บทที่ 1 หมอม่าย3

903 คำ
“ไม่เป็นไรค่ะแม่ ไม่ต้องห่วง เรื่องยาพิงค์จะคุยกับคุณเรนเอง น่าจะพอมีทางออก ส่วนเรื่องเงินเดี๋ยวพิงค์จะโอนเงินปันผลให้ค่ะ แม่แค่ดูแลพ่อให้ดีๆ ก็พอ บอกพ่อด้วยว่าอย่าคิดมาก พอพิงค์ว่างเมื่อไหร่จะแวะเข้าไปหาพ่อกับแม่ทันที” เธอคิดว่าเงินจากหุ้น 5 % ของโรงพยาบาลราษฎร์นรากูลที่แม่สามีให้มา น่าจะมากพอช่วยอุดรอยรั่วของปัญหาครั้งนี้ได้ “ขอบใจมากนะลูก แม่ไม่อยากรบกวนพิงค์เลย แต่แม่มองไม่เห็นใครแล้วจริงๆ นอกจากลูก” “พิงค์เป็นลูกพ่อกับแม่ ถ้าพิงค์ไม่ช่วยครอบครัวเรา แล้วใครจะช่วยล่ะคะ” เธอเอ่ยปลอบพร้อมรับปากท่านให้คลายใจ แม้ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะเอาอย่างไรดี แต่ที่แน่ๆ เธอคงไม่อาจขัดคำสั่งของรสสุคนธ์ได้ การสร้างความไม่พอใจให้แม่สามีจะไม่เป็นผลดีกับเธอและครอบครัวเลยสักนิด สู้เธอเป็นศัตรูกับนเรนทร์ยังจะต่อกรได้ง่ายกว่า “พิงค์... แม่รู้นะว่าพิงค์รักเขา พิงค์ถึงยอมแต่งงาน ถึงจะแต่งตามคำขอของพ่อ แต่ก็ทำเพราะหัวใจส่วนหนึ่งด้วย ต่อให้ลูกกับเขาจะผิดใจกันเพราะเรื่องอะไรก็ตาม อย่าปล่อยเอาไว้นาน ทิฐิและการเอาชนะไม่เคยทำให้ใครมีความสุข แม่อยากให้พิงค์กับเขาพูดคุยปรับความเข้าใจกันนะลูก แม่เชื่อว่านเรนทร์ไม่ใช่คนเลวร้าย ถ้าเปิดใจพูดกันด้วยเหตุผลเขาน่าจะยอมรับฟัง แม่ไม่ได้พูดเพราะผลประโยชน์ แต่แม่พูดในฐานะแม่ที่อยากเห็นพิงค์มีความสุข” ภัคพิงค์ถอนใจเข้าใจในความหวังดีของท่าน แต่ปัญหาของเธอกับเขาแคลบแคลงร้าวลึกกินใจเกินกว่าจะอาศัยแค่การพูดกันเพียงไม่กี่คำ ในสายตาแม่เธอนเรนทร์อาจดูเป็นคนง่ายๆ เข้าใจโลก ก็ใช่...เขาใจดีและอ่อนโยนกับผู้หญิงทุกคน แต่ยกเว้น...เธอ! ไม่สิ...เขาอาจจะเคยดีกับเธออยู่บ้าง แต่มันก็นานมาแล้ว ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว เป็นเพราะเธอเลือกเอง เธอเลือกเส้นทางที่ทำให้เขา ‘เกลียด’ เธอ แล้วจะโทษใครได้? “พิงค์กับเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรกันหรอกค่ะ แม่ไม่ต้องห่วง” ...ก็แค่เขาไม่รักเธอ เลยอยากจะดีดเธอให้กระเด็นออกไปจากชีวิตเขา “วันนี้เรามีนัดทานข้าวกัน ใกล้จะได้เวลาแล้ว ขอพิงค์ไปเติมแป้งแต่งหน้าสักหน่อย แค่นี้ก่อนนะคะแม่” ภัคพิงค์จำต้องพูดปดแล้วตัดบทวางสายไปไม่ให้มารดาซักไซ้ หลับตาพิงศีรษะกับพนักอย่างอ่อนล้า ไม่รู้ต้องเผชิญปัญหาน่าเบื่อแบบนี้อีกกี่ครั้งกี่หน ไม่รู้เมื่อไรที่เธอจะได้ตัดโซ่ตรวนที่หนักอึ้งออกไปให้สบายตัวสบายใจเสียที เธอทำไม่ได้...มีแต่ต้องสู้! หญิงสาวนั่งอย่างสงบนิ่งปลุกแรงฮึดในตัวขึ้นมา มือบางกำหมัดแน่น คิดถึงบริษัทที่พ่อเธอเพียรดิ้นรนรักษาเอาไว้จนเลือดตาแทบกระเด็น เธอก็ตัดใจหันหลังหนีไม่ได้ ได้แต่จำใจต้องเผชิญหน้ากับสามีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แม้ว่าในใจจะเหนื่อยหน่ายหมดแรงสักแค่ไหน ต่อให้ถูกคลื่นอารมณ์ของใครต่อใครถาโถมซัดใส่เธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนจวนเจียนจะจมน้ำตาย เธอก็ต้องทน กัดฟันยืนหยัดอดทนให้ถึงที่สุด เชิดหน้าสู้เข้าไว้ทำเหมือนไม่แคร์ เพราะเธอแพ้ไม่ได้ หากเธอล้มนั่นหมายถึงทุกคนในครอบครัวเธอจะพลอยล้มครืนลงไปด้วย เธอยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด แต่ก่อนไปเธอต้องเตรียมตัวให้พร้อม! อาศัยความร่วมมือจากแม่สามีแลกกับยอมเงียบปากให้ท่านตำหนิสองสามคำ ภัคพิงค์ก็รู้ว่าตอนนี้นเรนทร์พักอยู่ที่ไหน เธอขับรถมุ่งตรงไปยังเพนต์เฮาส์ที่เขาเคยพักตั้งแต่สมัยเรียนยันก่อนไปเกาหลี กดลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนสุด สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกดกริ่ง เพราะเธอไม่รู้รหัสผ่านประตูห้องพักของเขา ยืนรออย่างอดทนด้วยคงไม่ได้เข้าไปในนั้นง่ายๆ แน่ และก็เป็นไปตามคาดกว่าจะรอให้คนมาเปิดประตูเธอก็แทบขาแข็ง แถมพอเห็นหน้าอีกฝ่ายปุ๊บเธอก็ถึงกับชะงัก ไม่รู้หรอกนะว่านางแบบสาวทรงโตหุ่นเฟียร์สคนนี้ไปถึงขั้นไหนต่อไหนกับสามีเธอแล้ว แต่พอเจอหน้ากันก็เหยียดปากจิกตามองกันแบบนี้… เธอไม่ชอบและจะไม่ทน! “มาหาใคร?” “สามีฉัน!” หล่อนถามเสียงห้วนมา เธอก็ตอบกลับเสียงแข็ง “อ๋อ...เมียคุณเรน” นางแบบสาวยิ้มเย้ยอย่างไม่สะทกสะท้าน “มาตามผัวกลับบ้านแบบนี้ ไม่รู้ตัวเลยรึไงว่าผู้ชายเขาเบื่อขนาดไหน น้ำพริกถ้วยเก่าแถมยังรสชาติจืดชืดจะมาสู้ต้มยำหม้อไฟรสแซ่บได้ยังไงล่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม