บทที่9

1193 คำ
ลี่ฟางที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง นางรู้สึกปวดท้องจนส่งเสียงครางออกมา เสี่ยวชินที่มานอนเฝ้านางในคืนนี้โดนแม่นมจางกำชับมาแล้วว่าให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาก็ลุกขึ้นจุดเทียนในห้อง ก็เห็นสีหน้าของนายหญิงมีเหงื่อซึมออกมาตามหน้าผาก "นายหญิงปวดท้องหรือเจ้าคะ" ลี่ฟางกัดฟันพยักหน้าให้เสี่ยวชิน เมื่อเห็นเช่นนั้นเสี่ยวชินก็รีบวิ่งออกไปตะโกนเรียกทุกคนทันที ภายในจวนตระกูลจางจึงวุ่นวายไปหมด ยังดีที่มีหมออู่ที่สติดีที่สุดแจ้งให้บ่าวไปรับหมอตำแย ที่เหลือก็ให้เต็มห้องคลอด แม่นมจาง ฮูหยินอู่ล้วนแล้วแต่ทำอันใดไม่ถูก จนได้ยินเสียงหมออู่สั่งงานจึงได้รีบเข้าไปดูลี่ฟาง "อดทนประเดี๋ยวลูกรัก ท่านพ่อเจ้าให้คนไปรับหมอตำแยแล้ว" ฮูหยินอู่ซับเหงื่อให้ลี่ฟาง นางไม่เคยตั้งครรภ์มาก่อนแต่เห็นสีหน้าของลี่ฟางที่ต่อสู้กับความเจ็บปวดก็อดจะสงสารไม่ได้ ตอนนี้หมออู่ให้เสี่ยงไห่อุ้มลี่ฟางไปห้องรอคลอดแล้ว เขาแยกตัวออกไปเตรียมยาเร่งคลอดแทน หมอตำแยมาถึงก็ไม่ได้เสียเวลาถามอันใดเพิ่มทั้งคู่รีบเข้าไปในห้องทันที ตำแหน่งทารกอยู่ถูกที่แล้ว ตอนนี้รอเวลาให้ปากมดลูกเปิดเท่านั้น แต่ลี่ฟางเหมือนจะรอไม่ไหว นางไม่เคยรู้สึกทรมานเช่นนี้มาก่อน เคยถูกยิงหรือโดนแทงมาก่อนแต่เทียบกับความเจ็บปวดที่ร่างจะแยกออกจากกันในตอนนี้ไม่ได้เลย จนอดที่จะนึกถึงอดีตของภพก่อนไม่ได้ หากแม่ของนางต้องเจ็บปวดจากการคลอดขนาดนี้ทำไมถึงทิ้งนางได้ลงคอ หากไม่อยากเจ็บเช่นนี้ทำไมไม่ทำแท้ง ปล่อยให้นางเกิดมาแล้วทิ้งนางทำไม อาจจะเป็นเพราะคิดไปเรื่อยแล้วอยู่ในช่วงจิตใจอ่อนแอนางร้องไห้ออกมา ฮูหยินอู่ที่อยู่ในห้องคิดว่านางเจ็บปวดก็ลูบหัวปลอบโยนตลอดเวลา แม่นมจางนำน้ำแกงมาป้อนนางให้มีแรงเบ่งคลอด ในช่วงเวลานี้นางมองไปรอบๆห้องคนพวกนี้คือคนที่รักนางโดยแท้จริง ด้านนอกบ่าวก็ตื่นขึ้นมากันทุกคน นางจะน้อยใจเรื่องของภพก่อนไปทำไม เมื่อคิดได้ก็ยิ้มให้ทุกคนว่านางยังไหว ความเจ็บปวดไม่ได้มาตลอดเวลา นางจึงมีเวลาได้หายใจบ้าง หากปวดมากๆนางอยากจะขอให้หมออู่ผ่าท้องนางเสียเลย นางทำได้เพียงกัดปากจนเลือดออกไปหมด แม่นมจางเห็นก็ปวดใจจนต้องไปหาผ้ามาให้นางกัดแทน หมอตำแยให้ลี่ฟางนั่งพิงหัวเตียงคลอดในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน นางเจ็บท้องตั้งแต่กลางดึกจนฟ้าเกือบสว่างปากมดลูกก็เปิดออกไม่มาก จนหมออู่กลัวว่าจะเกิดอันตรายกับเด็กในท้องจึงให้ยาเร่งคลอดกับนาง เมื่อได้รับยาความปวดก็ยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ทางด้านลี่ฟางที่เจ็บปวดจากการคลอดอย่างหนัก หลินจางหย่งที่พักอยู่ในโรงเตี๊ยมกำลังเดินทางกลับเมืองหลวงก็เจ็บหัวใจจนคนติดตามล้วนทำอันใดไม่ถูก ความเจ็บเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อน มันเหมือนจะขาดใจ เจ็บจนเกือบประคองสติไว้ไม่อยู่ แต่เพียงไม่นานก็หายไป แต่เปลี่ยนเป็นความว่างเปล่าที่มีสิ่งใดหายไปแทน ความรู้สึกเช่นนี้เขาก็ตอบไม่ได้ว่าคือสิ่งใด แต่วูบหนึ่งในความคิดปรากฏใบหน้าของลี่ฟางขึ้นมา เขาได้แต่สลัดหัวเพราะเป็นสิ่งที่เขาอาจจะคิดไปเอง กว่าลี่ฟางจะคลอดออกมาก็เป็นยามเว่ย(13.00-14.59น.) แล้ว นางคลอดเด็กแฝดเพศชายทั้งคู่ เสียงร้องของคุณชายนายทำให้บ่าวในจวนต่างโห่ร้อง เพราะหมายถึงทั้งนายหญิงและคุณชายนายปลอดภัยทั้งหมด ตอนนี้เด็กแฝดอยู่ในอ้อมแขนของหมออู่กับฮูหยินอู่ ทั้งคู่ถึงกับหลั่งน้ำตาที่ได้หลานชาย ความผิดในใจ น้อยใจในโชคชะตาที่ไม่มีบุตร หายไปหมดเมื่อได้เห็นหน้าเด็กแฝด ลี่ฟางเห็นหน้าลูกก็หลับไปทันที ยังดีที่ในจวนมีแม่นมสองคนเตรียมไว้แล้วจึงไม่มีปัญหาเรื่องน้ำนม กู้หลิวหยางมาถึงจวนตระกูลจางหลังจากที่ลี่ฟางคลอดได้สิบวันแล้ว นางต้องอยู่ไฟเขาจึงไม่สะดวกที่จะเข้าไปพบ จึงได้แต่อยู่สนทนากับหมออู่และฮูหยินอู่ เขาได้อุ้มเด็กแฝดทั้งคู่ด้วย กู้หลิวหยางสวมกุญแจอายุยืนที่สั่งทำจากทองให้ทั้งคู่ด้วยตนเอง เด็กแฝดมีหมออู่ตั้งชื่อให้ คนพี่ชื่อ จางซีห่าว คนน้องชื่อจางซีฮัน ตอนออกมาวันแรกทั้งคู่ตัวแดงผิวหนังยับย่นจนลี่ฟางยังกลัวว่าลูกของตนจะน่าเกลียด สร้างเสียงขบขันไปทั้งเรือน จนฮูหยินอู่กับแม่นมจางต้องคอยปลอบว่าเด็กทุกคนออกมาก็เป็นเช่นนี้นางจึงเลิกกังวล ตอนนี้เด็กทั้งคู่ถูกเลี้ยงจนตัวขาวอวบ แขนเป็นปล้องเหมือนรากบัว ลี่ฟางยังชอบแกล้งขบแขนทั้งคู่ประจำ หากลูกไม่ร้องด้วยความรำคาญนางก็ไม่เลิก จนฮูหยินอู่ต้องอุ้มหลานหนีไปเลี้ยงเองที่เรือนของตน พิธีครบหมออู่ก็เชิญสหายของตน แล้วยังมีคู่ค้าของตระกูลจางมาร่วมยินดี เนื่องในหนเก่าที่เกิดจากลี่ฟางถูกลือท้องไม่มีพ่อก็เงียบหายไป เพราะหมออู่กับพ่อบ้านจางต่างบอกทุกคนว่าสามีของนางเสียชีวิตในสนามรบไปแล้ว หมออู่อวดความน่ารักของหลานแฝด พูดถึงความโชคดีของตนที่มีหลานทีเดียวสองคนจนสหายของเขาถลึงตาใส่ มันใช่งานฉลองเสียที่ไหน นี่เป็นงานอวดหลานตนเองเสียมากกว่า งานฉลองเดือนคนที่สบายที่สุดเห็นจะเป็นลี่ฟางเพราะนางต้องอยู่ไฟเลยไม่ต้องออกมารับรองของ ใครที่ได้พบนางต่างไม่อยากจะเชื่อว่าสตรีที่นอนอยู่ไฟภายในเรือนจะเพิ่งคลอดบุตรออกมาถึงสองคน หากไม่บอกทุกคนคงนึกว่าเป็นสตรีที่ไม่เคยผ่านการท้องหรือคลอดบุตรมาก่อนเลย ใบหน้าไม่มีแม้แต่กระ ผิวยังขาวใสราวกระเบื้องเคลือบที่บอบบาง ไม่มีรอยแตกหรือจุดด่างดำเช่นหญิงท้องทั่วไป ต้นแขนต้นขาก็ไม่บวม ฮูหยินทั้งหลายต่างอิจฉาในความงามของนาง ยังถามหาเคล็ดลับที่ใช้ดูแลตนเอง วันนี้นางจึงได้ขายสินค้าที่นางมีไปอีกด้วย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม