บทที่ 5 ผมคือสามีของคุณ 1

870 คำ
ดวงอาทิตย์สาดแสงจ้าผ่านบานกระจกเข้ามากระทบเปลือกตาหญิงสาวที่เพิ่งผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลียเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังกรำศึกสวาทมาเกือบค่อนคืน แต่ที่ทำให้ภัคพิงค์สะดุ้งตื่น ทั้งที่ยังหลับไม่เต็มตา เป็นเพราะเสียงเคาะประตูและเสียงใครบางคนที่ดังโหวกเหวกอยู่หน้าห้องว่า “หลีกไป! ฉันจะเข้าไปข้างใน” ดวงตาพร่ามัวมองไปยังบานประตู ก่อนจะหันมาสนใจเจ้าของร่างสูงโปร่งที่ยืนหันหลังให้เธอ พลางเอามือล้วงกระเป๋าสายตาทอดมองผ่านกระจกออกไป ไม่ทุกข์ร้อนเลยสักนิดว่ากำลังมีใครมารบกวนความสงบของเขา ทำราวกับไม่ได้ยินเสียอย่างนั้น ไม่มีทีท่าว่าจะขยับเสียด้วยซ้ำ เธอไม่รู้หรอกว่านเรนทร์กำลังคิดอะไรอยู่... แต่ในหัวของเธอตอนนี้กลับมีแต่ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนหลั่งไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด คิดถึงความบ้าคลั่งร้อนแรงของสามี เธอก็พลันตื่นตัวลุกพรวดขึ้นนั่ง สองมือกำผ้านวมที่คลุมกายเอาไว้แน่น ส่งเสียงครางแผ่วดัง “ซี้ด!” เมื่อความเจ็บปวดจู่โจมเข้าใส่ทั้งตัวราวกับถูกรถบรรทุกบดขยี้ เจ็บจนหน้าซีดปากสั่นต้องเลื่อนมือมากุมหน้าท้องเอาไว้ “ตื่นแล้วเหรอ” นเรนทร์ละสายตาหันกลับมามองเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย แววตาไร้ความอบอุ่นอ่อนโยนแม้ร่างกายของเราสองคนจะเพิ่งแนบชิดสุขสมด้วยกันมาหมาดๆ ราวกับมันไม่มีผลอะไรกับจิตใจเขาทั้งนั้น คิดแล้วภัคพิงค์ก็ได้แต่ก้มหน้ากลืนความเจ็บปวดลงไป ตอบเขาเสียงเบาหวิวอยู่ในลำคออย่างถนอมคำพูดว่า “อืม” ชายหนุ่มขมวดคิ้วอย่างไม่ใคร่พอใจ ภัคพิงค์ทำเหมือนกับใช้เขาเสร็จก็ถีบหัวเขาส่ง แล้วไอ้สีหน้าอึดอัดอมทุกข์นั่นอีก... เสียใจมากนักรึไงที่นอนกับเขาที่เป็นผัวเธอ? “เป็นอะไร แกล้งแสดงละครให้ใครดูอีก ทำยังกับไม่เคยไปได้” น้ำเสียงเยาะเย้ยที่ดังอยู่เหนือศีรษะเธอ ทำให้ภัคพิงค์เงยหน้ามองคนพูดอย่างไม่พอใจ แค่ต้องตื่นมาเจอสายตาดูถูกของเขา ซ้ำยังมีเสียงดังเอะอะน่าหงุดหงิดไม่หยุดอยู่หน้าห้องว่า “เอ๊ะ...อีแก่! เป็นแค่ขี้ข้ากล้าดียังไงมาหือกับฉัน แกไม่รู้รึไงว่าฉันเป็นใคร คอยดูเถอะ...ฉันจะฟ้องคุณเรนให้ไล่แกออก” เสียงแหลมๆ ที่ร้องกรี๊ดๆ เป็นนกหวีดจะเป็นใครไปได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่กิ๊กคนโปรดของสามีเธอ แค่นี้ก็น่าปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว แต่ที่แย่ยิ่งกว่าก็คือตื่นมาปุ๊บ ต้องผจญกับความปากร้ายของสามีปั๊บนี่สิ “ผมพูดผิดเหรอ ทั้งที่มันเป็นสิ่งที่คุณต้องการแท้ๆ” เขาเลิกคิ้วมองเธออย่างเย็นชา “คงคิดว่าผมเป็นแค่ไอ้ไก่อ่อนในกำมือคุณสินะ ถึงได้กล้าวางยาผม แต่โทษทีนะคนคอแข็งดื่มเหล้าแทนน้ำอย่างผม แค่ดมก็รู้แล้วว่าคุณใส่อะไรลงไปในไวน์ขวดนั้น แผนของคุณน่ะมันบ้องตื้นและสิ้นคิดสุดๆ แถมฝีมือการแสดงก็ยังห่วย โกหกไม่เนียนไปเรียนมาใหม่ แล้วค่อยคิดจะมาลองดีกับผม” ถูกนเรนทร์แฉ แถมยังเหมือนถูกเขาลากไปตบหน้ากลางห้าแยก ภัคพิงค์ก็อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ได้แต่ก้มหน้างุดเม้มปากแล้วเม้มปากอีก เป็นอย่างที่เขาตอกหน้ากันจริงๆ นั่นละ เธอมันโง่แสนโง่จนไม่มีอะไรจะเปรียบ ถึงได้ลงมือทำเรื่องสิ้นคิดอย่างนี้ แต่ว่า... “ในเมื่อคุณรู้ตั้งแต่แรกแล้ว ทำไมยัง...” เธอละคำพูดไว้เพราะกระดากปาก แถมยิ่งพูดมากเธอก็ยิ่งดูแย่ไร้ยางอายมากขึ้นเท่านั้น “ก็คุณกล้าเสนอ ผมก็เลยสนองให้แบบถึงอกถึงใจ ของฟรี...ถึงจะมีตำหนิหรือเป็นแค่ของมือสอง แต่ใครจะไม่เอาล่ะ แล้วถ้าเกิดผมพลาดทำคุณท้องขึ้นมาจริงๆ ก็ถือว่าเป็นผลพลอยได้ของคุณไปแล้วกัน” นเรนทร์ยักไหล่คล้ายเป็นเรื่องปกติธรรมดา หัวอกคนฟังทั้งโกรธทั้งจุกปวดร้าวไปทั้งใจ เขาพูดถึง ‘ลูก’ เหมือนไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ภัคพิงค์ไม่รู้เลยว่าควรจะเกลียดเขาหรือเกลียดตัวเองมากกว่ากัน อยากจะเถียงก็เถียงไม่ออกสักคำ เพราะเธอเลือกทางนี้เอง อยากจะตบหน้าเขาสักฉาดให้แสบๆ คันๆ เหมือนที่เธอเจ็บ นเรนทร์ก็คงไม่รู้สึกรู้สา ทำไปก็ไม่ชนะ แถมไม่มีอะไรดีขึ้นมา มีแต่จะยิ่งถูกเขาเหยียบย่ำให้เจ็บช้ำมากขึ้นเท่านั้น สู้เธอเดินหนีไปเสียจะดีกว่า ที่สำคัญคนของเขาก็เอาแต่ร้องโวยวายอยู่หน้าห้องไม่ยอมไปไหน เธอไม่อยากจะโต้เถียงกับโบว์วี่ในสภาพที่น่าอายอย่างนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม