บทที่ 3 การยั่วยุของมือที่สาม 1

971 คำ
หลังจากค่ำคืนที่น่าอดสูภัคพิงค์ก็แทบไม่ได้กลับมานอนที่เรือนหออีกเลย ราวกับเต็มใจปล่อยให้มือที่สามครอบครองทั้งคนทั้งบ้าน เธอโหมงานหนักราวกับร้อนเงิน รับงานทั้งกะเช้ากะบ่าย บางวันพ่วงกะกลางคืนเข้าไปด้วย อาศัยห้องพักรับรองส่วนกลางของคณะแพทย์เป็นที่งีบหลับ วันไหนที่ไม่สะดวกจริงๆ จึงจะกลับไปนอนซุกหัวที่บ้าน แต่ก็เลือกเวลาดึกดื่นค่อนคืนไปแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเจอหน้ากับสามี เช้านี้ก็เป็นอีกวันในรอบเกินสัปดาห์ที่เธอจำใจกลับบ้าน ภัคพิงค์ตื่นขึ้นมาแต่เช้าทั้งที่เพิ่งหลับไปได้เพียงสามชั่วโมงกว่าๆ ตั้งใจจะอาบน้ำแต่งตัวออกจากบ้านก่อนที่นเรนทร์และคนของเขาจะลงมาห้องอาหาร ที่พยายามหลบหน้าไม่ใช่แค่เพราะเจ็บปวดยามที่เห็นเขาอยู่กับใคร หรือต้องทนฟังเสียงครวญครางเร่าร้อนสุขสมที่ดังแว่วมาจากห้องนอนของสามีแทบทุกคืน แต่เธอไม่รู้จะสู้หน้านเรนทร์อย่างไรดีต่างหาก... เธอรู้สึกผิดและละอายใจทุกครั้งที่มองหน้าเขา ยิ่งเห็นแววผิดหวังชิงชังที่มองตอบมา ยิ่งเหมือนปลายมีดแหลมคมที่กรีดลงบนใจเธอ คอยตอกย้ำให้เธอเจ็บปวดเสียใจอยู่เสมอว่า เธอหลอกลวงเขา! นเรนทร์พูดถูก เธอปฏิเสธข้อหาที่เขาโยนใส่หน้ากันไม่ได้เลย ต่อให้อยากจะแก้ต่างว่าไม่ได้ตั้งใจหรือไม่เต็มใจก็ตามที แต่ใครจะเชื่อล่ะ? ในเมื่อคนมีมลทินอย่างเธอดันรีบตะครุบโชคที่ลอยมาถึงตัวอย่างไม่คาดฝัน แม่สามีเกิดชื่นชอบเอ็นดูจึงทาบทามเธอให้เป็นภรรยาของลูกชาย พ่อเธอเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะช่วยแก้ไขวิกฤตของบริษัทเคพีฟาร์มาซูติคอลได้ จึงขอร้องให้เธอยอมตกลง “พ่อคะ นเรนทร์เขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว หนูกับเขาแต่งงานกันไม่ได้หรอกค่ะ หนูไม่อยากเอาตัวเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับพวกเขา” ก่อนหน้านี้เธอสนิทกับนเรนทร์ก็จริง แต่ก็แค่ช่วงเวลาปีกว่าๆ เท่านั้น แล้วเราก็ห่างหายไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยมาสี่ปีแล้ว ได้ยินว่านเรนทร์มีแฟนชื่อเจน คบกันสักพักก็เลิกรา แต่กว่าจะเลิกกันได้เห็นว่าฝ่ายหญิงตามง้อตามตื๊อเขาอยู่นาน พอเลิกกันปุ๊บก็ได้ยินข่าวว่าเขาตามจีบรุ่นน้องทันที เห็นว่าจริงจังถึงขั้นตามเฝ้ากันมานานกว่าสามปีจนถึงตอนนี้ แล้วจะมีที่ตรงไหนให้เธอแทรกเข้าไปอยู่ในใจเขาได้ล่ะ “ใช่ที่ไหนล่ะ คุณรสสุคนธ์บอกพ่อเองว่าเป็นแค่เพื่อนกัน ฝ่ายผู้หญิงเขามีแฟนอยู่แล้ว เป็นลูกหลานนายทหารใหญ่ยศนายพล แถมผู้ชายก็ขี้หึงมาก เขาไม่อยากให้ลูกชายไปข้องแวะกับผู้หญิงคนนั้นมากนัก กลัวจะเป็นเรื่องเป็นราวกันขึ้นมา คุณรสสุคนธ์เลยอยากหาคนดีๆ มาช่วยดึงสติลูกชาย เลยมาเอ่ยปากทาบทามสู่ขอลูก เขาบอกพ่อว่าเห็นพิงค์ฝึกงานอยู่ที่โรงพยาบาลราฎร์นรากูล ดูขยัน เอางานเอาการ มีความมุ่งมั่นตั้งใจเหมาะสมกับนเรนทร์ เท่าที่ดูพ่อแม่นเรนทร์เขาชอบพิงค์มากเลยนะลูก” ภัคพิงค์เม้มริมฝีปาก พูดไม่ออกเมื่อเห็นแววความหวังในดวงตาของท่าน พ่อจะรู้บ้างไหมว่ากำลังสร้างแรงกดดันมหาศาลให้เธอ เธอไม่ใช่คนพิเศษที่จะทำให้นเรนทร์รักใคร่ชอบพอได้หรอก ไม่มีทั้งเสน่ห์ดึงดูดหรือความน่าสนใจให้อยากจะค้นหา เธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น “พ่อรู้ว่าลูกลำบากใจ แต่พ่อไม่มีทางเลือกจริงๆ ช่วยครอบครัวเราสักครั้งเถอะนะพิงค์ บริษัทจำเป็นต้องได้เงินก้อนใหญ่มาช่วยพยุงกิจการไม่ให้ล้ม การแต่งงานกับนเรนทร์จะทำให้เราได้ทั้งคู่ค้าที่มั่นคงและแหล่งเงินทุนมาคอยหมุนเวียน ไม่ให้ขาดสภาพคล่องจนขาดทุนเหมือนที่แล้วมา บริษัทของเราจะอยู่รอดหรือไม่รอดขึ้นอยู่กับลูกแค่คนเดียวนะ” “แต่ถ้าทางนั้นรู้ว่าพิงค์ไม่บริสุทธิ์แล้วล่ะคะ” ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากแต่งงานกับนเรนทร์ เธอเต็มใจ แต่ไม่อยากปิดบังหรือหลอกลวงเขา การแต่งงานควรมีความซื่อสัตย์จริงใจ บริสุทธิ์ใจต่อกัน หากเขารับไม่ได้ในสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ เธอก็เข้าใจได้และไม่นึกโกรธเคืองเขาสักนิด ลองเธอเป็นเขาก็อาจจะคิดเหมือนกัน มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ใช่ว่าผู้ชายคนไหนจะไม่รู้สึกรู้สมหรือทำใจยอมรับกันได้ง่ายๆ “เราไม่ต้องบอกพวกเขาทุกเรื่องก็ได้นี่ลูก เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นแค่อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด มันไม่ใช่ความผิดของพิงค์ คิดซะว่าเป็นแค่ฝันร้ายตื่นหนึ่ง ไม่มีค่าพอให้ต้องนึกถึงหรือจดจำ ลืมมันไปซะให้หมด ทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น” “แต่แบบนั้นก็เท่ากับพิงค์หลอกเขาสิคะ มันไม่แฟร์...” “ฟังแม่นะพิงค์” มารดาจับมือเธอแน่นพลางเอ่ยเตือนว่า “ลูกจะบอกเขาเพื่ออะไร แน่ใจเหรอว่านเรนทร์จะรับได้ ผู้ชายทุกคนมีศักดิ์ศรีและถือเรื่องแบบนี้กันจะตาย เชื่อแม่เถอะ...เก็บเรื่องนี้เป็นความลับเอาไว้กับตัวอย่าให้ใครรู้เด็ดขาด เพื่อตัวลูกเองและเพื่อเราทุกคน ที่พ่อกับแม่ทำก็เพราะหวังดีกับลูกนะพิงค์”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม