หญิงสาวที่ผล็อยหลับไปทั้งน้ำตาตื่นมาอีกครั้งเพราะอาการปวดกระเพาะ ตั้งแต่เที่ยงจนตกดึกยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเธอเลยสักคำ ร่างกายเลยประท้วงด้วยการจุกเสียดแน่นท้อง ปวดหน่วงๆ เป็นระยะจนภัคพิงค์หน้าซีด ค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นจากเตียงฝืนเดินมาหยิบยาแก้โรคกระเพาะในประเป๋า ลงไปห้องครัวเพื่อหาอะไรรองท้องก่อนกินยา
ภัคพิงค์มองไปรอบๆ บ้านที่เงียบสงัดมีเพียงแสงไฟสลัว ไม่เห็นนเรนทร์กับนางแบบสาวนัวเนียกันอย่างที่นึกกลัว ก็อดสงสัยไม่ได้ แต่คิดอีกทีก็ไม่น่าแปลกอะไร พวกเขาอยู่ในช่วงโพรโมชันของความลุ่มหลงร้อนแรง ก็คงรีบร้อนสะกิดพากันไปต่อในห้องนอนนั่นละ
หมอสาวยิ้มขื่นกลืนยาลงคอแล้วดื่มน้ำตาม ทว่าก็ยังฝาดเฝื่อนขมลิ้นไม่ยอมหาย ต้องดื่มน้ำตามไปอีกหลายแก้ว เธอถอนหายใจทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ ค่อยๆ ปรับลมหายใจให้ผ่อนคลายความเครียด เช็ดเหงื่อที่เกาะพราวเต็มหน้าผาก รอจนอาการปวดท้องทุเลาเบาบางจึงลุกขึ้นเตรียมจะกลับขึ้นห้อง ตอนหมุนตัวก็ชนเข้ากับร่างหนาของใครบางคนเข้าอย่างจัง
“เป็นอะไรมั้ย”
เสียงทอดอ่อนเจือแววอาทรทำให้ภัคพิงค์ขมวดคิ้วคิดว่าหูแว่วไปเอง เธอหลับตาสลัดอารมณ์อ่อนไหวแล้วเงยหน้าสู้ตากับเขา เอ่ยอย่างห่างเหินว่า
“ไม่เป็นอะไรค่ะ ขอตัว”
มือที่จับมุมขอบโต๊ะเอาไว้แน่นคลายออก เบี่ยงกายหลบเขา แต่หลบไม่พ้นเพราะมือหนาที่เอื้อมมารั้งข้อมือเธอไว้ ตวัดดึงตัวเธอเข้ามาสู่อ้อมอก โอบแขนเกี่ยวรัดรอบเอวกักขังเธอไม่ให้ขัดขืนดิ้นหนี ปลายนิ้วแข็งแรงเชยคางเธอขึ้นให้สบตากัน ดวงตาสั่นไหวหลุบหลบสายตาคมนิ่งลึกที่มองกันอย่างไม่วางตา
“ปล่อยค่ะ” ภัคพิงค์ยกมือปัดมือเขาพร้อมเบี่ยงหน้าหนี แต่ก็หนีไม่พ้น เธอถูกบังคับเชยคางให้หันมาเผชิญหน้ากับนเรนทร์อยู่ดี เดาใจไม่ถูกว่าเขาคิดอะไรอยู่ รู้แค่ว่าเจ้าตัวคงไม่พอใจอะไรสักอย่าง ดูจากหัวคิ้วที่ขมวดกันมุ่น
“ร้องไห้ทำไม?” นเรนทร์มองตาแดงๆ ที่บวมช้ำแล้วแน่นหน้าอกราวกับมีใครโยนหินลงมากดทับ ยิ่งมองก็ยิ่งหงุดหงิดเลยเผลอถามออกไปไม่รู้ตัว จู่ๆ ก็นึกเสียใจที่ยอมเลยตามเลยให้โบว์วี่มาพักที่ห้อง คล้ายทับรอยที่ของเธอ ดูเหมือนครั้งนี้เขาจะเล่นแรงเกินไปหน่อย
ภัคพิงค์เจ็บจี๊ด อยากย้อนถามกลับว่าเขาเล่นเอาผู้หญิงอื่นเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับเธอ เธอควรจะซาบซึ้งดีใจยกมือไหว้เขารึไงล่ะ
“ไม่ได้ร้อง ฉันแค่ปวดหัว”
“ปวดหัว แล้วทำไมถึงตาแดง” นเรนทร์ไล่บี้ไม่ยอมง่ายๆ
“คุณจะเอาอะไรกับโรคภัยไข้เจ็บล่ะคะ” เธอปัดมือเขาอีกครั้งแรงขึ้นพลางดันอกเขาออกห่าง อยากรีบไปให้ไกลด้วยรู้สึกปวดหน่วงในท้องขึ้นมาอีกแล้ว ไม่อยากให้เขาเห็นแล้วคิดว่าเธอสำออย ตั้งใจเรียกร้องความสนใจ
อารามเร่งรีบทำให้ไม่ทันระวังเท้าเตะขาโต๊ะ สะดุดล้มไปทั้งตัว สองมือเธอไขว่คว้าหาที่จับยึดไปทั่ว ก่อนจะตกสู่อ้อมแขนที่ยื่นมาประคองอย่างถนอม ไออุ่นที่แผ่ซ่านมาจากฝ่ามือใหญ่แทรกซึมลึกลงไปในแผ่นหลัง ที่เคยตั้งมั่นว่าจะถอยห่างจากเขาก็พานจิตใจหวั่นไหว หัวใจวาบหวามไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสองมือเธอเกาะอยู่บนหัวไหล่เขาตั้งแต่ตอนไหน
จิตใต้สำนึกสั่งให้ภัคพิงค์ดึงมือกลับ แต่สายตาลุ่มลึกที่ดึงดูดใจราวกับมนตร์สะกดทำให้เธอหยุดนิ่ง เป็นฝ่ายถูกนเรนทร์โอบกอดสอดประสานปลายนิ้วเกี่ยวร้อยกัน สองกายแนบชิดจนได้ยินเสียงลมหายใจของเขาและหัวใจที่เต้นแรงของเธอ
“ปละ ปล่อยฉัน”
ภัคพิงค์กะพริบตาถี่ๆ พยายามตั้งสติ แต่ทำได้ยากเย็นเหลือเกิน เมื่อใบหน้าคมคายหล่อร้ายก้มลงมาใกล้ไล้ปลายจมูกโด่งถูไถกับปลายจมูกเธอเล่น ลากเลื่อนเคลื่อนไปยังผิวแก้มนุ่มนิ่ม ทั้งสูดทั้งหอมกลิ่นครีมอาบน้ำที่ติดอยู่บนผิวกายเธอ
“หอม” เขาชมห้วนๆ ขณะลากไล้ปลายจมูกกดจูบที่ต้นคอเธอ ทำเอาหญิงสาวจักจี้ซ่านสยิวไปทั้งตัว ในหัวมึนงงทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ขยุ้มเกาะไหล่เขาแน่น ข้างหูได้ยินเสียงหายใจหนักๆ มาพร้อมกับลมหายใจร้อนผ่าวแทบจะแผดเผาผิวเธอ
“อุ๊ย...!” หญิงสาวสะดุ้ง สีหน้าเลิกลั่กแววตาแตกตื่น สัมผัสได้ถึงของแข็งร้อนจัดบางอย่างที่เสียดสีทิ่มตำอยู่แถวๆ ท้องน้อยของเธอ