ตอนที่ 3-1

898 Words
ตอนที่ 3 เวลาเพียงไม่นาน ชาร้อนๆส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ก็ถูกยกมาวางลงบนโต๊ะกลางสำหรับรับแขก เป็นเวลาเดียวกันกับที่คุณพวงแขทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย เดินยิ้มอ่อนเข้ามานั่งบนโซฟา ที่ลูกชายคนโตนั่งไขว่ห้างยิ้มกริ่ม สีหน้าคล้ายกับพอใจอะไรบางอย่างจนคนเป็นแม่อดสงสัยไม่ได้ “ยิ้มอะไรเหรอลูก" “เปล่าครับ ไม่มีอะไร" “ชาร้อนๆค่ะ คุณป้า" หญิงสาวเลือกที่จะยกให้กับผู้ใหญ่ ส่วนใครอีกคนนั้น เธอจงใจให้เขาหยิบถ้วยร้อนๆนั้นเอง “อุ้ยขอบใจจ้ะ" คุณพวงแขอมยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือไปรับถ้วยชาที่หญิงสาวมอบให้อย่างระมัดระวัง เกรงว่าจะหกรดโดนมือ “เดี๋ยววันนี้ป้าจะให้ลูกชายป้าพาหนูไปทำธุระเรื่องเอกสารให้เสร็จเรียบร้อย แล้วค่อยไปหาหนูวาวาด้วยกันนะ" “วาวาอยู่ที่ไหนเหรอคะตอนนี้" เมื่อพูดถึงหลานสาวน้ำตาก็รื้นขึ้นมา จนต้องรีบปาดเช็ด คิดถึงพี่สาวคนเดียวที่ต้องมาจากไป ทั้งๆที่ลูกยังน้อย “ป้าให้อยู่ที่คอนโดของพี่เขมเขานี่ล่ะ ตอนนี้อยู่กับพยาบาลให้เขาช่วยดูแล ว่าแต่ป้ายังไม่แนะนำเลย เรายังไม่เคยเจอพี่เขมเขาใช่ไหม” ฌาร์ริญณ์ถึงกับนิ่ง น้ำท่วมปากเมื่อได้ยินคำถามนั้นจากคุณพวงแข ที่กำลังมองเธออยู่ด้วยความเอ็นดู โดยไม่ลืมเหลือบสายตามองไปยังใครอีกคน เห็นแววตาวิบวับนั่น ยิ่งทำให้เธอนึกขุ่นเคือง พลันสมองกลับดันไปคิดถึงเรื่องบางเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ใบหน้าสวยเห่อร้อน แดงก่ำขึ้นมาทันที “เอ่อ...” “หึ...เคยเจอแล้วกันครับ" คำตอบราบเรียบ ทว่ากลับทำให้ใครบางคนถึงกับสะดุ้งโหยง รู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมา หันขวับไปมองด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าเขาจะจำเธอได้ หลงคิดว่าที่เขาทำนิ่งๆ จะแกล้งตีมึนใส่เธอ แล้วจะทำเนียนปล่อยผ่านเรื่องนั้นไปเสียอีก “อ้าว เราเคยเจอน้องสาวของน้ำปั่นแล้วเหรอ เมื่อไหร่ ทำไมแม่ไม่รู้” ชายหนุ่มยกยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเหล่สายตามองใบหน้าสวยที่กำลังเม้มปากแน่นด้วยความประหม่า ระคนตกใจ เพราะไม่คิดว่าที่เขานิ่งเงียบในตอนแรกนั้น จะจำเธอได้ตั้งแต่ต้น “งั้นก็ดีเลย แม่จะได้ไม่ต้องแนะนำอะไรให้ยุ่งยาก เดี๋ยวพอต้องอยู่ด้วยกันจะได้ไม่ต้องอึดอัด" “อยู่ด้วยกันอะไรเหรอคะ" “คืองี้นะหนูชา ป้าได้คุยกับพ่อเขมเขาแล้ว ว่าช่วงนี้ยัยหนูวาวาเขาค่อนข้างเปราะบ้าง ร้องไห้งอแงหาพ่อแม่เขาตลอด ถ้าได้หนูไปช่วยอยู่ ช่วยกันดูแล ก็อาจจะทำให้แกดีขึ้นก็ได้นะ ป้าเลยคิดว่าถ้าหนูย้ายไปอยู่ด้วยกัน ยัยหนูวาวาอาจจะดีขึ้น มีทั้งลุงทั้งน้าดูแล ลำพังแค่ป้าเองก็คงไม่ไหว ร่างกายไม่แข็งแรงจริงๆ แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ที่นั้นมีพยาบาลของป้าช่วยดูด้วย หนูไม่ต้องกังวลหรอกนะลูก" “อ่า...แล้วคุณป้าละคะ ไม่อยู่เอ่อ...” ท่าทีอึกอัก คล้ายลำบากใจทำให้ชายหนุ่มที่ลอบสังเกตสีหน้าเธอมาแต่ต้นอดพูดไม่ได้ “ถ้าน้องเขาไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรหรอกครับแม่" “อ้าว แล้วแกไม่ห่วงหลานแล้วเหรอ” “ห่วงสิครับ แต่ผมคิดว่าเอาอยู่” คุณพวงแขมองหน้าลูกชายคน โตแล้วนิ่งไปเล็กน้อย ในขณะที่สีหน้าของฌาร์ริญณ์ก็ดูครุ่นคิดไม่น้อย ก่อนจะเอ่ยตัดสินใจในท้ายที่สุด “เอ่อ...ถ้าชาไปหาหลาน อยู่เล่นด้วยจนกว่าแกจะนอน แต่ไม่ ค้างได้ไหมคะ" “เอาอย่างนั้นเหรอลูก" “ค่ะ” ตอบรับสั้นๆ ไม่กล้าสบตาใครบางคนที่กำลังจ้องมองดูเธอ อยู่เช่นกัน คิดว่าชาตินี้อย่างไรก็คงไม่พบกันอีก ในเมื่อเขาเลือกที่จะเงียบ หายไม่ติดต่อกันมา เธอก็คิดเอาไว้ แล้ว ถือว่าให้ประสบการณ์ชีวิตตัวเอง ใครจะไปคิดล่ะว่าเขาจะกลายเป็นญาติกันกลายๆเช่นนี้ โลกก็ช่างเหวี่ยงเรื่องแบบนี้มาให้เธอ ลำพังปัญหาชีวิตเดิมยังแก้ไม่ทันหาย ยังมีปัญหาใหม่เข้ามาให้กวนใจเพิ่มขึ้นไปอีก “เอาแบบนั้นก็ได้ ป้าเข้าใจเรา...เป็นผู้หญิงยิงเรือจะไปค้างอ้างแรมที่ห้องผู้ชายมันก็คงดูไม่เหมาะไม่ควรเท่าไหร่ งั้นเอาแบบนี้ก็ได้...” แค่ก แค่ก แค่ก หญิงสาวแทบสำลักน้ำลายเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากคุณพวงแข รู้สึกร้อนขึ้นมาเสียอย่างนั้น ยิ่งนัยน์ตาคู่คมกริบคู่นั้นเปล่งประกายวิบวับยามเมื่อสบตากัน ก็ทำให้เธอก็อยากจะเอานิ้วจิ้มตานัก “เขมอย่าลืมมาส่งน้องเขานะลูก" คุณพวงแขหันมาบอกลูกชาย ประโยคนั้นทำให้ฌาร์ริญณ์เผลอหันไปสบตาเขาเข้า กลับรู้สึกมวนท้องน้อย วูบวาบอย่างบอกไม่ถูก ใบหน้าขาวร้อนผะผ่าว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD