บทที่ 3 การยั่วยุของมือที่สาม 6

846 คำ
“ขอโทษจริงๆ ค่ะคุณแม่ ช่วงนี้คนไข้ที่โรงพยาบาลค่อนข้างเยอะเพราะโรคที่กำลังระบาดหนัก พิงค์เลยปลีกตัวไม่ค่อยได้ค่ะ” รสสุคนธ์พยักหน้ารับ “แม่เข้าใจว่าคนเป็นหมอน่ะยุ่งมาก แต่ก็อย่ามัวแต่ทำงานจนลืมดูแลครอบครัวล่ะ พิงค์กับตาเรนอายุก็มากขึ้นกันทุกวัน ควรจะมีหลานให้แม่กับพ่ออุ้มได้แล้ว” คนถูกเร่งเร้าเรื่องลูกหน้าซีด ในลำคอยิ่งถูกบีบแน่นจนกลืนน้ำลายก็ยังไม่ได้ จะบอกท่านได้อย่างไรว่าตั้งแต่แต่งงานกันมานเรนทร์ไม่เคยแตะต้องเธอเลยสักครั้ง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เขาทิ้งเธอเอาไว้คนเดียวถึงสี่ปีเต็ม กลับมาแล้วเขาก็ยังไม่เคยนอนร่วมห้องกับเธอ ทำราวกับรังเกียจเธอมาก ซ้ำยังเลือกที่จะควงผู้หญิงคนอื่นไปทั่ว แล้วจะมีเวลาที่ไหนมาทำให้เธอท้องได้ล่ะ? “ผู้ชายน่ะพอมีลูกแล้วก็จะเลิกทั่วเตร่ มีความรับผิดชอบมากขึ้นโดยสัญชาตญาณนั่นแหละ” รสสุคนธ์เอ่ยราวกับไปนั่งอยู่ในใจลูกสะใภ้ เข้าใจถึงความลำบากใจของเธอ แต่หล่อนเองก็จำเป็นต้องกระตุ้นพวกเขาสักหน่อย ไม่อย่างนั้นจะเอาแต่เอื่อยเฉื่อยเมินใส่กันจนไม่มีอะไรคืบหน้าสักที ที่ต้องทำอย่างนี้ไม่ใช่เพราะอยากใช้ภัคพิงค์ช่วยส่งเสริมนเรนทร์ให้เติบโตเป็นคนที่เปี่ยมคุณภาพสมบูรณ์ในทุกๆ ด้านทั้งเรื่องงานและครอบครัว แต่ตัวหล่อนเองก็ชอบพอลูกสะใภ้คนนี้อยู่ไม่น้อยเช่นกัน ถึงชาติตระกูลจะไม่เด่นดังเท่าเตชะนรากูล แต่เรื่องการศึกษาและความฉลาดเฉลียวนั้นใช้ได้ แถมยังรู้จักวางตัว อยู่เป็นและมีน้ำอดน้ำทนเป็นเลิศ เหมาะที่จะรับมือนเรนทร์ที่สุด รวมถึงพวกแม่รีแม่แรดที่เข้ามาเกาะแกะลูกชายหล่อนไม่หยุดหย่อน รสสุคนธ์เชื่อว่าภัคพิงค์จะมีวิธีจัดการอย่างสุขุม เหมือนกับเสาเอกที่รับน้ำหนักของตัวบ้านอย่างมั่นคง ซ้ำยังเป็นความอบอุ่นและความเย็นฉ่ำชโลมใจในยามที่ลูกชายหล่อนร้อนเป็นไฟได้ และมั่นใจว่าคิดไม่ผิด! ภัคพิงค์ได้แต่ยิ้มรับ แม้ในใจจะไม่เห็นด้วยก็ตาม คนที่ทำทุกอย่างตามใจตัวเองอย่างนเรนทร์น่ะหรือจะยอมเปลี่ยนแปลงเพียงเพราะมี ‘ลูก’ เธอกลัวว่าจะกลายเป็นโซ่ตรวนที่รัดคอเขาแน่น ทำให้ยิ่งอึดอัดหายใจไม่ออกเสียมากกว่า ครอบครัวที่สุขสันต์ มีสามีที่รักใคร่อ่อนโยน มีลูกๆ น่ารักคอยห้อมล้อม ใครบ้างจะไม่เคยฝันถึง แค่คิดเธอก็ยิ้มได้ทั้งวันแล้ว แต่อยู่กับเขามานานขนาดนี้ ต่อหน้าผู้คนแสดงบทภรรยาผู้งามสง่าใจกว้าง แต่ลับหลังต้องทนกล้ำกลืนความเจ็บช้ำมาไม่รู้กี่ครั้งกี่หน หัวใจเธอก็ใกล้จะตายแล้ว แทบไม่กล้าคาดหวังว่าถึงครอบครัวที่อบอุ่น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความสุขคืออะไร บาดแผลที่นเรนทร์กรีดลงบนหัวใจเธอด้วยมือเขาเอง ทำให้เธอเจ็บฝังใจ ทั้งยังนึกขยาดและสิ้นหวัง นอกจากเฝ้ารอเวลายุติบทบาทสามีภรรยาต่อกัน รอแค่เพียงเมื่อไรนเรนทร์จะเอ่ยปากขอหย่าจากเธอ นอกจากนี้เธอไม่เคยคิดถึงสิ่งอื่นใดอีกเลย แม้เพียงสักนิดก็ยังไม่กล้า... “คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ช่วงนี้ทั้งพิงค์กับเรนค่อนข้างจะยุ่งด้วยกันทั้งคู่ เราเลยอาจจะไม่ค่อยได้ใช้เวลาร่วมกันมากนัก อีกเดี๋ยวก็คงจะดีขึ้น พิงค์จะรีบเคลียร์ทุกอย่างให้ลงตัวค่ะ” ภัคพิงค์เอ่ยอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ จะให้พูดจาหักด้ามพร้าตัดรอนท่านไปเลยไม่ใช่เรื่องดี เธอยังมีเรื่องที่ต้องการความช่วยเหลือจากแม่สามีอยู่ เกี่ยวกับการส่งยาล็อตใหม่ที่ล่าช้าจากปัญหาทุจริตในบริษัทของเธอนั่นละ “ขอบใจมากนะ” รสสุคนธ์ยิ้มอ่อนๆ กุมมือลูกสะใภ้ตบหลังมือเบาๆ อย่างพอใจที่เธอว่าง่าย “พ่อกับแม่แก่มากแล้ว ความหวังของพวกเราสองตายายมีแค่อยากเห็นครอบครัวของลูกๆ มีความสุข ได้อยู่กันพร้อมหน้า ถ้าพิงค์ทำให้พ่อกับแม่สมหวังได้ ไม่ว่ามีเรื่องอะไรแม่รับปากว่าจะช่วยพิงค์เต็มที่ รวมถึงคุณพ่อด้วย เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เรื่องอะไรก็เคลียร์กันได้ทั้งนั้น” รสสุคนธ์มองตาลูกสะใภ้พร้อมเอ่ยเป็นนัยๆ ก่อนจะเดินเข้าไปภายในบ้าน ปล่อยให้ภัคพิงค์คิดทบทวนให้ดีว่าควรทำอย่างไร ภัคพิงค์ต้องการความช่วยเหลือ หล่อนก็มอบให้ด้วยความเต็มใจแลกกับการอุ้มท้องมีหลาน ถือว่าได้ทั้งคู่แฟร์ต่อกันดี ก็หวังใจว่าเธอจะมีเลือดนักสู้อยู่ในตัว ฉลาดเลือกที่จะลุกขึ้นมาสู้กับปัญหามากกว่ารีบใจเสาะยอมแพ้ไปเสียก่อน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม