บทที่7

1381 คำ
โม่โฉวถึงกับโดนตัดสินประหาร หากจะกล่าวอ้างว่าไม่รู้แต่สิ่งที่นางกระทำลงไปร้ายแรงถึงขั้นเรียกว่าขายชาติได้เลย ตระกูลโม่ไม่มีคนรอดจากเหตุการณ์นี้สักคนเดียว เยี่ยนซินก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ถึงนางจะไม่ได้โดนเนรเทศเช่นบิดา แต่ในจวนก็ไม่มีทรัพย์สินเหลือแล้ว บ่าวไพร่ล้วนแต่ถูกขายออกไป อนุในเรือนก็เหมือนผึ้งแตกรัง ต่างหนีตายโดยไม่สนใจใครทั้งสิ้น เยี่ยนซินถึงกับบากหน้าไปขอร้องกู้หลิวหยางให้ช่วยเหลือตน นางยังหวังให้เขารับนางเข้าเป็นอนุก็ยังดี เมื่อไม้ใหญ่เช่นบิดาล้มใครจะสนใจสตรีที่เคยทำร้ายคนรักของเขาเช่นนาง แต่เขาก็ยังให้บ่าวส่งตั๋วเงินให้นางถึงหนึ่งร้อยตำลึง หากนางมีหัวคิดเงินก้อนนี้นางก็สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง นับว่ากู้หลิวหยางไม่ได้ให้เงินกับเยี่ยนซินอย่างสูญเปล่าเขาถามถึงที่อยู่ของลี่ฟางจากนาง แต่เยี่ยนซินรู้เพียงว่าลี่ฟางจะไปอยู่เรือนที่เป็นสินเดิมของมารดานางแต่ไม่รู้ว่าที่ไหน เพราะจวนที่เป็นสินเดิมของจางลี่จิ่นมีสามที่ อยู่หานโจว โยวซานและหานตง ในหานตงนางไม่ได้อยู่แน่ ก็คงต้องตามหาจากอีกสองที่ที่เหลือแทน โยวซานนั้นอยู่ทางตอนใต้ของแคว้น ที่จางลี่จิ่นมีเรือนนี้อยู่ในสินเดิมเป็นเพราะตอนนั้นนางเดินทางไปเที่ยวกับบิดามารดา บิดาของนางจึงสร้างเรือนพักตากอากาศใกล้ชายทะเลให้นางเมื่อนางออกเรือนจึงอยู่ในสินเดิมของนางด้วย ไม่ใช่ลี่ฟางไม่คิดจะไปอยู่ที่โยวซานแต่เพราะต้องเดือนทางนับเดือนนางจึงยังไม่คิดจะไป ตอนนี้อีกเรื่องที่นางคิดคือติดต่อบ้านเดิมของมารดาให้ได้ อย่างน้อยก็อยากตอบแทนตระกูลจางแทนร่างเดิมเสียหน่อย วันที่เยี่ยนหวงโดนเนรเทศ ต้องผ่านเมืองหานโจว ลี่ฟางที่รู้ข่าวก็ให้พ่อบ้านจางนำเงินไปให้บิดาติดตัว พร้อมทั้งติดสินบนทหารควบคุมตัวให้ช่วยเมตตาบิดาของนางสักหน่อย นี่คือสิ่งที่นางที่ได้ชื่อว่าเป็นบุตรสาวจะแสดงความกตัญญูได้ หากบิดาของนางไปถึงชายแดนแล้วค่อยคิดอีกที อย่างไรเขาก็ยังเหลือความเมตตายกสินเดิมให้นางตอนออกจากตระกูล เยี่ยนหวงไม่คิดว่าลี่ฟางจะส่งคนนำของมีค่ามามอบให้ตน แถมยังบอกว่าหากถึงชายแดนแล้วให้ส่งข่าวความเป็นอยู่ให้นางรับรู้อีกด้วย ความรู้สึกผิด ละลายใจเข้ากัดกินหัวใจเขาจนต้องหลั่งน้ำตา อาจจะเป็นเวรกรรมที่ตนทำไว้กับนางและมารดาของนางเขาถึงได้พบจุดจบเช่นนี้ ลี่ฟางยังใช้ชีวิตอยู่ในการควบคุมของแม่นมจางเช่นเดิมตอนนี้นางไม่มีอาการแพ้ท้องแล้ว และยังกินมากขึ้นเสียด้วย ท้องของนางเริ่มมองออกแล้ว ไม่ว่านางจะเดินไปที่ใดในเรือน เสี่ยวชินกับเสี่ยวชิงล้วนแล้วแต่ล้อมหน้าล้อมหลังนางกลัวจะล้ม แต่นางคิดว่าหากยังทำเช่นนี้อยู่นางได้ล้มจริงๆแน่ นางอยากออกไปดูหน้าร้าน นางต้องรับปากแม่นมจางด้วยข้อห้ามมากมายถึงได้ออกจากจวนเสียที ร้านขายรถเข็นเด็ก ตอนนี้มีสินค้าที่เป็นเครื่องเล่นเพิ่มขึ้นด้วยความแปลกใหม่จึงมีคนเข้าออกตลอด นางเดินดูเพียงครู่ก็ไปดูร้านที่สองต่อ ร้านที่สองยังมิได้เปิดขายสินค้า แต่ก็ได้รับการปรับปรุงเรียบร้อยแล้ว นางคิดจะทำน้ำมันบำรุงผิวกายขาย ด้วยอากาศของเมืองหานโจวที่นางอยู่ หนาวไปแล้วถึงหกเดือน หญิงสาวส่วนมากผิวจึงแห้งแตก แม้จะทาน้ำมันช่วยแล้วแต่คุณภาพที่มีในตอนนี้จึงช่วยไม่ได้มาก หากอยากเห็นผลก็ต้องขยันทาบ่อยๆ น้ำมันมะพร้าวก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่นับว่าดีแต่คนส่วนมากไม่ชอบกลิ่นที่เหม็นหืน หากกำจัดกลิ่นได้ก็คงจะดี สำหรับนางคิดว่าน้ำมันจากอาร์แกนตอบโจทย์สำหรับคนผิวแห้งได้อย่างดี แต่ที่นี่น่าจะไม่มี แต่น้ำมันมะพร้าวพวกคุณหนู ฮูหยินนิยมนำมาใส่ผมกันอยู่แล้วจึงไม่นับว่าแปลกใหม่ นางจึงปล่อยทิ้งไว้ก่อนด้วยสมองตอนนี้คิดไม่ออก นางอยากจะทำสบู่ออกมาขายแต่ก็ต้องสกัดโซดาไฟออกมาอีก ขั้นตอนนี้อันตรายนางในตอนนี้ก็ทำเองไม่ได้ แต่ต้องดูก่อนว่าคนของนางใครมีความสามารถพอจะทำได้ แต่ตอนนี้ทุกคนก็งานล้นมือกันแล้ว ลี่ฟางถูกประคองขึ้นรถม้า แต่กลับต้องชะงักเพราะมีคนเรียกนางไว้ "ฟางฟาง" นางหันไปมองตามเสียงเรียก บุรุษใบหน้าชวนมอง ท่าทางคล้ายบัณฑิตคงแก่เรียน เขารีบร้อนเดินมาหานางเมื่อเห็นว่าจำคนไม่ผิด ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมจำได้ทันที บุรุษผู้นี้คือกู้หลิวหยางอดีตคู่หมั้นของนาง "คุณชายกู้" นางก้มศีรษะลงเพื่อเป็นการทักทายเขา เจ้าของชื่อถึงกับชะงักไปเพราะคำเรียกที่เปลี่ยนไปของนาง "ฟางฟาง เจ้าเป็นเช่นใดบ้าง ข้าให้คนออกตามหาเจ้าไปทั่วจนได้ข่าวว่าเจ้าย้ายมาอยู่เมืองหานโจวข้าจึงรีบเดินทางมาทันที" กู้หลิวหยางรีบพูดออกมากลัวนางจะคิดว่าเขามาตามหานางช้าเพราะกำลังจะทอดทิ้งนาง "ข้าสบายดีเจ้าค่ะ ขอบคุณคุณชายที่ห่วงใย" ลี่ฟางอมยิ้มเล็กน้อย อย่างน้อยอดีตคู่หมั้นก็ยังคงออกตามหานาง แต่นางมิใช่เยี่ยนฟางที่รักเขาดั่งท้องฟ้า นางคือลี่ฟางที่ไม่มีความรู้สึกรักใคร่เขาอีกแล้ว แต่หากจะพูดว่าไม่ซาบซึ้งที่เห็นเขาที่หานโจวก็คงไม่ใช่ ถึงแม้จะเป็นเพียงอดีตคู่หมั้น แล้วยังมีเรื่องที่นางถูกกระทำ เขายังเดินทางเพื่อมาพบนางก็คงต้องไว้ไมตรีกลับคืน กู้หลิวหยางยังมีเรื่องอยากสอบถามนางอีกมากจึงอยากชวนให้ไปพูดคุยกันที่โรงเตี๊ยม แต่เมื่อเห็นท้องของนางที่ยื่นออกมาเขาก็ตกใจจนคำพูดทั้งหมดที่อยากถาม อยากบอกว่าเขาเป็นห่วงนางมากเพียงใดถูกกลืนลงคอไปหมด ลี่ฟางที่เห็นความกระอักกระอ่วนของเขาก็ยิ้มให้เขาหากจะโทษกู้หลิวหยางก็คงไม่ได้ นางจึงไม่มีอคติกับเขา "คุณชายกู้เรื่องทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของท่าน คนทำผิดล้วนแต่ได้รับผลของการกระทำแล้ว จากนี้ข้าหวังว่าท่านจะใช้ชีวิตอย่างดี ขอตัวเจ้าค่ะ" "ประเดี๋ยว อยากเจ้ามีเรื่องเดือดร้อนใจ ข้ายินดีช่วยเหลือเจ้าเสมอ" เขาดึงหยกพกห้อยเอวส่งให้นาง สิ่งนี้คือหยกที่ใช้แสดงตัวเบิกเงินที่ร้านแลกเงินของตระกูลกู้ ถือว่าเขาใจกว้างอย่างยิ่ง ลี่ฟางไม่คิดจะรับไว้ นางไม่อยากมีบุญคุณต่อกันอีกแล้ว หากนางรับน้ำใจไว้ไม่รู้เมื่อไรที่นางจะได้ใช้คืน "รับไว้เถิด คิดเสียว่าข้าคือพี่ชายของเจ้า" ความรักความหวังดีที่ผ่านมาเป็นเรื่องจริง ถึงต่อไปเขาจะไม่ได้เป็นสามีภรรยากับนาง เขาก็ยังอยากจะดูแลนางในฐานะพี่ชาย "ขอบคุณเจ้าค่ะ พี่หยาง" นางยิ้มให้เขาอย่างจริงใจ กู้หลิวหยางก็ยิ้มตอบ เขาเหมือนได้ยกก้อนหินที่ถ่วงในใจออกเสียที หากตามหานางไม่เจอเขาคงจะรู้สึกผิดที่มิได้ดูแลนางอย่างที่เคยสัญญาไว้ แต่ในเมื่อนางมีความสุขแล้วเขาก็ทำได้เพียงคอยมองห่างๆเท่านั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม