เมียแค่ในนาม
ตอนที่ 1
เมียแค่ในนาม
“คุณกานต์กลับมาแล้วนะคะ คุณฝ้าย”
คำบอกของแม่บ้านทำให้ ปรียา เงยหน้าจากการตัดแต่งกิ่งต้นกุหลาบเลื้อยเถางาม คิ้วเรียวสวยขมวดขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาคู่สีน้ำตาลเข้มมีแววครุ่นคิด ก่อนจะปรับเป็นปกติ แล้วก้มหน้าใส่ใจต้นไม้ตรงหน้าต่อ
“เอ่อ คุณฝ้ายคะป้าว่าให้ลุงเสริมมาทำต่อดีกว่าค่ะ”
ป้าแจ่ม บอกอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นว่านายหญิงคนสวยยังขมักเขม้นกับการดัดไม้เลื้อยเพื่อให้ได้ตามที่ต้องการ ในขณะที่ กานต์ ศรีพิพัฒน์ ผู้เป็นเจ้าของบ้านและสามีของเธอ ได้เดินทางมาถึงบ้าน และน่าจะขึ้นไปชั้นบนแล้ว
“ฝ้ายอยากทำให้เสร็จค่ะ เห็นลุงเสริมและคนงานกำลังง่วนอยู่กับแปลงด้านหลัง และฝนก็เริ่มลงเม็ดแล้ว กุหลาบจะได้แตกใบและสดชื่น”
ปารียา เอ่ยเสียงราบเรียบ ก่อนจะก้มหน้าใส่ใจกับกิ่งกุหลาบที่ไปคนละทิศละทาง คล้ายคำบอกของป้าแจ่ม นั้นไม่ใช่เรื่องสำลักสำคัญอะไร
“ไม่เสร็จก็ไม่เป็นไรมั้งคะ เดี๋ยวคุณกานต์ไม่เห็นคุณฝ้ายอยู่ข้างบนจะไม่พอใจเอานะคะ”
ไม่พอใจงั้นเหรอ? ...เขาก็ไม่พอใจเธอได้ตลอดนั่นแหละ
“เดี๋ยวฝ้ายพันกิ่งของต้นนี้เสร็จ จะขึ้นไปค่ะป้าแจ่มเข้าไปก่อนก็ได้ เผื่อคุณกานต์ต้องการอะไร”
กระนั้นเธอก็เอ่ยเสียงอ่อนลง เมื่อเห็นหน้าที่แสดงความกังวลของป้าแม่บ้าน ด้วยไม่อยากให้คนอื่นๆ ต้องพลอยมาโดนตำหนิจากคนพาลโดยใช่เหตุ
ใช่ เขาเป็นคนพาลและไร้หัวใจต่อคนรอบข้าง
โดยเฉพาะกับเธอผู้เป็นภรรยา ..ไม่ใช่ซิจะว่าเป็นภรรยาก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะเดือนกว่าแล้วที่เธอแต่งงานและย้ายมาอยู่กับเขาในบ้านหลัง เธอกับเขาก็ไม่มีความสัมพันธ์ทางกายกันเลย
และปรียา ก็ต้องการเช่นนั้น
เธอแต่งงานกับเขาเพราะเหตุผลบางอย่างกับผู้มีพระคุณที่เป็นบิดามารดาของ กานต์ ศรีพิพัฒน์ ผู้ชายไร้หัวใจคนนี้
“อยากแต่งก็แต่ง แต่ฉันไม่มีวันที่จะรักเธอ”
ปีศาจไร้หัวใจเคยบอกเธอไว้ในวันแต่งงาน และเธอก็จำมันได้ดี แม้ใจลึกๆเธอเองไม่ได้ปราถนาที่จะได้รับมิตรไมตรีที่ดีจากเขา แต่ก็ไม่คาดมาก่อนว่าเขาจะเย็นชากับเธอได้เพียงนี้
แต่ไม่เป็นไรเธอตกลงกับผู้มีพระคุณของเขาสำหรับเงื่อนใขการเยียวยาปีศาจไว้เพียงแค่หนึ่งปีเท่านั้น และอีกแค่สิบกว่าเดือนเท่านั้น ถือว่าบุญคุณก่อนหน้านี้ที่ตระกูลศรีพิพัฒน์คอยช่วยเหลือเธอได้ทดแทนหมดสิ้นกัน
และหลังจากนั้นเธอก็ไม่มีสิ่งที่จะต้องติดค้างอีกต่อไป
ซู่ๆๆ
เสียงน้ำจากฝักบัวดังเป็นระยะ เมื่อปรียาเดินเข้ามาในห้องนอนใหญ่ของเขา ปกติแล้วเธอจะนอนห้องนอนเล็กที่อยู่อีกฝั่ง แต่ก็จะเข้ามาเตรียมของใช้และดูแลเขาในแต่ละวันตามปกติ
อย่างน้อยก็สร้างภาพให้เด็กรับใช้ในบ้านได้เห็นว่า เธอและเขาคือคู่สามีภรรยากัน แม้จะด้วยเงื่อนใขอะไรก็ตาม
“หยิบผ้าขนหนูให้หน่อย”
เสียงทุ่มต่ำของปีศาจ ดังมาจากห้องน้ำ ดั่งรู้ว่าเธอกำลังเดินเข้ามาในห้อง ทั้งที่เธอพยายามจะเดินให้เบาที่สุดแล้ว
“คะ”
คิ้วสวยของปรียา ขมวดเล็กน้อย เมื่อมองเห็นผ้าขนหนูสีขาวพับไว้ที่ปลายเตียง
นี่เขาเดินเข้าห้องน้ำ แต่ไม่เตรียมผ้าขนหนูเข้าไป
“ผ้าขนหนูได้ยัง?”
เสียงดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้หญิงสาวจำต้องหยิบผ้าสีขาวเดินไปยังห้องอาบน้ำด้านใน
ประตูห้องน้ำเปิดแง้มไว้
แผงกั้นกระจกนั้นพอจะมองเห็นคนที่อยู่ด้านในได้ แม้จะมีไอน้ำเกาะเป็นฝ้าราง เรือนร่างเปลือยเปล่าแน่นเครียดยืนหันหลังอยู่ในนั้นใต้ฝักบัว
ลำคอของปรียาเริ่มจะแห้งผาก เมื่อมองผ่านกระจก
ความจริงเธอเคยเห็นเรือนร่างที่ไร้อาภรณ์ของเขามาแล้ว ทั้งแผงอกกำยำที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ หน้าท้องเป็นลอนคลื่นแน่นและต้นขาหนาแน่น
รวมทั้ง....
“จะจ้องอะไรนักหนา?”
ร่างหนาใต้ผักบัวเอ่ยถามเสียงเข้ม ดึงสติของปรียาให้กลับมา
“ผ้าขนหนูอยู่นี่คะ”
เธอวางผ้าขนหนูที่พับเรียบร้อยไว้ยังชั้นวางใกล้อ่างล้างหน้า และเตรียมจะเดินออกจากห้องน้ำ
“มันไกลไป ฉันหยิบไม่ถึงถือมาให้ใกล้ๆหน่อย”
คำบอกของเขา ทำให้ปรียายืนนิ่งอยู่เพียงครู่
“เงียบทำไม บอกให้เดินเอาผ้าขนหนูมาให้ตรงนี้”
กานต์ หันกลับมามองคนตัวเล็กที่ยืนถือผ้าในมือแน่นอยู่ตรงมุมห้องน้ำ เสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสกอตนั้นเต็มไปด้วยใบไม้และกิ่งหญ้า ข้อมือเรียวเล็กคล้ายจะมีรอยข่วนแดงอยู่เล็กน้อย
คิ้วหนาของ กานต์ เลิกคิ้วสูง
“มีแผลนิ!! บอกแล้วไงว่าไม่ต้องลงไปทำสวน”
ร่างหนาที่เปียกชื้นของ กานต์ ก้าวออกจากใต้ฝักบัวประชิดตัวเธออย่างรวดเร็ว และดึงข้อมือของเธอมาดูพร้อมฉลกแขนเสื้อเธอขึ้นทันที
ปรียายืนตัวแข็งทื่อ หัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อมองร่างเปลือยเปล่าแน่นเครียดของเขา ที่มีท่อนลำใหญ่อยู่ระหว่างขา
เธอไม่ได้ตั้งใจจะมอง
“คุณกานต์พันผ้าขนหนูก่อน”
“ทำไม?”
เขาเขยิบมาใกล้กว่าเดิม หน้าหล่อเหลาคมคายที่เปียกชื้นก้มดูรอยข่วนบนท้องแขนขาวของเธอ ก่อนจะนิ่วหน้าอย่างขุ่นเคือง
ปรียา กลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก
“ฝ้ายไม่เป็นไรค่ะ”
เธอเบือนหน้าหนีและรีบเบี่ยงกายหลบ เมื่อได้กลิ่นสบู่หอมอ่อนๆจากร่างกำยำของเขา
“ฮึ!! ทำกับอย่างไม่เคยเห็น”
กานต์ ยักไหล่เล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีของเธอ ก่อนจะโน้มตัวไปหยิบผ้าขนหนูที่วางไว้ด้านหลังมาซับหยดน้ำพร่างพราวที่อยู่บนหน้าคมคาย
ดวงตาสีนิลเข้มจับจ้องกรอบหน้างามของคนตรงหน้านิ่ง
“ไปใส่ยาให้เรียบร้อย”
เขาสั่งเสียงเข้มหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อเห็นเธอหันกลับมามองอย่างฉงน
“ไม่ได้เป็นห่วงที่เธอเป็นแผลหรอกนะ!! แค่ไม่อยากมานั่งตอบคำถามแม่ของฉันเวลามาหาเธอก็เท่านั้น”
*****************