องแกมน้อยใจจากคุณป้ารสสุคนธ์ ให้มาลากตัวลูกชายกับลูกสะใภ้กลับไปกินข้าวที่บ้านน่ะสิ ท่านบ่นเป็นหมีกินผึ้งมาหลายวันแล้วว่าทั้งโทร. ทั้งส่งข้อความหาภัคพิงค์ก็เอาแต่บ่ายเบี่ยงอ้างว่างานยุ่ง พอโทร. หานเรนทร์ก็ไม่ว่าง แถมยังไม่โทร. กลับเลยสักสาย ไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่กันดีรึเปล่า
“วันนี้กลับไปกินข้าวที่บ้านด้วย” น้ำเสียงราบเรียบบอกให้รู้ แน่นอนว่าภัคพิงค์รู้ดีนี่คือสิ่งที่แม่สามีฝากเขามาบอกเธอ โดยที่เขาไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ
หญิงสาวพลันหน้าเจื่อนลงนิดๆ บอกรักษ์การด้วยความเกรงใจว่า
“ขอโทษนะคะที่เรื่องของพิงค์ทำให้พี่ต้องพลอยเดือดร้อนๆ ไปด้วย”
“อย่าคิดมาก” รักษ์การส่ายหน้าน้อยๆ สายตามองข้ามไหล่เธอไปตรงหน้าประตูร้าน “ไอ้คนที่ควรจะเกรงใจยังไม่เห็นเดือดร้อนอะไรเลย”
ภัคพิงค์มองตามสายตาเขาไป หัวคิ้วค่อยๆ ขมวดมุ่น แววตาแข็งกระด้างเย็นชา ก่อนจะแปรเป็นความเบื่อหน่าย มองสามีที่เดินโอบเอวนางแบบสาวเข้ามาอย่างกระหนุงกระหนิงโดยไม่แคร์สายตาใคร ทำราวกับความรักมันร้อนแรงจุกอกจนทนเก็บเอาไว้ไม่ไหว ต้องประกาศให้ผู้คนรู้กันทั่ว
ทั้งคู่มีความสุข แต่สำหรับเธอ...คือความอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหน!
มองนางแบบสาวที่ยิ้มเยาะมาแต่ไกล ภัคพิงค์เจ็บจนแทบกัดฟัน แต่จำต้องทนข่มใจเอาไว้มั่นลึกเกินสุดหยั่ง ตวัดสายตาจ้องหน้าสามีเขม็งบ่งบอกให้รู้ถึงความไม่พอใจ เขาหักหน้าเธอที่บ้านยังไม่เท่าไร แต่กลางที่สาธารณะแบบนี้เขาก็ยังไม่เว้นอีกหรือ
“เจอกันอีกแล้วนะคะคุณหมอ” โบว์วี่กรีดยิ้มอย่างได้ใจ เชิดหน้ามองภัคพิงค์อย่างโอ้อวด จงใจประกาศความสำคัญของหล่อน