หญิงสาวอยากจะปฏิเสธ แต่ก็ถูกเขาจูงมือเดินมาขึ้นรถเสียแล้ว ส่วนหนึ่งที่ยอมมากับเขาเพราะวันนี้เป็นวันแรกที่นเรนทร์จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของคณะผู้บริหารตามคำสั่งของพ่อสามี เธอไม่อยากทำให้เขาขุ่นใจตั้งแต่หัววัน จนพานทำให้ทุกอย่างไม่ราบรื่น อะไรที่หยวนได้ก็หยวนกันไป
ระหว่างทางเธอลอบมองเสี้ยวหน้าสามีหนุ่มเป็นระยะ ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาทำตัวอ่อนโยน เธออยากรู้แต่ไม่อยากถาม ไม่ได้กลัวคำตอบ แต่ไม่อยากคิดมากหรือคาดหวังอะไรอีกแล้ว เธอชินชากับความเจ็บปวดและเงียบเหงามานาน หัวใจคล้ายถูกแช่แข็ง จะเหลือก็เพียงความกล้ำกลืนฝืนทนที่ไม่รู้ว่าจะหมดสิ้นวันไหน
ใครจะคิดว่าตอนที่เราเจ็บสุดๆ แค่ได้รับความอบอุ่นเพียงเล็กน้อย ก็สามารถละลายน้ำแข็งในหัวใจเธอได้ ความอ่อนโยนที่เขามอบให้เมื่อครู่ทำให้เธอใจเต้นไม่เป็นจังหวะ มันหายากมากและช่วยเติมเต็มช่องว่างในหัวใจ จนทำให้รู้สึกอิ่มเอมอย่างบอกไม่ถูก
ถ้าเธอกับเขาอยู่กันไปแบบนี้ได้เรื่อยๆ ก็คงดี ไม่ต้องรักกัน แต่ก็ไม่ทำร้ายกัน...
ไม่รู้ว่าสิ่งที่คิดจะมีวันเป็นจริงได้ไหม รู้แต่ว่าตอนนี้เธอสบายใจเกินกว่าจะทำลายบรรยากาศกลมกลืนระหว่างกัน เธอยอมให้เขาเดินโอบไหล่เข้าไปในโรงพยาบาลโดยไม่ปริปาก เหมือนนเรนทร์ก็จะรู้ตัว สายตามองมือเขาที่กอดเกี่ยวอยู่บนหัวไหล่เธอ ส่งเสียงไอแห้งๆ สองสามที ก่อนจะตีมึนเปลี่ยนมาสอดนิ้วกุมมือเธอแทน
ภาพที่สองสามีภรรยาเดินเคียงคู่กันมา กลายเป็นจุดสนใจจากคนรอบข้างให้หันมองกันเป็นตาเดียว โดยเฉพาะกลุ่มแพทย์พยาบาลและพนักงานต่างก็รู้จักทั้งคู่กันดี คนหนึ่งเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนสุดหล่อของเจ้าของโรงพยาบาลราษฎร์นรากูล อีกคนเป็นคุณหมอสาวฝีมือดีแผนกอายุรกรรม เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าถึงทั้งคู่จะแต่งงานกัน แต่ก็ไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไร ซ้ำร้ายฝ่ายชายยังชิงหนีไปเกาหลีทันทีหลังจบพิธี ทิ้งให้ภรรยาหมาดๆ กลายเป็นม่ายร้างหอเสียอย่างนั้น
“เธอๆ นั่นมันคุณนเรนทร์กับหมอพิงค์ไม่ใช่เหรอ ไหนว่าเกลียดกันไง แล้วทำไมถึงมาด้วยกันล่ะ ท่าทางงี้หวานแหววเชียว”
“ใช่... แถมยังเดินเกี่ยวก้อยกันมาอีก ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนที่เกลียดขี้หน้ากันเลยสักนิด”
“แต่วันก่อนคุณนเรนทร์ยังมีข่าวควงโบว์วี่อยู่เลยนะ”
“หรือว่าผู้ชายจะกลับตัวกลับใจแล้ว?”
เสียงซุบซิบดังคล้อยหลังตลอดทางที่ภัคพิงค์เดินผ่าน แต่เธอไม่อยากให้ค่า เลือกสนใจอะไรที่มีสาระมากกว่านี้ดีกว่า
“ผมส่งคุณหน้าห้องตรวจนะ คุณตรวจเสร็จเมื่อไหร่ค่อยแวะขึ้นไปหาผมบนตึก” นเรนทร์เอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาถึงห้องทำงานของภรรยา
“มีอะไรรึเปล่าคะ”
“ก็แค่...” เขารู้สึกดีที่ได้เดินจูงมือกับเธอแบบนี้ อยากอยู่ด้วยกันนานๆ อีกสักหน่อย “จะชวนไปกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยด้วยกัน สนมั้ย”
“ไปค่ะไป” ภัคพิงค์ตาโต พยักหน้าหงิกๆ แค่ได้ยินก็น้ำลายสอแล้ว
นเรนทร์มองท่าทีกระตือรือร้นของภรรยาแล้วดวงตาก็ฉายแววอบอุ่น ยิ้มบางๆ ก้มกระซิบข้างหูเธอว่า
“เมียผมเลี้ยงง่ายจัง”
แก้มเมียสาวพลันขึ้นสีระเรื่อจนเขาแทบอดใจไม่ไหว อยากจะกดจูบหนักๆ สักฟอดสองฟอด แต่คงไม่ดีเพราะแถวนี้อยู่ใกล้ประตูลิฟต์พอดี เกิดมันเปิดออกมาแล้วคนข้างในเห็นภาพวาบหวิวเรต 18+ เข้า ภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของภัคพิงค์จะพลอยเสียหาย
นเรนทร์ผละออกห่างจากหญิงสาวอย่างเสียดาย เพื่อตรงไปขึ้นลิฟต์ รอไม่นานประตูก็เปิดออก ดวงตาเรียวแคบเบิกโต รอยยิ้มหุบฉับเมื่อเห็นร่างของใครบางคนที่อยู่ด้านใน ความรู้สึกพลันซับซ้อนตอนที่ชื่อของหล่อนถูกครางหวิวออกมาจากปากเขา
“เจน...”
“เรน!” อีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงยินดี แววตาเป็นประกายขณะเดินปรี่มาหาเขา
นเรนทร์หันขวับไปมองด้านหลังทันที หัวใจกระตุกหล่นวูบเมื่อเห็นภัคพิงค์ยืนตัวแข็งทื่อ สีหน้าตกตะลึงอยู่หน้าห้องตรวจ
ให้ตายสิ...สถานการณ์เลวร้ายสุดๆ สู้ให้ภัคพิงค์ฟาดปากกับโบว์วี่หรือฟ้อนเล็บบนหน้าเขายังจะดีกว่าต้องมาเจอเขาอยู่กับ ‘แฟนเก่า!’