บทที่ 2 หิ้วกิ๊กเข้าบ้าน 4

822 คำ
“ภัคพิงค์! บอกผมมาสิว่าทำไมคุณถึงอยากจะแต่งงานกับผมจนตัวซีดตัวสั่นนัก” เจ้าบ่าวที่ควรจะมีความสุขตวาดถามเจ้าสาวที่นั่งก้มหน้านิ่งอยู่บนเตียงที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ บรรยากาศโรแมนติกคละคลุ้งไปด้วยรังสีความเดือดดาลที่แผ่ออกมาจากตัวเจ้าบ่าว พร้อมจะแผดเผาตัวเธอและทุกสิ่งที่ขวางหูขวางตาให้ราบเป็นหน้ากอง “...” เห็นเธอเอาแต่นั่งนิ่งราวกับจะยิ่งจงใจยั่วโมโห นเรนทร์ก็ก้าวพรวดประชิดตัว มือคว้าหมับเข้าที่ปลายคางเล็กบีบเต็มแรงจนเนื้อบุ๋ม ดวงตาแดงก่ำมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์จ้องมองเธอเขม็ง ขบกรามแน่นจนเป็นสันนูน ตวาดถามซ้ำเสียงดังลั่นยิ่งกว่าเดิมว่า “ตอบมา!!!” “...” ยิ่งภัคพิงค์บีบน้ำตามองเขาตาปรอย เขาก็ยิ่งเกลียดจนแสยะยิ้มออกมา สายตาเต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลนทิ่มแทงคนตรงหน้าจนแทบแดดิ้น “ไม่ตอบใช่มั้ย งั้นผมจะพูดแทนเอง ที่คุณแต่งงานกับผมก็เพราะ ‘เงิน!’ ไงละ ผมควรจะตบมือชื่นชมในความกตัญญูหรือความหน้าด้านของคุณดี ที่ยอมรับข้อเสนอของแม่ผม ขายตัวแต่งงานแลกกับหุ้น 5% ที่เอาไปช่วยพยุงบริษัทที่ใกล้จะเจ๊งของพ่อคุณ ผมพูดอะไรผิดตรงไหนมั้ย?” “เรน... คุณฟังฉันก่อน” ภัคพิงค์ตื่นตระหนกรีบเอื้อมมือมาไขว่คว้าเขาเอาไว้ แต่ถูกสามีหมาดๆ สะบัดออกอย่างรังเกียจจนล้มฟุบลงไปคาเตียง “ฟังคุณ...เพื่ออะไร? เพื่อให้คุณคิดว่าผมเป็นควายที่จะหลอกสนตะพายยังไงก็ได้งั้นเหรอ” “มะ ไม่...ไม่ใช่นะ” ภัคพิงค์ส่ายหน้าปฏิเสธอย่างเอาเป็นเอาตาย น้ำตาที่เอ่อคลอเบ้าร่วงหล่นเป็นสาย “หึ...ไม่ใช่?” นเรนทร์แค่นเสียงเยาะในลำคอ แต่ช่างเสียดแทงหัวใจของคนฟังให้ปวดหนึบไปทั้งดวง ก่อนจะโน้มตัวลงมาใกล้ท้าวสองมือลงข้างๆ ร่างบางอย่างจงใจแนบชิด กระซิบเสียงนุ่มเจือแววเหยียดหยามข้างหูเธอว่า “งั้นช่วยบอกผมหน่อยสิว่าการที่พวกคุณส่งเจ้าสาวมีตำหนิมาให้ผม มันหมายความว่ายังไง” ดวงตาคู่สวยไหวระริกเบิกโพลง สายตายิ้มเยาะสาดความสะอิดสะเอียนใส่ภัคพิงค์ไม่ยั้ง เหมือนค้อนปอนด์หนักๆ ที่ทุบศีรษะเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความอัปยศอดสูทับถมเธอมากกว่าความอับอายที่เขาล่วงรู้ความลับ ความหวาดกลัวที่แล่นปราดตามมายิ่งทำให้ใจเธอว้าวุ่น ความคิดสะเปะสะปะ ได้แต่พยายามไขว่คว้ามือเขาเอาไว้ราวกับขอนไม้ที่ช่วยชีวิต “คะ คุณฟังฉันอธิบายก่อน...” นเรนทร์เลิกคิ้วมองเธออย่างเย็นชา แววตาหรี่แคบคล้ายสัตว์ดุร้ายที่พร้อมจะเข่นฆ่าเธอได้ทุกเมื่อ ทว่าก็ยังมีแก่ใจให้โอกาสเธอได้พูด ไม่ใช่ว่าจะเชื่อ แต่เขาอยากรู้ว่าภัคพิงค์จะแก้ตัวน้ำขุ่นๆ อย่างไรต่างหาก “ได้! งั้นก็บอกมาให้หมดว่าคุณใจง่ายไปนอนกับผู้ชายหน้าไหนมาบ้าง” ภัคพิงค์กัดริมฝีปากจนเกือบได้เลือด เอาแต่ส่ายหน้าด้วยความสับสน น้ำตาเอ่อคลอเมื่อหวนนึกถึงฝันร้ายที่สุดในชีวิตของเธอ เธอไม่รู้และไม่สามารถบอกอะไรเขาได้เลย “ฉะ...ฉันไม่รู้” ตอบเสียงเบาหวิวคล้ายคนที่หายใจไม่ออก “ฮึ! คุณจะไม่รู้ได้ยังไงภัคพิงค์ หรือว่าคุณมั่วมากจนเอาไม่เลือกหน้า” ลมหายใจภัคพิงค์สะดุดขาดห้วง รอยยิ้มเย้ยหยันกับสีหน้ารังเกียจของนเรนทร์ ทำเอาเธอหน้าชาตัวชาวาบ รู้สึกราวกับเลือดในกายแข็งตัวเป็นก้อนน้ำแข็ง ไม่คิดไม่ฝันว่าคนที่เธอรักจะดูหมิ่นเหยียดหยามกันถึงขนาดนี้ นเรนทร์ไม่เชื่อเธอ...ไม่เลยสักนิด! ที่เขาให้โอกาสก็เพื่อจะเย้ยหยันเธอให้ยิ่งอับอายขายหน้ามากขึ้นเท่านั้น แล้วจะมีประโยชน์อันใด พูดหรือไม่พูดผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกัน อย่างไรก็มีแค่เธอที่เจ็บอยู่คนเดียว ดีไม่ดียิ่งพูดเธอจะยิ่งปวดใจหนักกว่าเดิม ไม่เพียงต้องทนเห็นสายตาประณามของเขา ยังเป็นการกรีดบาดแผลที่ยังสดใหม่ให้เหวอะหวะจนรักษาไม่หาย กลายเป็นฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเธอไปจนวันตาย ถ้าอย่างนั้นก็สู้ยอมรับและตัดใจไปเสียเลยไม่ดีกว่าหรือ... “ค่ะ ฉันมีตำหนิ ฉันไม่บริสุทธิ์แล้ว คุณเองก็รู้และรังเกียจฉันมาก แต่ทำไมถึงยังยอมแต่งงานกับฉันอีกล่ะคะ ในเมื่อคุณสามารถยกเลิกได้ทุกเมื่อ” “เฮอะ! ยกเลิกเพื่อให้ผมโดนคนอื่นมองว่าโง่ หรือปล่อยให้คุณเที่ยวไปหลอกลวงเร่ขายผู้ชายคนอื่นน่ะเหรอ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม