ขณะที่เธอกำลังสับสน ความคิดตียุ่งกันไปหมด เสียงคุ้นหูที่เธอเคยได้ยินก็ดังขึ้นแทรกเข้ามาในความคิด
“หนูชา...เป็นยังไงบ้างลูก" ฌาร์ริญณ์สะดุ้งเล็กน้อย หลุดออกจากภวังค์ความคิดตนเอง เสสายตามองไปยังหญิงสูงวัยอยู่ในชุดกระโปรงยาวสีดำ ปลายผมสั้นเพียงบ่าดัดม้วนเป็นลอน ส่งยิ้มที่เต็มไปด้วยความเมตตาและใจดีให้กับเธอ
“เอ่อสวัสดีค่ะคุณป้า...ชาสบายดีค่ะ คุณป้าละคะสบายดีไหมคะ” เอ่ยถาม โดยไม่แม้แต่เหลือบสายตาสบกับใครอีกคนที่ยืนจ้องมองเธออยู่
“จ้ะ ป้าสบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้ ก็มีแต่เรื่องนี้นี่ล่ะ" ปลายน้ำเสียงเจือสะอื้นเล็กน้อย เมื่อได้คิดถึงลูกชายคนเล็กที่เพิ่งจากไป หญิงสาวที่สะพายกระเป๋าไว้รอแต่แรกหมุนตัวปิดประตูบ้านเตรียมล็อกกุญแจ ตั้งท่าเตรียมจะเดินไปขึ้นรถเพราะไม่อยากให้ผู้ใหญ่รอนานกลับต้องชะงักเท้าและมือที่กำลังไขกุญแจ เมื่อได้ยินประโยคต่อมาว่า
“หนูชา พอดีป้าอยากขอไปเข้าห้องน้ำ หนูสะดวกหรือเปล่าจ๊ะ”
“เอ่อ...สะดวกค่ะคุณป้า เชิญเลยค่ะ" หญิงสาวรีบเก็บกุญแจใส่กระเป๋า เดินมาเปิดประตูรั้ว ที่ทำให้ร่างสูงถึงกับมุ่นคิ้ว สีหน้าคล้ายกับไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก เมื่อเห็นว่าหญิงสาวอยู่บ้านโดยไม่ล็อกประตูรั้ว
บ้านหลังใหญ่โตหรูหรา เพราะเป็นมรดาของพ่อแม่ ทว่ากลับเก่าแก่ไม่ค่อยมี ระบบความปลอดภัยอะไรดูแลมากนัก ไม่มีความเข้มงวดในการแลกบัตรเข้าออก เพราะเป็นโครงการที่มีมานาน ยิ่งอยู่ลำพังตัวคนเดียวเช่นนี้ หากใครจะบุกเข้ามาก็สามารถเข้าถึงตัวได้โดยง่าย
“ปกติอยู่บ้านไม่ล็อกประตูรั้วเหรอครับ" เสียงทุ้มเข้มคุ้นหู พาลทำให้ร่างเล็กถึงกับใจเต้นแรง สั่นประหม่า จนไม่อยากสบตาคู่คมนั่นที่กำลังจ้องมองผ่านแว่นกันแดดสีดำ สัมผัสได้ถึงรังสีบางอย่างที่ทะลุออกมา จนหล่อนเผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
“คือ...เอ่อ"
“ต่อไปต้องล็อกบ้านด้วย อยู่คนเดียวมันอันตราย" ร่างสูงเอ่ยบอกเสียงเรียบ ก่อนจะถือวิสาสะประคองคุณพวงแข มารดาของเขาเดินผ่านหน้าเธอเข้าไปในตัวบ้านอย่างถือวิสาสะ
หญิงสาวเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรง อยู่ๆก็รู้สึกโกรธเขาขึ้นมาดื้อๆ จากทีแรกเพียงแค่ยังงุนงง สับสน จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่เมื่อได้คิดดูดีๆแล้ว....เขาคือคนที่ฟันเธอแล้วทิ้ง ได้แล้วก็ไม่คิดติดต่อมา ทั้งๆที่บอกเธอเอาไว้ ว่าหลังจากแยกย้ายจะทักหรือโทรมาหา แต่นี่ก็เงียบหายไปจนกระทั่งวันนี้
ชิ ทำราวกับคนไม่เจอ ไม่เคยรู้จัก ยังมีหน้ามาดุใส่อีก ผู้ชายเฮงซวย คนทุเรศ ฟันแล้วทิ้ง อุตสาห์นึกว่าเป็นคนดี ที่ไหนได้ เจ็บใจๆๆๆๆๆๆๆ
ตากลมโตชำเลืองมองค้อนเขาอย่างไม่ปิดบัง
ในขณะที่ตัวเธอเองนั้นกำลังก่นด่าเขาอยู่ในใจ แต่เขากลับเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่ราบเรียบ จนอดหมั่นไส้ไม่ได้
“น้องน้ำชาครับ ไม่ทราบว่าห้องน้ำอยู่ทางไหน”
“อยู่ทางซ้าย เลี้ยวเข้าไปก็เจอค่ะ" เสียงหวานตอบเสียงเย็น ใบหน้าบึ้งตึงเย็นชาขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ ก่อนจะรีบสาวเท้าเข้ามาในตัวบ้าน เห็นเขาคนนั้นยืนอยู่กลางโถงบ้าน ในขณะที่คุณพวงแขคงจะเลี้ยวซ้ายไปยังห้องน้ำที่เธอบอก
หญิงสาวถึงกับยืนเคว้ง ทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะเมื่อได้ยืนอยู่ด้วยกันตามลำพังกับเขา บรรยากาศโดยรอบชวนให้อึดอัด จนหายใจไม่ทั่วท้อง
เห้อ! เอาไงล่ะทีนี้ ทำไมโลกต้องกลมขนาดนี้ด้วย
ถ้าคิดจะฟันแล้วทิ้ง ก็ไม่ควรจะต้องมาเจอกันในสภาพแบบนี้สิ
หญิงสาวแอบรำพันในใจ ก่อนจะ เหล่สายตามองยังร่างสูงที่ยังคงยืนนิ่ง จ้องมองมาที่เธออยู่เช่นกัน ร่างเล็กสะดุ้งเบาๆเมื่อได้สบประสานสายตาคู่นั้น ชวนให้วูบวาบ หายใจได้ไม่ทั่วท้อง
เขาเองก็นิ่งเสียเหลือเกิน ไม่คิดจะพูดอะไรเลยหรือไง…
เอ๊ะ หรือว่าเขาจะจำเธอไม่ได้…หรือว่าเขาจะทำให้เรื่องมันผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หึ! คงจะทำแบบนี้กับคนอื่นบ่อยล่ะสิ ชิ!
“เหมือนน้องน้ำชา กำลังต่อว่าอะไรพี่อยู่หรือเปล่าครับ" อยู่ๆเขาก็พูดประโยคที่ทำให้เธอถึงกับสะดุ้งเบาๆด้วยความตกใจ
“คะ!?....เอ่อ ชา…เอ๊ย ฉัน จะไปว่าอะไรคุณล่ะคะ"
“หึ ไม่รู้สิ พี่เห็นน้องน้ำชามองหน้าพี่ แล้วทำหน้าแปลกๆ ดูค้อนๆเคืองๆยังไงก็ไม่รู้” ชายหนุ่มกระตุกยิ้มเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม ชวนให้หญิงสาวรู้ร้อนรุุ่มในหัวใจบอกไม่ถูก อดชำเลืองค้อนมองเขาตรงๆไม่ได้
ชิ ทำเป็นไขสือ เหมือนคนไม่รู้จักกัน ทำให้มันตลอดล่ะ อย่าได้หลุดเชียวนะ !
กำลังคิดอะไรเพลินๆ แต่อยู่ๆก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อเขาคนนั้นกลับเดินเข้ามาใกล้จนชิด ลมหายใจอุ่นร้อนรดริน เอ่ยเสียงกระซิบชิดริมหู พาลขนหัวลุกไปหมด
“หิวน้ำจัง"
“คะ?!” สีหน้าเลิกลั่ก พลางขยับเท้าถอยหนีเล็กน้อย ตกใจเพราะไม่มีคิดว่าเขาจะมายืนจนใกล้ขนาดนี้
คนบ้า!ตกใจหมด
“หิวน้ำครับ" คนตัวสูงย้ำความต้องการด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มนิดๆ สายตาคู่คมนั้นกลับวิบวับราวกับมีประกายไฟ ทำเธอร้อนรุ่นแปลกๆ เอ่ยถามเขาน้ำเสียงตะกุกตะกัก หลบสายตา
“อะ...อ่อ...ขอโทษค่ะ จะรับน้ำอะไรดีคะ”
“ขอน้ำชาครับ พี่อยากดื่มน้ำชา" บอกเสียงทุ้มนุ่มน่าฟัง ขณะทอดสายตามอง นัยน์ตาแพรวพราว
ฌาร์ริญณ์สำลักน้ำลายหน้าขาวสลับแดง เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย แถมยังมายืนหายใจใกล้ๆ เล่นเอาหายใจไม่ทั่วท้อง นึกว่าหูฝาด
“แค่ก แค่ก แค่ก...อะไรนะคะ จะ..จะดื่มน้ำ...ชาเหรอคะ"
“ครับ...พี่...อยาก..ดื่ม...น้ำชา ขอสองที่นะครับเผื่อแม่พี่ด้วย" ชายหนุ่มจงใจพูดเมนูเครื่องดื่มช้าๆชัดๆ คล้ายแกล้ง ชวนให้คนฟังรู้สึกสยิว ขนลุกซู่ อย่างบอกไม่ถูกเพราะสมองดันคิดไปถึงเรื่องอะไรที่ไม่ควรจะคิดถึงในตอนนี้เสียได้
ฌาร์ริญณ์เหลือบตามองค้อนใส่อีกครั้ง
นี่เขากำลังยียวนเธอเล่นหรือยังไงกัน เมื่อกี้ยังทำนิ่ง เหมือนไม่รู้จักเธออยู่เลย ชิ
“เอ่อ...ถ้าจะดื่มชา” เส้นเสียงตกร่องจนต้องกระแอมไอเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อว่า
“ถ้าจะดื่มชาตอนนี้ ที่บ้านไม่มีหรอกค่ะ คงต้องไปหาดื่มข้างนอก"
“ใจร้ายจังเลยนะครับ พี่ก็เห็นอยู่ว่ามี"
“เอ๊ะ! พี่เขม!” เผลอเรียกชื่อเขาเสียงดังอย่างลืมตัว กว่าจะนึกขึ้นได้ว่าหล่อนตกหลุมพรางตาลุงเฒ่าจอมเจ้าเล่ห์เข้าให้แล้ว ก็ตอนเห็นเขายักคิ้วหลิ่วตาใส่ได้อย่างน่าหมั่นไส้
สรุปว่าเธอคือคนที่ต้องเผยไต๋ว่ารู้จักเขาก่อน แล้วตัวเขาล่ะ!
“ครับ?...นั่นไงครับ ชาเอิร์ลเกรย์นั่น ดื่มไม่ได้เหรอครับ” เขาชี้นิ้วไปยังกระปุกชาที่ตั้งวางอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ หน้าตาซื่อจนเธอนึกอยากเอาเล็บยาวๆของตนเอง ข่วนใส่หน้าแรงๆด้วยความหมั่นไส้
ใครใช้ให้หลายวินาทีก่อนหน้านี้มาทำสายตาเจ้าชู้ใส่ล่ะ ชิ
เจ้าของบ้านส่งตาค้อนวงใหญ่ให้คนตัวโต จงใจถอนหายใจดัง เดินไปยังเคาน์เตอร์เตรียมชงชาร้อนๆให้เขาได้ดื่มสมใจ